พิสูจน์คุณค่า 6 หนังรางวัลลูกโลกทองคำที่ลงโรงฉายในบ้านเรา

Movie News9 มกราคม 2561

1. Darkest Hour



เรต : PG-13
ความยาว : 2 ชั่วโมง 5 นาที
ผู้กำกับ : โจ ไรท์
นักแสดง : แกรี่ โอลด์แมน , ลิลลี่ เจมส์ , คริสติน สกอตต์ โธมัส
รางวัลที่ได้รับ : แกรี่ โอลด์แมน นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ดราม่า

เรื่องราวเกี่ยวกับ : หนังเล่าวีรกรรมของวินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ต้องรับมือกับเหตุตึงเครียดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อนาซีเดินทัพมาจ่อประตูบ้านประเทศอังกฤษแล้ว วินสตัน จะพาอังกฤษผ่านวิกฤตการณ์นี้ไปได้อย่างไร แกรี่ โอลด์แมน นักแสดงเจ้าบทบาทสัญชาติอังกฤษวัย 60 ปี เขาผ่านบทบาทมามากมายแล้วกว่า 90 เรื่องทั้งหนังโรงและทีวี แม้ผู้ชมจะติดภาพเขากับผู้ร้ายในหนังหลาย ๆ เรื่อง แต่อีกหลายเรื่องที่แกรี่ ก็พิสูจน์บทบาทให้เห็นว่าเขาก็เล่นเป็นคนดีได้นะ อย่างบทผู้บัญชาการกอร์ดอน ใน The Dark Knight (2008) และเป็นเรื่องแปลกที่นักแสดงมากฝีมือผู้นี้ไม่เคยได้สัมผัสรางวัลใหญ่ทั้งลูกโลกทองคำ หรือ ออสการ์เลยสักครั้ง ทั้งที่กวาดรางวัลบนเวทีอื่น ๆ มาแล้วถึง 41 ตัว ใกล้ที่สุดคือการได้รับเสนอชื่อเข้าชิงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์จากเรื่อง Tinker Tailor Soldier Spy (2011) แล้วก็พลาดไป ถึงวันนี้กับการทุ่มเทพลิกโฉมเป็นวินสตัน เชอร์ชิล แบบจำหน้ากันไม่ได้เลย ถือว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของแกรี่ ในอาชีพการแสดงนี้เลย ก็สมควรแล้วกับรางวัลนี้ รอลุ้นอีกครั้งว่าแกรี่ จะได้ออสการ์ด้วยไหม

Darkest Hour กำหนดเข้าฉาย 11 มกราคม 2561

 

2. The Shape Of Water



เรต : R
ความยาว : 2 ชั่วโมง 3 นาที
ผู้กำกับ : กิลเลอร์โม เดลโตโร
นักแสดง : แซลลี่ ฮอว์คกินส์ , ออคตาเวีย สเปนเซอร์ , ไมเคิล แชนนอน
รางวัลที่ได้รับ : ผู้กำกับยอดเยี่ยม , ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม  ที่พลาดไปคือ  รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาดราม่า , บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม , นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม , นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม , นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม

เรื่องราวเกี่ยวกับ : เรื่องราวในยุคสงครามเย็นช่วงปี 1960 เอลิซา เอสโปซิโต ภารโรงสาวในแล็บลับสุดยอดของรัฐบาล ได้บังเอิญพบว่ารัฐบาลทำการสร้างสัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ในน้ำ และเธอก็ค่อย ๆ สานสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสัตว์ประหลาดตัวนั้นกิลเลอร์โม เดลโตโร เป็นผู้กำกับที่ถนัดทั้งหนังที่เอาใจนักวิจารณ์และสายรางวัลอย่างที่เขาเคยทำ Pan's Labyrynth ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงออสการ์มาแล้ว และหนังเอาใจตลาดที่กวาดรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับสตูดิโออย่าง Pacific Rim และ Hellboy วันนี้กิลเลอร์โม ขอพักเหนื่อยจากหนังฟอร์มใหญ่ทุนสูงมาทำหนังเล็ก ๆ เอาใจตัวเองอย่าง The Shape Of Water ที่ไม่ต้องใช้ทุนหนามากสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์และไม่ต้องใช้ดาราขายชื่อมาพิสูจน์ให้วงการเห็นว่าหนังดูสนุกและกวาดรางวัลได้ด้วยน่ะเป็นอย่างไร ก่อนมาถึงเวทีลูกโลกทองคำ The Shape Of Water ก็กวาดรางวัลเวทีเล็กมาแล้วถึง 53 ตัว และยังได้รับคะแนนในเว็บ Rottentomatoes สูงถึง 93% นักวิจารณ์ให้มะเขือเทศสด 226 คน ให้มะเขือเทศเน่าเพียง 18 คน

The Shape Of Water มีกำหนดเข้าฉาย 1 กุมภาพันธ์ 2561

 

3. Lady Bird



เรต : R
ความยาว : 1 ชั่วโมง 34 นาที
ผู้กำกับ : เกรตา เกอร์วิก
นักแสดง : เชียร์ช่า โรแนน , ลอรี่ เมตคลาฟ , เทรซี่ เล็ตต์
รางวัลที่ได้รับ : ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาดนตรีและคอมมีดี้ , นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสาขาดนตรีและคอมมีดี้  ส่วนที่พลาดไปคือ รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

เรื่องราวเกี่ยวกับ : หนังก้าวพ้นวัย เรื่องของ คริสติน "เลดี้เบิร์ด" แมคเฟอร์สัน สาววัย 17 ในเมืองซาคราเมนโต้ , คริสติน ต้องการผจญภัย ไขว่คว้าโอกาสและประสบการณ์แต่เธอรู้สึกว่าเธอไม่สามารถหาสิ่งเหล่านี้ได้ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้เลย หนังเกาะติดชีวิตของคริสตินในปีสุดท้ายของวัยมัธยมที่เธอต้องเจอกับรักครั้งแรก การมีส่วนร่วมในละครเวทีของโรงเรียนและ การเดินเข้าสู่ชีวิตในมหาวิทยาลัย

ชัยชนะครั้งนี้เป็นการพิสูจน์ความสามารถของ 2 สาว 2 วัยที่มากประสบการณ์ หนึ่งคือ เกรตา เกอร์วิก นักแสดงตลกหญิงวัย 35 ปี ที่ผ่านงานแสดงมาโชกโชนถึง 40 เรื่อง ขอลองงานกำกับเป็นครั้งที่ 2 เธอเคยกำกับเรื่องแรก Nights and Weekends มาแล้วเมื่อปี 2008 แต่ไม่ได้รับการพูดถึงใด ๆ ทั้งสิ้น รอบนี้เธอยังคงกำกับและเขียนบทเองอีกครั้ง หนังเข้าชิงหลากหลายเวทีถึง 130 รางวัล กวาดรางวัลมาแล้ว 51 ตัว ก่อนจะมาถึงเวทีลูกโลกทองคำ และอีกหนึ่งสาวคือเชียร์ช่าโรแนน แม้ว่าเชียร์ช่าจะเพิ่งอายุ 24 แต่เธอเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 11 ปี อยู่ในวงการมาแล้ว 13 ปีผ่านบทบาทมานับไม่ถ้วนทั้งหนังพีเรียด Atonement , หนังแอ็คชั่น Hanna และหนังดราม่า Brooklyn ซึ่งทุกเรื่องเสียงชื่นชมมักจะลงมาที่บทบาทการแสดงของเธอ ซึ่งบทบาทของเธอใน Atonement และ brooklyn ก็เคยส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงมาแล้วทั้งในเวทีลูกโลกทองคำและออสการ์ ก่อนจะมาประสบความสำเร็จเสียทีในปีนี้ นับเป็นดาราที่มากฝีมือตั้งแต่ยังเด็ก และมีอนาคตไกลในวงการฮอลลีวู้ดที่น่าติดตาม

Lady Bird มีกำหนดเข้าฉาย 15 กุมภาพันธ์ 2561

 

4. The Post



เรต : PG-13
ความยาว : 1 ชั่วโมง 55 นาที
ผู้กำกับ : สตีเวน สปิลเบิร์ก
นักแสดง : เมอรีล สตรีพ , ทอม แฮงค์
รางวัลที่ได้รับ : เข้าชิงถึง 6 รางวัล แต่พลาดทั้งหมด ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาดราม่า , ผู้กำกับยอดเยี่ยม , บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม , นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม , นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม , ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม

เรื่องราวเกี่ยวกับ : หนังสร้างจากเรื่องจริงเหตุการณ์ในปี 1971 เมื่อเคย์ เกรแฮม บรรณาธิการหญิงคนแรกของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ร่วมมือกับ เบน แบรดลี บรรณาธิการจากหนังสือพิมพ์คู่แข่ง นิวยอร์ค ไทม์ ร่วมมือกันตีแผ่เอกสารลับที่เปิดเผยข้อมูลลับของรัฐบาลสหรัฐที่รั่วไหลออกมา เนื้อหาในเอกสารเปิดความลับที่รัฐบาลปกปิดมาถึง 30 ปีผ่านประธานาธิบดีมาถึง 4 สมัย ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลลับครั้งนี้เท่ากับทั้ง 2 ต้องเอาชีวิตและหน้าที่การงานตัวเองเข้าไปเสี่ยง
เป็นผลงานที่รวมความยิ่งใหญ่ไว้มากมาย ทั้งการกำกับของพ่อมดฮอลลีวู้ด สตีเวน สปิลเบิร์ก และได้ 2 ดารานำระดับตัวพ่อตัวแม่ล่ารางวัลอย่าง ทอม แฮงค์ และ เมอริล สตรีพ มาร่วมงานกันครั้งแรก ทำให้หนังได้รับการพูดถึงและถูกจับตามองตั้งแต่ประกาศสร้าง จึงไม่ผิดนักที่หนังรวมยอดฝีมือไว้ขนาดนี้แล้วทางสตูดิโอผู้สร้างถึงกับมั่นใจส่งเสนอชื่อเข้าชิงทั้ง 6 รางวัลใหญ่ แล้วก็ไม่ได้ติดมือกลับบ้านสักตัวเดียว แต่อย่างไรก็ตาม การร่วมงานกันของผู้ยิ่งใหญ่ในวงการแบบนี้ แม้ไม่ได้รางวัลแต่ก็น่าพิสูจน์ครับ ยังไงหนังก็ไม่เสียดายเงินไม่เสียดายเวลาแน่นอน

The Post มีกำหนดเข้าฉาย 25 มกราคม 2561

 

และอีก 2 เรื่องที่เข้าฉายอยู่ในขณะนี้

 

5. The Greatest Showman



เรต : PG
ความยาว : 1 ชั่วโมง 45 นาที
ผู้กำกับ : ไมเคิล เกรซีย์
นักแสดง : ฮิวจ์ แจ็คแมน , มิเชลล์ วิลเลียมส์ , แซค เอฟรอน
รางวัลที่ได้รับ : เข้าชิง 3 รางวัล พลาดรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาดนตรีและคอมมีดี้ , พลาดรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สาขาดนตรีและคอมมีดี้ , ชนะรางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยม

เรื่องราวเกี่ยวกับ : ประวัติชีวิตของ พี.ที. บาร์นัม ผู้ริ่เริ่มธุรกิจละครสัตว์ ที่ต้องแลกมาด้วยเสียงครหาและกระแสต่อต้าน กับการเป็นผู้บุกเบิกงานโชว์ที่รวมไปด้วยคนประหลาด สัตว์แปลก และกายกรรมหวาดเสียว แต่เมื่อเขาประสบความสำเร็จ พี.ที. บาร์นัม ก็ถูกจดจำในฐานะผู้ให้กำเนิดธุรกิจโชว์

เป็นอีกครั้งที่ฮิวจ์ แจ็คแมน แสดงศักยภาพทั้งร้องเล่นเต้นให้ได้ดูบนจอภาพยนตร์กันอีกครั้ง หลังจากเคยโชว์น้ำเสียงให้ฟังมาแล้วใน Les Misérables (2012) แต่รอบนี้ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย แต่หนังก็คว้ารางวัล เพลงประกอบยอดเยี่ยมมาได้จากเพลง "This Is Me" ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาด เพราะเป็นตัวเก็งมาอยู่แล้ว จากก่อนหน้านี้ เบนจิ พาเซ็ค และ จัสติน พอล ต่างก็เคยควงคู่กันคว้าลูกโลกทองคำและออสการ์กันมาเมื่อปีที่แล้วนี่เอง จากเพลง "City Of Stars" จากหนัง Lala Land ก็เดินเวทีลูกโลกทองคำ 2 ปีติดกันไปเลย ไม่แบ่งรางวัลให้ใคร ก็ไปรอลุ้นอีกทีบนเวทีออสการ์ว่าทั้งคู่จะทำได้อีกไหม

 

6. Coco



เรต : PG
ความยาว : 1 ชั่วโมง 45 นาที
ผู้กำกับ : ลี อุนคริช , เอเดรียน โมลินา
ให้เสียงพากย์ : แอนโธนีย์ กอนซาเลส , กาเอล กาเซียร์ เบอร์นัล , เบนจามิน แบรตต์
รางวัลที่ได้รับ : หนังชนะรางวัลภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม , เข้าชิงเพลงประกอบยอดเยี่ยม แต่แพ้ให้กับ The Greatest Showman ไป

เรื่องราวเกี่ยวกับ : หนูน้อยมิเกลผู้มีความรักในเสียงเพลง ใฝ่ฝันจะเป็นศิลปินมีชื่อเสียงอย่างเช่น เออเนสโต เดอลา ครูซ ไอดอลของเขา แล้วในเทศกาลแห่งความตายของชาวเม็กซิกันก็ทำให้มิเกล ได้ไปผจญภัยในโลกหลังความตายที่นั่นทำให้เขาได้พบกับเออเนสโต เดอ ลา ครูซ และได้พบความลับที่ซุกซ่อนอยู่ของตระกูลเขา
พิกซาร์ยังคงความเป็นที่หนึ่งของภาพยนตร์อนิเมชั่นอยู่เสมอ รอบนี้ก็เลือกเอาขนบธรรเนียมประเพณีของชาวเม็กซิกันมาขยายให้เป็นเรื่องราวแฟนตาซี ทำให้ COCO ออกมาเป็นหนังอนิเมชั่นที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงามบวกกับเพลงประกอบที่ทุกคนที่ได้ชมต่างก็บอกว่าเพลงเพราะมากบวกกับภาพสีสวย ทำให้ COCO เป็นหนังที่ดูแล้วมีความสุขสมกับเป็นหนังฟีลกู๊ดตามยี่ห้อพิกซาร์จริง ๆ ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง สมแล้วกับรางวัลที่ได้รับ