"Ready Player One" ผลงานไซไฟแอคชั่นของผู้กำกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่เพิ่งออกฉายทั่วโลกไม่กี่เดือนที่ผ่านมาในปีนี้ นับเป็นหนึ่งในหนังที่หยิบเอา Pop Culture ทั้งศิลปะ ภาพยนตร์ ดนตรี และแฟชั่นในยุค 80-90 มานำเสนอผสมรวมกับเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นของโลกอนาคต โดยเฉพาะเรื่องของ "เพลง" ที่เข้ามามีบทบาทในหนังไม่น้อยหน้าไปกว่าองค์ประกอบอื่นๆ

ส่วน "Deadpool 2" ผลงานภาคต่อของฮีโร่ชุดแดงงสุดเกรียนก็ไม่เพียงแค่หยิบเอาเรื่องราวในวงการภาพยนตร์และแวดวงนักแสดงมาแซะไปเรื่อย แต่ยังรวมถึงการหยอกล้อกับ Pop Culture ในอดีตเช่นกัน

        แม้ทั้ง  Ready Player One และ Deadpool 2 จะมีแนวหนังที่แตกต่างกัน แต่ต่างก็มีองค์ประกอบที่เป็น Pop Culture ในอดีตเป็นส่วนหนึ่งและความเหมือนของทั้ง 2 เรื่องก็คือการมีฉากที่ได้แรงบันดาลใจมากจากฉากอันน่าจดจำจากหนังโรแมนติก "Say Anything..." (1989) ปรากฏอยู่ในเรื่อง

โดยฉากที่ว่าของ "Say Anything..." คือฉากที่ตัวละคร ลอยด์ (รับบทโดย จอห์น คูแซ็ก) พยายามเอาชนะใจสาวในฝันกับการไปยืนหน้าบ้านของเธอพร้อมชูเครื่องวิทยุ (Boombox) ที่เปิดเพลง "In Your Eyes" ของศิลปิน ปีเตอร์ กาเบรียล ให้เธอได้ฟัง ซึ่งกลายมาเป็นหนึ่งในฉากที่เป็นอมตะมาถึงทุกวันนี้และมักถูกนำไปใช้ล้อเลียนหรือเลียนแบบบ่อยๆ ในหนังหลายเรื่อง

       ใน Ready Player One ฉากที่เวด วัตตส์ พยายามปลุกระดมคนในโอเอซิสเพื่อมาสู้ในสมรภูมิสุดท้ายก็จะเป็นภาพตัวละครนี้ในร่างอวตารชูเครื่องวิทยุไว้เหนือหัว ส่วนใน Deadpool 2 ก็คือฉากที่เดดพูลพยามไปง้อโคลอสซัส เพื่อขอโอกาสให้เขาอีกครั้งในการแก้ตัว ซึ่งเป็นฉากที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก "Say Anything..." นั่นเอง

ไรอัน เรย์โนลด์ นักแสดงนำของ Deadpool 2 กล่าวถึงการนำฉากนี้มาใส่ไว้ในหนังว่า "นี่คือหนึ่งในหนังหลายๆเรื่องที่พวกเราชื่นชอบมันมากๆ"

        นอกจากนี้อีกหนึ่งอย่างที่ทั้ง 2 เรื่องมีเหมือนกันก็คือเพลง "Take On Me" ของวง A-Ha ที่ Ready Player One ใช้ประกอบในตัวอย่างฉบับ TV Spot และเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาที่ตัวละครกล่าวถึง ส่วน Deadpool 2 เลือกที่จะนำเพลงนี้มาใช้ประกอบในหนึ่งของฉากสำคัญที่สุดของเรื่อง

เตรียมมันส์ไปกับการรวมพลคน โค-ตะ-ระ-เทพ ใน "Deadpool 2 - เดดพูล 2" ที่ได้ เดวิด ลิตช์ มารับหน้าที่กำกับ จากฝีมือรังสรรค์บทของ เร็ทท์ รีส และพอล เวอร์นิค พร้อมด้วยนักแสดงคับคั่ง อาทิ ไรอัน เรย์โนลด์ (เวด วิลสัน/เดดพูล), จอช โบรลิน (เคเบิล), เบรียน่า ฮิลเดอแบรนด์ (เอลลี่ ฟิมิสเตอร์/เนกาโซนิก ทีนเอจ วอร์เฮ้ด), สเตฟาน คาพิซิค (โคลอสซัส), เซซี่ บีทซ์ (โดมิโน่), คารัน โซนี (โดพินเดอร์), เลสลี่ อักแกมส์ (บลายด์ อัล) และโมเรนา บัคคาริน (วาเนสซ่า คาร์ไลส์) วันนี้ในโรงภาพยนตร์และสมจริงด้วยระบบ MX4D