5 หนังหลากสีสันของ Jack Black ที่พิสูจน์ว่ามีอะไรมากกว่าผู้ชายสายฮา

Movie News5 มกราคม 2561

       Jack Black ถือได้ว่าเป็นนักแสดงคุณภาพคนหนึ่งในวงการที่เรามักจะเห็นเขารับบทสุดเกรียน ฮา รั่ว ในหนังคอมิดี้หลายต่อหลายเรื่อง รวมถึงการพากย์เสียงตัวละครที่โด่งดังจาก Kung Fu Panda ทั้ง 3 ภาค ที่ได้รับเสียงชื่นชมมากมายทั้งจากนักวิจารณ์และผู้ชม แต่นอกเหนือจากหนังตลก เกรียนๆ รั่วๆ ทั้งหลายแล้ว Black นั้นยังสามารถแสดงบทบาทตลกในแบบอื่น ๆ รวมถึงยังสามารถแสดงบทดราม่า และโรแมนติค ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับชายวัย 40 คนนี้ที่มีความสามารถรอบด้าน และกับหนังเรื่องล่าสุดอย่าง Jumanji: Welcome to the Jungle ภาคต่อของหนังในตำนานอย่าง Jumanji ที่เขารับเป็นเป็นตัวละคร Avatar ในเกมที่เป็นผู้นำทางชั้นยอด ซึ่งในครั้งนี้กลุ่มวัยรุ่นถูกดูดเข้าไปในโลกของเกม และทางเดียวที่จะกลับออกมาได้นั้นก็คือ พวกเขาต้องเอาชนะเกมให้ได้ ไปร่วมลุ้นกับพวกเขากัน วันนี้ ในโรงภาพยนตร์

         และในวันนี้ จะขอนำเสนอ หนัง 5 เรื่องหลากสีสันของผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ Jack Black ไว้ให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน แล้วจะรู้ว่า ผู้ชายคนนี้ ฝีมือไม่ธรรมดา

 

1. School of Rock (2003)



        ภาพยนตร์ที่เหมือนเป็นการแจ้งเกิดแบบเต็มๆ ให้กับ Black เรื่องแรก จากที่แต่เดิมรับบทตัวประกอบ และเรื่องนี้ก็ได้ทำให้เขาโด่งดังเป็นพลุแตกกับบทคุณครูสุดซ่าพลังร๊อคแอนด์โรล

ดูอี้ ฟินน์ (แจ๊ค แบล็ก) มือกีตาร์ร็อค เป็นพวกต่อต้านความมั่นคงอย่างสุดตัว เป็นพวกไม่นับถือสิ่งใดอย่างสุดโต่ง เขาบูชาพลังแห่งร็อคแอนด์โรล ด้วยความนิยมชมชอบการกระโดดลงจากเวที และการโซโลนาน 20 นาที ดูอี้มุ่งมั่นที่จะนำวงดนตรีร็อคของเขา ไปสู่ชัยชนะในการแข่งขันของเหล่าวงดนตรีท้องถิ่น แบทเทิลออฟเดอะแบนด์ส... แต่เพื่อนร่วมวงของเขากลับไล่เขาออก

ทั้งย่ำแย่และไม่มีวง ดูอี้ที่ไร้เงิน นอนเกลือกกลิ้งอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ ที่เต็มไปด้วยกล่องใส่อาหาร เขารับโทรศัพท์ที่มีผู้โทรหา เน็ด ชนีบลีย์ (ไมก์ ไวต์) เพื่อนร่วมห้องของเขา และตัดสินใจสวมรอยรับงาน ในตำแหน่งครูที่เข้าไปสอนแทน ที่โรงเรียนประถมฮอเรซกรีนอันทรงเกียรติ ที่นั่น ครูใหญ่มัลลินส์สุดเฮี๊ยบ (โจน คูแซ็ค) คอยจับตาดูเขาอยู่ทุกฝีก้าวราวกับตาเหยี่ยว แต่ในขณะที่ดูอี้ยังไม่รู้ว่าจะสอนพวกเด็กๆ อย่างไร แต่เขารู้วิธีที่จะสร้างความเชื่อมั่น ในตัวเด็กนักเรียนเกรดห้าของเขา และเมื่อเขาเกิดไปได้ยินพวกเด็กๆ ซ้อมดนตรีในชั้นเรียนออร์เคสตร้า ดูอี้ตัดสินใจที่จะฝึกฝนเด็กๆ ที่มีความสามารถทางด้านดนตรีเหล่านี้ ให้กลายเป็นวงร็อคสุดร้อนแรง ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล

 

2. Shallow Hal (2001)


 


         หนังโรแมนติคคอมมิดี้ ที่กำกับโดย Bobby และ Peter Farrelly พี่น้องผู้กำกับจาก Dumb and Dumber, Kingpin และ There’s Something About Mary ที่เป็นสายฮาบวกทะลึ่งตึงตังโดยเฉพาะ แต่กับเรื่องนี้กับเป็นแนวโรแมนติคคอมิดี้แฝงสาระสุดซึ้งในแบบที่ทำให้หลายคนประทับใจกันไปตามๆ กัน

ฮัล ลาร์เซ่น (แจ๊ค แบล็ค) ชายหนุ่มที่มองอะไรเพียงแค่ผิวเผิน ความงามสำหรับเขา มีเพียงแค่ในบรรดาซูเปอร์โมเดล หรือนางแบบหน้ากลางในนิตยสาร สิ่งแรกที่เขามองในตัวผู้หญิงคือ จะต้องดูดี ฮัลไม่เคยคิดจะเดทผู้หญิงที่รูปร่าง รอยยิ้ม หรือสไตล์ไม่เข้าขั้นที่จะเรียกว่าเพอร์เฟ็ก

แต่หลังจากที่เขาถูก โทนี่ ร็อบบิ้นส์ (แอนโทนี่ ร็อบบิ้นส์) ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวเอง สะกดจิตเข้าโดยไม่รู้ตัว ภาพที่เขามองผู้หญิง ก็พลิกกลับไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เวลานี้เขามองผู้หญิงจากความงามที่อยู่ภายใน เมื่อเขาพบกับ โรสแมรี่ (กวินเน็ธ พัลโทร์ว) อาสาสมัครหุ่นช้างน้ำหนักถึง 300 ปอนด์ของ Peach Corps ฮัลมองเห็นความใจดี และอารมณ์ขันของโรสแมรี่ และหุ่นที่อรชรอ้อนแอ้น แทนที่รูปกายภายนอกของเธอ และนี่คือจุดเริ่มต้นเรื่องราวโรแมนติก แต่เมื่อมนต์เสื่อม ฮัลได้พบกับโรสแมรี่ที่เขาไม่คุ้นเคย และได้เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญที่สุด บทหนึ่งของชีวิต

 

3. The Holiday (2006)



             ภาพยนตร์ตลกโรแมนติคเรื่อง The Holiday ของ แนนซี่ เมเยอร์ส ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Something’s Gotta Give, The Parent Trap และ What Women Want ผู้หญิงสองคนแลกเปลี่ยนบ้านกัน เพียงเพื่อจะพบว่า การแลกเปลี่ยนที่อยู่กันนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเธอได้...

จุดกำเนิดของภาพยนตร์ตลกโรแมนติคเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อมือเขียนบท/ ผู้กำกับ แนนซี่ เมเยอร์ส กำลังวางแผนการจะไปพักผ่อน และบังเอิญเธอท่องเว็บไซต์ เข้าไปเจอเว็บที่นำเสนอการแลกเปลี่ยนบ้านกัน ข้ามเมือง ข้ามประเทศ ข้ามทวีป เธอได้ไอเดียว่า มันคงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่วิเศษมากสำหรับผู้หญิงสองคน ที่ต่างกำลังวิ่งหนีจากบางสิ่งบางอย่าง ทั้งสองต่างแอบหวังว่า การเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้พวกเธอแก้ปัญหาเกี่ยวกับตัวเองได้ ช่วยให้เธอได้เห็นสิ่งที่พวกเธอต้องรับมือมานาน การไปจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ คงจะช่วยให้พวกเธอทำเช่นนั้นได้

อาแมนด้า วู้ดส์ (คาเมรอน ดิอาซ) เจ้าของบริษัทโฆษณาที่ผลิตงานภาพยนตร์ตัวอย่าง ใช้ชีวิตอยู่ในเซาเธิร์น แคลิฟอร์เนีย...

ไอริส ซิมป์กิ้นส์ (เคต วินเสลต) เขียนคอลัมน์ยอดนิยมเกี่ยวกับงานแต่งงาน ให้กับหนังสือพิมพ์เดลี่เทเลกราฟของลอนดอน และอาศัยอยู่ในกระท่อมที่ดูน่าอยู่ ในย่านชนบทของอังกฤษ...

ถึงแม้ไอริสและอาแมนด้าจะไม่เคยพบกันมาก่อน และใช้ชีวิตอยู่ห่างกันถึง 6,000 ไมล์ แต่พวกเธอตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาส ไอริสและอาแมนด้าตัดสินใจที่จะทิ้งผู้ชายในชีวิตของพวกเธอ อีธาน (เอ๊ดเวิร์ด เบิร์นส์) และ แจสเปอร์ (รูฟัส ซีเวลล์) และพวกเธออยู่ในสภาวะที่ไร้อารมณ์ จะมานั่งร้องเพลงประสานเสียง "พวกเราเหล่ามาชุมนุม..."

อาแมนด้า ที่กำลังอยากออกไปจากเมืองเพื่อพักผ่อนในช่วงวันหยุด เข้าไปในเว็บไซต์สำหรับผู้ต้องการแลกเปลี่ยนบ้าน และพบว่ากระท่อมสไตล์อังกฤษของไอริส คือยาขนานเอกที่เหมาะกับปัญหาของเธอ ทันใดนั้น อาแมนด้าและไอริสเห็นพ้องต้องกันว่า จะเดินทางข้ามทวีป และย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของกันและกัน เป็นเวลานานสองอาทิตย์

ไอริสเดินทางมาถึงลอสแอนเจลิสในวันที่ฟ้าสดใส อากาศอบอุ่นไปด้วยสายลมซานตา แอนนา ไม่นานหลังจากเธอเดินทางมาถึงบ้านของอาแมนด้าที่เบรนต์วู้ด เธอกลายเป็นเพื่อนกับ อาร์เธอร์ (เอลี่ วอลแลช) มือเขียนบทจากยุคทองของฮอลลีวู้ด และ ไมลส์ (แจ็ค แบล็ค) นักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ ซึ่งทำงานกับแฟนเก่าของอาแมนด้า
ในอังกฤษ อาแมนด้าก้าวเข้าสู่ความเงียบสงบอันแสนสบาย ของกระท่อมโรสฮิลล์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เมื่อ แกรห์ม (จู๊ด ลอว์) พี่ชายรูปหล่อของไอริส เดินเข้ามาเคาะประตูกระท่อม

ในจุดพลิกผันที่คาดไม่ถึงของเหตุการณ์ต่างๆ ผู้หญิงทั้งสองคนต่างพบว่า การเดินทางที่ดีที่สุด คือการเดินทางที่คุณทิ้งภาระทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลัง...


4. Tropic Thunder (2008)



           ภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมิดี้สุดฮาแฝงการเสียดสีจิกกัดวงการฮอลลีวู้ดด้วยตลกร้ายแบบถึงลูกถึงคน แสดงนำและกำกับโดย Ben Stiller ซึ่งบทหนังเรื่องนี้เขาคิดไว้ในหัวนานตั้งแต่สมัยยังไม่ดัง ในตอนที่ Stiller รับบทสมทบใน Empire of the Sun (Steven Spielberg) Stiller รับบทหนึ่งในเชลยชาวอเมริกันที่โดนจับไว้ในค่ายกักกันของทหารญี่ปุ่น ระหว่างนั้นเองเขาก็ได้ไอเดียเกี่ยวกับบทหนังที่ว่าด้วยดาราคนหนึ่งที่ได้รับเล่นในหนังสงคราม แล้วก็ต้องมีการไปเข้าค่ายฝึกทหารเพื่อให้สมบทบาท แล้วดารารายนั้นก็ได้ตระหนักถึงคุณค่าในตนเองมากขึ้นอีกระดับ ซึ่งหลังจากเกิดไอเดียนี้เขาก็ปรับแต่งอยู่อีกหลายปี จนกระทั่งไปเสนอกับเพื่อนนักแสดงอย่าง Justin Theroux และร่วมเขียนบทกับ Etan Cohen จนกลายเป็นหนังยำใหญ่วงการฮอลลีวู้ดเรื่องนี้

ทักก์ สปีดแมน (เบน สติลเลอร์) เป็นนักแสดงบู๊รักสบายที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง Scorcher ซีรีส์อีพิคหายนะของเขาก็เริ่มหมดความนิยม และหลังจากที่แผนการพยายามให้ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์ล้มคว่ำไม่เป็นท่า สปีดแมนก็หวังว่า Tropic Thunder จะช่วยทำให้เขากลับมาอีกครั้งหนึ่ง

เจฟฟ์ พอร์ตนอย (แจ็ค แบล็ค) เป็นดาราของแฟรนไชส์คอมมิดี้ไร้สมองยอดนิยม The Fatties และตอนนี้ เขาก็กำลังอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และแสดงให้โลกได้รู้ว่า ตัวเขามีอะไรดีมากไปกว่าการเรียกเสียงหัวเราะจากการปล่อยตด
เคิร์ค ลาซารัส (โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์) นักแสดงชาวออสเตรเลีย สุดยอดแห่งนักแสดง เมธอด เคยคว้าออสการ์มาแล้วห้าครั้งและเขาก็คอยมองหาความท้าทายใหม่ๆ และหนทางใหม่ๆ ที่จะแปลงโฉมตัวเองเพื่อ ศิลปะ ของเขาเสมอ
อัลปา ชิโน (แบรนดอน ที. แจ็คสัน) ดูเหมือนจะมีพร้อมทุกสิ่งสรรพ แต่ศิลปินฮิปฮ็อปเจ้าของยอดขายมัลติแพลตินัมผู้ผันตัวมาเป็นนักแสดงคนนี้ก็กระตือรือร้นที่จะได้รับการยกย่องในฐานะนักแสดงซีเรียส และเควิน แซนดัสกี้ (เจย์ บารูเชล) นักแสดงหน้าใหม่ เอ่อ เขาก็แค่มีความสุขที่มีงานทำเท่านั้นแหละ

ใน Tropic Thunder พรีมาดอนนาเวอร์จัดกลุ่มนี้จะมารวมตัวกันเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์อีพิคสงคราม แต่แล้วพวกเขากลับจับพลัดจับผลูหลงเข้าไปอยู่ในสงครามจริงๆ เสียได้

 

5. Goosebumps (2015)



        ภาพยนตร์แอคชั่นผจญภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือเด็กแนวสยองขวัญขายดีเซตใหญ่ของ R.L. Stine หรือที่ได้รับฉายาว่าเป็น สตีเฟ่น คิงก์ ฉบับหนังสือสำหรับเด็ก โดยสำหรับแฟนหนังสือคนไทยอาจจะพอคุ้นชื่อกันดีในชื่อชุดหนังสือ ชมรมขนหัวลุก ทีมีแปลในไทยถึง 25 ตอนด้วยกัน และในฉบับภาพยนตร์นี้ก็ได้นักแสดงหนุ่ม แจ็ค แบล็ค เจ้าพ่อหนังคอมเมดี้ผจญภัย มารับบทเป็น สไตน์ ผู้แต่งนิยายจุดเริ่มต้นของความปั่นป่วนที่เกิดขึ้น แม้ในส่วนของเนื้อเรื่องฉบับภาพยนตร์นั้นจะไม่ได้เป็นการเน้นที่ตอนใดตอนหนึ่งเป็นพิเศษ แต่รับรองได้ว่าตัวหนังก็ยังคงมีเหล่าอสูรกายตัวประหลาดออกมาให้พรึบ!! ไม่แพ้ในหนังสือแน่นอน!!

เรื่องราวเริ่มต้นจากการย้ายบ้านเข้ามาใหม่ของ แซค คูเปอร์ (รับบทโดย Dylan Minnette) และได้พบกับความผิดปกติภายในบ้านของเพื่อนบ้านสาวสวยอย่าง ฮันนาห์ (รับบทโดย Odeya Rush) ที่นอกจากจะมีพ่อเป็นนักเขียนหน้าตาไม่รับแขกอย่าง สไตน์ (รับบทโดย Jack Black) แล้ว ยังดูเหมือนเขากำลังกีดกันลูกสาวตัวเองออกห่างเพื่อนบ้านเกินความจำเป็น จนดูเหมือนกำลังมีเรื่องราวบางอย่างปกปิดไว้อยู่

จนเมื่อคืนหนึ่ง แซคและเพื่อนเด็กเนิร์ดนักอ่านของเขาได้ยินเสียงกรีดร้องของฮันนาห์ดังมาจากบ้านของเธอ พวกเขาจึงตัดสินใจบุกเข้าไปภายในบ้านของเพื่อนบ้านสาว ด้วยเพราะเข้าใจผิดว่าเธออาจกำลังเผชิญอันตรายจากพ่อโรคจิตอยู่ก็เป็นได้ แต่แล้วเรื่องราวกลับตาลปัตรดันเกิดขึ้นโดยไม่ทันคาดคิด เมื่อแซคและเพื่อนเผลอปลดล็อคหนังสือนิยายต้นฉบับของพ่อเพื่อนสาวข้างบ้านเข้าให้อย่างไม่ได้ตั้งใจ

จนเกิดเรื่องไม่คาดฝันเหนือจินตนาการขึ้น เมื่ออสูรกายใหญ่ยักษ์ทั้งหลายในนิยายได้หลุดออกมาจากหนังสือที่เขาและเพื่อนพึ่งจับ สู่เรื่องราวความโกลาหลครั้งใหญ่ เมื่อเหล่าอสูรกายตัวประหลาดจากโลกจินตนาการที่พ่อของฮันนาห์ได้สร้างขึ้น ต่างพากันกรูออกนอกหนังสือและสร้างความปั่นป่วนให้กับผู้คนทั่วเมือง

ทางเดียวที่พวกเขาจะยุติปัญหาครั้งนี้ได้ คือ จะต้องนำจุดอ่อนของพวกมันที่ถูกเขียนไว้ในหนังสือแต่ละเล่มมาจัดการกับพวกมันเองและส่งพวกมันกลับเข้าไปในที่ๆ พวกมันจากมาอีกครั้ง งานนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของคนสามสี่คนซะแล้ว เพราะเพื่อนๆ ของพวกเขาและคนในเมืองจะต้องร่วมมือกันเท่านั้น ถึงจะสามารถรับมือกับ ท่านเคราท์แด็กคูล่า, เจ้าตีนโต, มนุษย์หมาป่า, ตั๊กแตนยักษ์, ภูตคนแคระ ตลอดจนสารพัดอสูรกายตัวประหลาดได้สำเร็จ