การผจญภัย หัวใจ อารมณ์ขันและแฟนตาซีสุดยิ่งใหญ่ ใน 'A Wrinkle in Time' โดยผู้เขียนบท 'Frozen'
นิยายสำหรับเยาวชนของแมดเดอลีน เลงเกิลเรื่อง "A Wrinkle in Time ย่นเวลาทะลุมิติ" ได้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1962 ซึ่งมันก็ขึ้นหิ้งคลาสสิกทันที เรื่องราวอมตะของเด็กหญิงที่ตามหาพ่อในห้วงจักรวาลได้ร่ายมนต์สะกดผู้อ่านมากมายทั่วโลกและตามมาด้วหนังสืออีกสี่เล่มที่นำเสนอตัวละครชุดเดิมที่รู้จักกันในนามของสี่สหายท่องเวลาของเลงเกิล ในปี 1963 หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลนิวเบอรี่ มีดัล (ในฐานะวรรณกรรมเยาวชนที่โดดเด่นที่สุดในปีนั้น) และความนิยมของมันก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันนี้ หนังสือเล่มนี้ได้รับการแปลใน 35 ภาษาและทำยอดขายได้หลายล้านเล่มทั่วโลก
ห้าสิบปีให้หลัง ผู้บริหารดิสนีย์เริ่มพิจารณาไอเดียในการนำ "A Wrinkle in Time" ขึ้นสู่จอเงิน โดยผู้ที่เข้ามารับผิดชอบก็คือผู้กำกับวิสัยทัศน์กว้างไกล เอวา ดูเวอร์เนย์
ในปี 2014 สตูดิโอได้ทาบทามมือเขียนบทคนดัง เจนนิเฟอร์ ลี ("Frozen," "Wreck-It Ralph") ให้มาดัดแปลงนิยายของเลงเกิลให้เป็นบทภาพยนตร์ ซึ่งโอกาสนี้ก็ทำให้เธอตื่นเต้น "ตอนเป็นเด็ก หนังสือเรื่องนี้ท้าทายทุกอย่างที่ฉันเคยอ่านมาจนถึงตอนนั้นในชีวิตฉันในแง่ของจินตนาการ" ลีกล่าว "และมันก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รู้จักกับตัวละครอย่างเม็ก ที่มีชีวิตชีวา มีข้อบกพร่องและไม่เหมือนใคร คนที่ผ่านการผจญภัยพิเศษสุดและกลับออกมาเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าเดิมน่ะค่ะ"
ผู้อำนวยการสร้างจิม วิเทคเกอร์ ไม่มีปัญหาในการมอบหมายงานนี้ให้กับลี "เจนนิเฟอร์เป็นคนเขียนบท 'Frozen' ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังที่ได้รับความนิยมสูงสุดในรอบหลายปีมานี้ของดิสนีย์ และธีมกับไอเดียหลายๆ อย่างในหนังเรื่องนั้นก็มีคุณสมบัติที่คล้ายกับใน 'A Wrinkle in Time' ครับ" วิเทคเกอร์กล่าว "'Frozen' มีหัวใจ มีอารมณ์ขัน มันเป็นการผจญภัยสุดอลังการที่เหลือเชื่อ และมันก็มีเรื่องราวเล็กๆ เกี่ยวกับเด็กหญิงคนหนึ่งที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ และนั่นก็เหมือนกับหนังเรื่องนี้เลยครับ เจนนิเฟอร์ก็เลยมีคุณสมบัติที่เหมาะสมครบถ้วน"
"เจนนิเฟอร์รู้ว่าจะเขียนตัวละครที่มีมิติและน่าหลงใหลยังไง" วิเทคเกอร์กล่าว "ตอนที่คุณอ่านบทหนังของเธอ คุณจะรู้สึกเหมือนว่าคุณอยากจะอยู่กับตัวละครพวกนี้ และคุณก็จะเอาใจช่วยให้พวกเขาชนะ ซึ่งในฐานะมือเขียนบทแล้ว มันทำได้ยากนะครับ มันเป็นเรื่องของฝีมือที่ละเอียดอ่อนมากๆ ที่สามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาอยู่กับตัวละครทุกตัวด้วย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นน่ะครับ"
"A Wrinkle in Time เป็นหนังสือที่ผลักดันจินตนาการของคุณไปอีกระดับหนึ่งค่ะ" ลีกล่าว "หนังสือเรื่องนี้ไม่ได้ดำเนินตามโครงสร้างหนังทั่วๆ ไปเลย แต่มันเป็นอะไรที่สูงส่ง มีความเป็นจิตวิญญาณมากๆ และมันก็จะแทรกซึมเข้าไปในความคิดของคุณ ในตอนที่คุณมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับหนังสือ มันก็เป็นเรื่องโอเคเลยค่ะเพราะนั่นคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับการอ่าน สมองของคุณจะเติมเต็มช่องว่างด้วยสิ่งที่คุณอยากจะเห็น แต่กับหนัง ฉันจะต้องตัดสินใจค่ะ"
เธอกล่าวต่อไปว่า "ตอนที่ฉันเขียนเกี่ยวกับโลกใบหนึ่งที่เด็กๆ ไปเยือน และอธิบายว่ามันมีลักษณะอย่างไร มันก็มีเรื่องของความรับผิดชอบที่ต้องพยายามกระตุ้นความรู้สึกแบบเดียวกับในหนังสือ แต่ไม่จำกัดอยู่เพียงแค่สิ่งที่หนังสือสามารถทำได้ เพราะนี่เป็นการเดินทางที่เปี่ยมอารมณ์ของเม็ก ฉันจะต้องเข้าไปในความคิดของเธอและตีความทุกอย่างออกมาเป็นหนัง ในแบบที่กระตุ้นอารมณ์และเปี่ยมด้วยอารมณ์เหมือนกับในหนังสือน่ะค่ะ"
เตรียมออกเดินทางสู่การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ใน "A Wrinkle in Time ย่นเวลาทะลุมิติ" วันนี้ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างภาพยนตร์