ฉลองการเปิดประชาคมอาเซียน กท. วัฒนธรรม จัดยิ่งใหญ่ “เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2559 คัดสรร 10 ภาพยนตร์ระดับมาสเตอร์พีซ ชมฟรี ทุกเรื่อง ทุกรอบ
กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เดินหน้าสานต่อความสำเร็จต่อเนื่องจัด “เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2559 (BANGKOK ASEAN FILM FESTIVAL 2016)” ครั้งที่ 2 โดยในปีนี้จัดให้เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้อาเซียนเอ็กซ์โป(ASEAN expo) ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัว โดยคัดสรรภาพยนตร์คุณภาพเยี่ยม 10 เรื่องจาก 10 ประเทศสมาชิกในกลุ่มประชาคมอาเซียน พร้อมเข้าถึงและเป็นมิตรคนไทยด้วยบทบรรยายไทย – อังกฤษ และเอาใจคอภาพยนตร์คลาสสิกกับอีก 3 ภาพยนตร์ระดับตำนานจาก อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ให้ประชาชนได้ร่วมรำลึกถึงใน “อาเซียน คลาสสิก (ASEAN Classic)” จัดฉายฟรี ทุกเรื่อง ทุกรอบ ระหว่างวันที่ 22-26 เมษายน 2559 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเอาใจคอหนังต่างจังหวัดจัดเทศกาลต่อเนื่องยังขอนแก่น, สุราษฎร์ธานี และ เชียงใหม่ ให้ประชาชนได้ชมกันอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่
โดย“เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2559 (BANGKOK ASEAN FILM FESTIVAL 2016)” ได้คัดสรรภาพยนตร์คุณภาพที่มีเนื้อหาหลากหลายทั้งดราม่า คอมเมดี้ แอ็คชั่น ภาพยนตร์สารคดี ซึ่งล้วนแต่เป็นหนังได้รับการคัดเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติต่างๆ มาแล้วทั้งสิ้นจำนวน 10 เรื่องจาก จาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างให้เกิดการเรียนรู้ทางวัฒนธรรมผ่านทางแผ่นฟิล์มอันเนื่องมาจากภาพยนตร์ ทุกเรื่องสะท้อนความเป็นตัวตนทางสังคม รวมถึงความคิด และทัศนคติของคนแต่ละประเทศในกลุ่มอาเซียน พร้อมทั้งเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา และผลักดันให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของชาติกลุ่มอาเซียน ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในทวีปเอเชีย และระดับนานาชาติต่อไป
เริ่มต้นที่ภาพยนตร์เปิดเทศกาล "Distance" ผลงานภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างของไทย, จีน และ สิงคโปร์ โดยมีผู้กำกับไทยร่วมด้วยคือ “ศิวโรจน์ คงสกุล” โดยภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ (และระยะห่าง) ระหว่างคนในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่าง หนังประกอบไปด้วย 3 พาร์ทที่ถ่ายทำใน 3 ประเทศ คือสิงคโปร์ ไทย และจีน โดย "Distance"ได้รับเกียรติให้เป็นภาพยนตร์ฉายเปิดเทศกาล Golden Horse Film Festival ครั้งที่ 52 ที่ประเทศไต้หวัน เมื่อปีที่ผ่านมา
“A Copy of My Mind” ภาพยนตร์สัญชาติอินโดนีเซียที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เทศกาลภาพยนตร์เวนิส 2015 และได้รับเลือกให้ไปฉายยังเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน เรื่องราวของซารี พนักงานสปาที่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ วันหนึ่งเธอได้ไปซื้อดีวีดี และได้พบกับอเล็กพ่อค้าดีวีดีหนุ่ม ทั้งคู่ได้ตกหลุมรักกันและกลายมาเป็นแฟนกัน ซารีตัดสินใจย้ายงานจากร้านเดิม ไปทำงานยังสปาอีกแห่งที่เน้นลูกค้าไฮโซ ที่นี่เธอได้พบกับลูกค้าไฮโซคนหนึ่งที่จะนำเรื่องราววุ่นวายต่างๆ มาสู่ชีวิตของเธอ อเล็กจะสามารถช่วยเหลือเธอให้พ้นไปจากความวุ่นวายนี้ได้หรือไม่
“Yasmine” ภาพยนตร์สัญชาติบรูไน ที่นำเสนอศิลปะป้องกันตัวของอาเซียนอย่างปัญจสีลัต ถ่ายทำในบรูไนดารุสซาลาม โดยได้ชาน มาน ชิง ทีมสตั๊นท์ของเฉินหลงมากำกับฉากแอ๊คชั่นให้ พร้อมได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติและการประกาศรางวัลภาพยนตร์อาเซียน และ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเนอชาแตล เรื่องราวของยัสมิน หญิงสาวที่อยากเป็นแชมป์ปัญจสีลัต เพื่อเอาชนะใจชายหนุ่มที่เธอแอบชอบ ซึ่งทำให้เธอขัดแย้งกับเพื่อนรักรวมถึงพ่อของเธอ เธอจึงต้องพยายามยิ่งขึ้นในการแข่งขันเพื่อพิสูจน์ตนเอง
ต่อด้วยภาพยนตร์ดราม่าสัญชาติลาว “Above It All” เล่าเรื่องราวของ “น้อย” เป็นนักศึกษาแพทย์ที่กำลังถูกครอบครัวบังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวที่ร่ำรวย ทำให้เขาไม่สามารถทนปิดบังความจริงบางอย่างได้อีกต่อไป เขาจึงตัดสินใจบอกความลับของเขากับพ่อและแม่ของเขา ในขณะเดียวกัน “น้อย” หญิงสาวชาวม้งที่กำลังจะจบการศึกษาต้องเผชิญกับความลำบากใจ เพราะเธอจะต้องตัดสินใจเลือกว่าจะคบหากับแฟนหนุ่มที่เป็นนักดนตรีต่อไป หรือจะยอมเดินทางไปต่างประเทศเพื่อแต่งงานกับเจ้าหนี้ของพ่อและแม่ของเธอ
“Taklub” ภาพยนตร์ฟิลิปินส์ที่ไปชนะรางวัลที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปีก่อน เล่าเรื่องราวของตัวละครหลักสามตัว คือเบเบธ แลร์รี่ และเออร์วิน ที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดหลังจากต้องประสบกับพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ไม่เพียงแต่ต้องสูญเสียผู้เป็นที่รักไปเท่านั้น พวกเขา ยังต้องพบกับเรื่องราว ที่มาจากนํ้ามือของธรรมชาติและมนุษย์ ที่จะมาเป็นบททดสอบพวกเขา จนถึงเวลาที่นํ้าตาแห่งความโศกเศร้าจะหมดไป
และภาพยนตร์ไทยที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากเวทีสุพรรณหงส์ครั้งที่ผ่านมา ในสาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม พร้อมชนะรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติรอตเทอร์ดาม “เพลงของข้าว” ภาพยนตร์นำเสนอมุมมองวิถีของข้าวที่มีต่อวิถีของชาวนาในพื้นที่ทั่วประเทศไทย ด้วยการถ่ายทำที่ตื่นตาตื่นใจ สร้างความประทับใจผ่านชีวิตเปี่ยมสีสันของผู้คนที่ร่วมกันเฉลิมฉลองวาระต่างๆ ของวิถีแห่งข้าวที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี และด้วยความพิเศษของเทคนิคการถ่ายทำที่งดงามในแบบที่ไม่เคยเห็นในภาพยนตร์ไทยเรื่องใดมาก่อน
นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์อีกหลากทั้งแอคชั่น โรแมนติก ดราม่า คอมเมดี้หลายจากประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น “3688” จากสิงคโปร์, “3.50” จากกัมพูชา, , “Bitcoins Heist” จากเวียดนาม และ “Day and Night Omnibus” จากมาเลเซีย และ “kayan Beauties” จาหพม่า มาให้ประชาชนได้เลือกชมอย่างเต็มอิ่ม
และพิเศษสุดในปีนี้สำหรับ“เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2559 (BANGKOK ASEAN FILM FESTIVAL 2016)” ทาง “หอภาพยนตร์” ชวนประชาชนร่วมรำลึกถึง 3 ภาพยนตร์อาเซียนระดับตำนานใน“คลาสสิก อาเซียน ฟิล์ม (Classic ASEAN Film)” นำภาพยนตร์ระดับขึ้นหิ้งของอาเซียน ได้แก่ “After the Curfew”(1954) จากอินโดนีเซีย, “Manila in the Claws of Light”(1975) และ “The Snake Man”(1970) หรือ “งูเก็งกอง”ภาพยนตร์กัมพูชาระดับตำนานที่อยู่ในความทรงจำของชาวไทย โดย“คลาสสิก อาเซียน ฟิล์ม” จะจัดฉายภายใน เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2559 ที่จะจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 22-26 เมษายน 2559 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เท่านั้น
สำหรับ“เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2559 (BANGKOK ASEAN FILM FESTIVAL 2019)” จะจัดฉายพร้อมบทบรรยายภาษาไทย-อังกฤษ ฟรี ทุกเรื่องทุกรอบ ระหว่างวันที่ 22-26 เมษายน 2559 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และเพื่อให้คอหนังต่างจังหวัดได้มีโอกาสรับชมภาพยนตร์คุณภาพ จึงจัดเทศกาลฯ ต่อเนื่องในจังหวัดต่างๆ เริ่มต้นที่จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 28 เมษายน - 4 พฤษภาคม 2559 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า ศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซ่า ขอนแก่น ต่อด้วยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 6-12 พฤษภาคม 2559 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า ศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซ่าสุราษฎร์ธานี และปิดท้ายที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2559 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ เชียงใหม่ โดยสามารถรับบัตรชมภาพยนตร์ฟรีได้ที่จุดประชาสัมพันธ์เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2559 บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ก่อนรอบฉาย 30 นาที(รับบัตรชมภาพยนตร์ได้1ท่านต่อ1ใบ) ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SF Call Center 02-268-8888 และ www.sfcinemacity.com หรือ www.facebook.com/welovesf