นาฬิกา 6 รุ่น ที่เป็นเอกลักษณ์ของเจมส์ บอนด์
ข่าวคราวบ้านเรายังไม่พ้นจากเรื่องนาฬิกาหรู ที่วันนี้โผล่มา 25 เรือนแล้ว คอยๆ ตามไป เดี๋ยวน่าจะถึง 30 เรือน มาอ่านบทความนี้วนเวียนอยู่กับเรื่องนาฬิาเช่นกัน แล้วเป็นนาฬิกาของคนดังระดับโลกเสียด้วย ที่มีหนังออกมาจะถึงตอนที่ 25 แล้วเช่นกัน เจมส์ บอนด์ สายลับ 007 นั่นเอง สายลับชาวอังกฤษเมืองผู้ดีที่ภาพลักษณ์ต้องหรูเนี้ยบตลอดเวลา มากับสูทราคาแพง รถสปอร์ตหรู และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือนาฬิกาก็ต้องยี่ห้อหรูเท่านั้น ในนิยายต้นฉบับของเอียน เฟลมมิ่ง บรรยายนาฬิกาของเจมส์ บอนด์ ไว้ว่า "เขาไม่ใช่คนที่จะใส่นาฬิกาอะไรก็ได้นะ มันต้องเป็นโรเล็กซ์เท่านั้น" วลีนี้จบแค่ในนิยายครับ มันใช้ไม่ได้ในโลกธุรกิจภาพยนตร์ สปอนเซอร์นาฬิการายไหนมีเงินสู้ค่าโฆษณาแฝงในหนังได้ เจมส์ บอนด์ ก็จะใส่นาฬิกายี่ห้อนั้นล่ะ เพราะเขาคือ เจมส์ บอนด์นะ สายลับอันดับหนึ่งของโลก มีอิทธิพลมากพอ ที่ไม่ว่าหยิบจับแตะต้องอะไรในหนังมันก็จะกลายเป็นภาพจดจำให้คนดูจำเป็นแบบอย่าง สูทยี่ห้อนี้ รถยี่ห้อนั้น และโดยเฉพาะนาฬิกาของเจมส์ บอนด์ ที่เอียน เฟลมมิ่งผู้ประพันธ์ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ "การเลือกใส่นาฬิกาของสุภาพบุรุษ มันสามารถบ่งบอกความเป็นตัวนของเขาได้มากมาย"
วันนี้เรามาดูนาฬิกา 6 รุ่น 6 อันดับ ที่เป็นที่จดจำจากหนัง 24 ภาคของเจมส์ บอนด์กัน ทุกเรือนหาซื้อได้ บางเรือนราคาไม่โหดนัก หาซื้อได้ไม่ต้องไปยืมเพื่อนใส่
1. ROLEX SUBMARINER
เจมส์ บอนด์ ใส่ในตอน Dr. No, From Russia With Love, Goldfinger, Thunderball
จัดว่าเป็นนาฬิกาของเจมส์ บอนด์ ที่คนดูจดจำได้มากที่สุด เพราะมันอยู่บนข้อมือของ ฌอน คอนเนอรี่ ใน 4 ภาคแรกเลย ชื่อเต็มของรุ่นนี้คือ 'Rolex Oyster Perpetual Submariner'
ROLEX SUBMARINER เรือนนี้ ปรากฏเด่นชัดมากในตอน Goldfinger เมื่อ เจมส์ บอนด์ เอาไฟแช็คส่องดูเวลาที่หน้าปัด แฟนหนังหลายคนมั่นใจว่า ROLEX SUBMARINER นี่เป็นของส่วนตัวของ ฌอน คอนเนอรี่ เอง , ล่าสุด ROLEX SUBMARINER จากในหนังเจมส์ บอนด์ นี้ ถูกประมูลไปที่ราคา $60,000 (1.9ล้านบาท)
2. GRUEN PRECISION 510
เจมส์ บอนด์ ใส่ในตอน Dr. No, You Only Live Twice
ROLEX SUBMARINER คือตัวแทนของนาฬิกาในปฏิบัติการแรกๆ ของบอนด์ ส่วน GRUEN PRECISION 510 จะต้องถูกจดจำในฐานะนาฬิกาเรือนแรกที่บอนด์ใส่ให้เห็นบนจอหนัง ดังจะเห็นได้ชัดในฉากที่บอนด์เล่นไพ่ฉากนี้ล่ะ GRUEN PRECISION 510 มากับรูปลักษณ์โดดเด่นด้วยตัวเรือนขอบทองบนหน้าปัดสีขาว มีเอกลัษณ์เฉพาะที่หน้าปัดขนาด 34 มม. (นาฬิกาส่วนใหญ่จะมาที่ขนาด 32 มม. และ 37 มม.) ตัวเลข เข็มสั้น เข็มยาวและกรอบล้วนเป็นสีทอง สายผ้าสีดำลอดใต้ตัวเรือน ล้วนเป็นรูปทรงที่ดูสง่าเหมาะกับจะใส่กับชุดทักซีโด เป็นตัวเลือกที่ถูกแล้วของเจมส์ บอนด์ ที่ไม่ใส่นาฬิกาดำน้ำอย่างที่คุ้นเคยมาในคลับหรูแบบนี้ บริษัท Gruen เคยเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการนาฬิกาของอเมริกา ก่อนจะปิดตัวลงในปี 1977 ราคาของ GRUEN PRECISION 510 ใน E-Bay ตอนนี้ 2,2xx บาทครับ
3. HAMILTON PULSAR P2/2900 "ASTRONAUT"
เจมส์ บอนด์ ใส่ในตอน Live And Let Die
แม้ว่าจะเป็นนาฬิกาที่โดนล้อว่ารูปทรงเหมือนเตาไมโครเวฟ แต่ว่า The Pulsar P2 ก็เป็นนาฬิกาที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุดแล้วในยุคนั้น ตอนมันปรากฏบนข้อมือของโรเจอร์ มัวร์ ใน Live And Let Die (1973)ในวันนั้นคือภาพที่ชวนฮือฮาสุด เหมือนกับว่าเจมส์ บอนด์ กำลังพาเราเข้าสู่ยุคดิจิตอล แต่แล้ววันนี้เทคโนโลยี LCD ของตัวเลขหน้าจอ The Pulsar P2 ก็กลายเป็นของเชยล้าสมัยไปแล้ว ในอนาคตอันใกล้นี้ก็เช่นกัน เทคโนโลยี LED ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็จะต้องตกยุคตามกันไป แต่ไม่ว่าเทคโนโลยีไหนจะเอาท์ไป แต่ว่าเจมส์ บอนด์ ก็จะเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีเสมอไป HAMILTON PULSAR P2/2900 "ASTRONAUT" ราคา ใน Ebay วันนี้ 2,4xx บาท
4. BREITLING TOP TIME
เจมส์ บอนด์ ใส่ในตอน Thunderball
แม้จะเผยโฉมครั้งแรกใน Thunderball (1965) ตั้ง 53 ปีที่แล้ว แต่วันนี้ BREITLING TOP TIME ก็ยังเป็นนาฬิกาทรงคุณค่าอยู่ เมื่อปี 2013 มีคนไปพบมันในตลาดเปิดท้ายขายของ และซื้อมันมาในราคาเพียง 1,100 บาท ไม่นานจากนั้น BREITLING TOP TIME เรือนนี้ถูกส่งไปให้ "สถาบันคริสตี้"จัดประมูล และมันจบลงที่ราคา 160,383 เหรียญ (5.1 ล้านบาท)
ทำไมนาฬิกาเรือนนี้ของบอนด์มันถึงราคาสูงลิบลิ่วนัก เหตุเพราะว่ามันมีจุดที่น่าจดจำในประวัติศาสตร์ของเจมส์ บอนด์ BREITLING TOP TIME คือนาฬิกาเรือนแรกที่ คิว อัจฉริยะนักประดิษฐ์ประจำ MI6 ผลิตให้บอนด์ พร้อมติดตั้งกลไกค้นหากัมมันตภาพรังสีไว้ภายใน เพื่อให้บอนด์ตามหาระเบิดอะตอมมิก ที่องค์การสเปคเตอร์ขโมยไป
5. TAG HEUER PROFESSIONAL 200M
เจมส์ บอนด์ ใส่ในตอน The Living Day Lights
แฟนๆ มักจะจดจำว่านาฬิกาของบอนด์มักจะเป็น โรเล็กซ์ หรือไม่ก็ โอเมก้า แต่ว่าเชื่อไหม ครั้งหนึ่งเขาก็เคยใส่ TAG HEUER สวมโดย ทิโมธี ดัลตัน ในตอน The Living Daylights ปี 1987 , TAG HEUER รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ผลิตมาเฉพาะ แต่ก็ไม่มีใครสนใจหรือพูดถึงมาหลายสิบปี จนกระทั่งมีนักสะสมนาฬิกาจอมสอดรู้ ไปสอดส่องช่วงเวลาแค่ 10 วินาทีที่ ทิโมธี ใส่เจ้าเรือนนี้ให้เห็นในหนัง และพินิจดูจนรู้ว่ามันคือ TAG HEUER PROFESSIONAL 200M ราคาใน Ebay มีตั้งแต่ 8,000 - 25,000 บาท
6. OMEGA SEAMASTER 300M
เจมส์ บอนด์ ใส่ในตอน Tomorrow Never Dies, The World is Not Enough, Goldeneye
หนัง 007 เริ่มมีพันธะสัญญากับแบรนด์ โอเมก้า มาตั้งแต่ GoldenEye ปี 1995 ภาพแรกของ Seamaster Diver 300M ตัวเรือนสีน้ำเงิน ปรากฏบนข้อมือของ เพียซ บรอสแนน ไอเดียนี้มาจาก ลินดี เฮมมิ่ง นักออกแบบเครื่องแต่งกายรางวัลออสการ์ เธอให้ข้อเสนอแนะว่า เจมส์ บอนด์ คือสุภาพบุรุษที่มาพร้อมมาดสุขุม ควรใส่รุ่นซีมาสเตอร์ตัวเรือนสีน้ำเงินแล้วจะเข้ากันมาก
เจมส์ บอนด์ ในยุคของเพียซ บรอสแนน เลยมาพร้อมกับโอเมก้า ซีมาสเตอร์ ที่ถูกติดเขี้ยวเล็บเพื่อให้เข้ากับหนังเจมส์ บอนด์ มันเลยเป็นนาฬิกาที่มาพร้อมกับ ปืนยิงเลเซอร์ ปืนยิงตะขอ เป็นกับระเบิด ,โอเมก้า ซีมาสเตอร์ ยังคงอยู่ต่อเนื่องมาในยุคบอนด์ของ แดเนียล เครก แต่ว่ามาในตัวเรือนสีดำ เพื่อให้สะท้อนถึงบุคลิกภาพของบอนด์ ที่ซุกซ่อนความเจ็บปวดอยู่ในใจลึก ๆ OMEGA SEAMASTER 300M ราคามีตั้งแต่ 50,000 จนถึง 190,000 บาท