ผ่านพ้นปี 2017 ไปแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นอีกปีที่มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์และภาคต่อของหลายแฟรนไชส์ฮิตที่แฟนๆทั่วโลกรอคอยทยอยออกฉายมาตลอดปีนี้ โดย 10 อันดับภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดในอเมริกาประจำปี 2017 ก็เรียกว่ามีผลงานที่หลากหลายแนวได้รับความนิยมจนเป็นที่ถูกอกถูกใจผู้ชมในประเทศ ซึ่งวันนี้เราจะมาลองย้อนไปดูว่าทั้ง 10 เรื่องนั้นมีเรื่องอะไรกันบ้าง
(หมายเหตุ :  รายได้นับจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2018/ ข้อมูลตัวเลขรายได้จากเว็บไซต์ boxofficemojo)

 

1. Star Wars: The Last Jedi : รายได้ในอเมริกา : $533 ล้าน

           ผลงานล่าสุดของมหากาพย์การผจญภัยในห้วงกาแล็คซี่ ภายใต้การกำกับโดย ไรอัน จอห์นสัน ที่กวาดเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ไปเพียบ แม้ในฝั่งของผู้ชมจะ "เสียงแตก" กันถึงความชอบและไม่ชอบในการนำเสนอตัวละครทั้งหลายในแง่มุมที่แปลกใหม่กว่าในภาคเก่าๆที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างนั้นตัวเลขรายได้ของ The Last Jedi ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีและแม้จะเข้าฉายในช่วงปลายปี แต่กระแสความแรงก็ทำให้ภาพยนตร์สามารถเดินหน้ากวาดรายได้ในประเทศจนยึดอันดับ 1 มาครองได้อย่างสง่างาม

 

2. Beauty and the Beast (2017) : รายได้ในอเมริกา : $504 ล้าน

          การขึ้นจอของ "โฉมงามกับเจ้าชายอสูร" เวอร์ชั่นคนแสดงโดยสตูดิโอดิสนีย์ที่นำกลับมาเล่าขานใหม่ในแบบร่วมสมัย ด้วยเพลงประกอบดั้งเดิม พร้อมเพลงใหม่ๆอีกมากมาย ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของการเดินทางอันแสนมหัศจรรย์ของเบลล์ สาวน้อยผู้เลอโฉม ที่ถูกคุมขังอยู่ในปราสาทของเจ้าชายอสูร ถึงแม้จะกลัว แต่เธอก็ผูกมิตรกับคนงานของปราสาท และมองข้ามรูปโฉมอันน่ากลัวของเจ้าชายอสูร เพื่อให้เห็นถึงจิตใจที่ดีงามที่ซ่อนอยู่ของเขา

ภาพยนตร์มาพร้อมทีมนักแสดงดัง นำโดย  เอ็มมา วัตสัน ในบทเป็นเบลล์, แดน สตีเว่นส์ เป็นเจ้าชายอสูร และ ลุค เอแวนส์ เป็นกัสตง ชายหนุ่มรูปงามผู้คอยตามจีบเบลล์ ด้วยการที่ฉบับคนแสดงยังคงเสน่ห์ของเรื่องราวไว้ครบถ้วนทำให้ไม่ยากเลยที่มันจะกลายเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ผู้ชมพร้อมใจกันจูงมือกันเข้าไปชมจนทำรายได้ในบ้านทะลุหลัก $500 ล้าน

 

3. Wonder Woman : รายได้ในอเมริกา : $412 ล้าน

          หนึ่งในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่สร้างกระแสแรงที่สุดในปีนี้และครองใจผู้ชมทั้งชายและหญิงไปทั่วโลก ซึ่งเล่าเรื่องราวย้อนกลับไปยังจุดกำเนิดของ ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเทอมิสกีร่าที่ได้รับการฝึกฝนให้เป็นนักรบยอดฝีมือ เธอเติบโตที่เกาะอันงดงามที่ถูกปกป้องไว้ เมื่อนักบินชาวอเมริกันได้พุ่งชนชายฝั่งของพวกเขา และบอกเล่าถึงการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่รุนแรงนอกโลก ไดอาน่าต้องทิ้งบ้านเกิดของเธอโดยถูกโน้มน้าวว่าเธอสามารถหยุดยั้งภัยร้ายได้ ในการต่อสู้ไปพร้อมกับพวกผู้ชายในสงครามเพื่อยุติทุกการศึก ไดอาน่าจะได้พบกับพลังสุดขีดความสามารถของเธอ และชะตาลิขิตที่แท้จริงของเธอ สู่การเป็นผู้ต่อสู้เพื่อความถกต้องในนาม "วันเดอร์ วูแมน"!

 

4. Guardians of the Galaxy Vol. 2 : รายได้ในอเมริกา : $389 ล้าน

       สานต่อการผจญภัยของเหล่าแก๊งค์เกรียนแห่งจักรวาลมาร์เวล เมื่อพวกเขาเดินทางไกลออกไปในจักรวาล ต่อสู้เพื่อรักษาครอบครัวใหม่ที่พวกเขาเพิ่งมีร่วมกัน และไขปริศนาเกี่ยวกับผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงของปีเตอร์ ควิลล์ ศัตรูเก่ากลายมาเป็นพันธมิตรใหม่

ผลงานการกำกับของ  เจมส์ กันน์ ที่ยังคงลีลายียวนและกระแทกใจด้วยเพลงประกอบสุดคูลไม่แพ้ภาคแรก แถมยังได้นักแสดงเก่ากลับมาครบทีม ทั้ง คริส แพรตต์, โซอี้ ซัลดานา, เดฟ บาทิสต้า, วิน ดีเซล เป็น กรูท, แบรดลีย์ คูเปอร์ เป็น ร็อคเก็ต ร่วมด้วย ซิลเวสเตอร์ สตัลโลน และ เคิร์ท รัสเซล

 

5. Spider-Man: Homecoming : รายได้ในอเมริกา : $334 ล้าน

        หลังปรากฏตัวไปใน Captain America Civil War ก็ถึงเวลาที่ไอ้แมงมุมเวอร์ชั่น ทอม ฮอลแลนด์ จะกลับมาในผลงานเดี่ยวๆของตนเอง ภายใต้การกำกับของ จอน วัตต์ ที่แจ้งเกิดมาจากภาพยนตร์อินดี้ แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าการมาคุมงานฟอร์มยักษ์ครั้งแรกของเขาก็สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมได้อยู่หมัด พร้อมกวาดรายได้ไปมากโขให้แก่สตูดิโอมาร์เวล

 

6. It (2017) : รายได้ในอเมริกา : $327 ล้าน

        นิยายของ สตีเฟ่น คิง เรื่องนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1986 และได้กลายเป็นผลงานคลาสสิคในชั่วพริบตา จนเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมและมีอิทธิพลมากในบรรดาสุดยอดผลงานสยองขวัญอย่างไร้ข้อกังขา สร้างแรงบันดาลใจให้ภาพยนตร์และผลงานทางทีวีในช่วงงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา กระทั่งถึงเวอร์ชั่นล่าสุดกับ IT เวอร์ชั่นปี 2017 ที่ใช้ทุนสร้างเพียง $35 ล้าน และโกยกระแสตอบรับในระดับ B+ จากผู้ชม ก่อนจะเดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ฮิตระดับที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยแก่ภาพยนตร์สยองขวัญเรท R

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเล่าเรื่องราวของเด็กที่ไม่มีใครสนใจทั้ง 7 คนที่โตขึ้นในเมืองเดอร์รี รัฐเมน พวกเขาเรียกตัวเองว่ากลุ่มคนขี้แพ้ แต่ละคนมีเหตุผลที่ถูกตัดหางปล่อยวัดต่างกันไป ซึ่งทุกคนต่างมีปมจากการถูกกลุ่มนักเลงประจำถิ่นรังแก... และทุกคนต่างมีความกลัวในใจจากนักล่าในอดีตที่แปลงร่างได้ พวกเขาเรียกสิ่งนั้นได้แค่ "มัน"

ตลอดเวลาที่เมืองของพวกเขายังมีคนอยู่อาศัย เมืองเดอร์รีถูกล่าจากสิ่งที่โผล่ขึ้นมาจากท่อระบายน้ำทุก 27 ปีเพื่อล่าเหยื่อผู้ถูกเลือกด้วยความหลอนอย่างเด็กๆ ของเมืองเดอร์รี ผู้คนรวมตัวกันเพื่อเอาชนะความกลัวและสร้างความสุขกันในช่วงฤดูร้อน พวกกลุ่มคนขี้แพ้ผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นและช่วยทุกคนเอาชนะความกลัว รวมถึงหยุดวงจรการไล่ล่าที่เริ่มขึ้นช่วงวันฝนตก โดยมีเด็กผู้ชายตามเรือกระดาษที่ลอยลงท่อระบายน้ำ จนตกไปอยู่ในมือของตัวตลกเพนนีไวซ์

ความฮิตของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำให้แฟนๆตั้งตารอคอยภาค 2 ของ IT กันอย่างใจจดจ่อ โดย IT:Chapter Two มีคิวฉายในปี 2019

 

7. Thor: Ragnarok : รายได้ในอเมริกา : $311 ล้าน

       อีกหนึ่งผลงานจากค่ายมาร์เวล สูดิโอ "Thor: Ragnarok - ศึกอวสานเทพเจ้า" คือการผจญภัยครั้งใหม่สุดเร้าใจของเทพเจ้าสายฟ้าในโลกภาพยนตร์มาร์เวล ที่เต็มไปด้วยแอ็คชั่น อารมณ์ขัน ดรามาและภาพน่าตื่นตาตื่นใจ

เมื่อธอร์ถูกคุมขังในอีกฟากหนึ่งของจักรวาล โดยปราศจากค้อนทรงอิทธิฤทธิ์ของเขา และเขาก็พบว่าตัวเองต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาเพื่อกลับไปแอสการ์ดให้ทันที่จะหยุดยั้งแร็คนาร็อก - การทำลายล้างบ้านเกิดของเขาและจุดจบของอารยธรรมแอสการ์ด ด้วยเงื้อมือของวายร้ายใหม่ที่แสนร้ายกาจ เฮล่า ผู้ไร้ปรานี แต่ก่อนอื่น เขาจะต้องเอาชีวิตรอดจากการประลองกลาดิเอเตอร์ที่ทำให้เขาต้องประมือกับ ฮัลค์ จอมพลัง อดีตมิตรและเพื่อนจากกลุ่มอเวนเจอร์ของเขา ให้ได้เสียก่อน

นอกจากฉากแอคชั่นที่น่าตื่นตาและมุกตลกสุดเฉียบที่เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้อย่างน่าทึ่งแล้ว ฉากจบของ Thor: Ragnarok ก็ยังชวนติดตามต่ออีกด้วยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับฮีโร่เทพเจ้าสายฟ้าและโลกิ!

 

8. Despicable Me 3 : รายได้ในอเมริกา : $264 ล้าน

        การกลับมาของกรู, ลูซี่ และมินเนี่ยน พร้อมด้วยลูกสาวสุดที่รัก มาร์โก, อีดิธ และแอ็กเนส ที่ต้องมาเจอเรื่องวุ่นกับการปรากฏตัวของ บัลธาซาร์ แบรตต์ อดีตดาราเด็กที่ยังฝังใจกับคาแรกเตอร์ที่เขาเล่นในยุค 80’s และความลับที่เปิดเผยออกมาว่ากรูมีพี่น้องฝาแฝด!

 

9. Logan : รายได้ในอเมริกา : $226 ล้าน

         ฮิวจ์ แจ็คแมน กับการรับบท วูลฟ์เวอรีน ครั้งสุดท้าย ภาพยนตร์เรื่อง Logan แสดงให้เห็นว่าฮีโร่ผู้ร่วงโรยได้พบความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์อย่างไม่คาดฝัน อีกทั้งยังเป็นการเสนอภาพวูลฟ์เวอรีนอย่างเป็นธรรมชาติและไม่ปรุงแต่งมากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา แจ็คแมนได้ปลดปล่อยความคั่งแค้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หนังเรื่องนี้ได้รับเรท R ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในบรรดาหนังจากซีรีส์เอ็กซ์เมน

"วูลฟ์เวอรีนอาจเป็นหนึ่งในตัวละครที่หม่นหมองที่สุด ซับซ้อนที่สุดในจักรวาลของหนังสือคอมิก ผมกับจิม (ผู้กำกับ เจมส์ แมนโกล์ด ) กังวลอยู่แค่เรื่องที่ว่าเราจะต้องไม่ให้อะไรมารั้งเราไว้" แจ็คแมน พูดถึงผลงานชิ้นนี้

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 2029 มนุษย์กลายพันธุ์ตกอยู่ในภาวะใกล้สาบสูญ โลแกนผู้โดดเดี่ยวท้อแท้ได้แต่ดื่มเหล้าไปวันๆ ในที่หลบภัยอันห่างไกลแถบชายแดนเม็กซิโกและหารายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการเป็นคนขับรถรับจ้าง เพื่อนผู้ลี้ภัยของเขาคือแคลิแบนผู้ถูกเนรเทศ รวมถึงศาสตราจารย์เอ็กซ์ซึ่งกำลังป่วยและพลังจิตถูกรบกวนจากอาการชักที่หนักขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วโลแกนกลับต้องล้มเลิกความตั้งใจที่จะหลบเลี่ยงโลกภายนอกและชีวิตที่ผ่านมา เมื่อหญิงลึกลับปรากฏตัวขึ้นพร้อมคำขอร้องเร่งด่วน  เธอขอให้โลแกนช่วยพาเด็กสาวที่มีความพิเศษคนหนึ่งไปส่งยังที่ปลอดภัย ในไม่ช้าโลแกนก็ต้องใช้กรงเล็บเพื่อเผชิญกับพลังมืดและวายร้ายจากอดีตของเขาเองในภารกิจเสี่ยงตาย ภารกิจครั้งนี้จะนำนักสู้ผู้ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานสู่หนทางเพื่อบรรลุโชคชะตาของตนเอง

 

10. Justice League : รายได้ในอเมริกา : $225 ล้าน

         การรวมตัวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ดีซีที่ประสบปัญหาและสร้างกระแสพูดถึงนับตั้งแต่ยังไม่เข้าฉายและขณะเข้าฉายรุนแรงที่สุดในปีนี้ ท่ามกลางกระแสวิจารณ์จากฝั่งแฟนๆทั่วโลกถึงฉากต่างๆที่ถูกตัดทิ้งไปในฉบับฉายจริงและโทนของภาพยนตร์ที่ถูกเปลี่ยนไปจนอยู่กำกึ่งระหว่างความมืดหม่นและอารมณ์ขัน ซึ่งล้วนไปไม่สุดสักทาง

ภาพยนตร์ได้ เบน แอฟเฟล็ค, เฮนรี่ คาวิลล์, กัล กาดอท, เจสัน โมมัว, เรย์ ฟิเชอร์ และเอซรา มิลเลอร์ มารับบทตัวละครเด่น ภายใต้การกำกับของ แซค สไนเดอร์ และมี จอส วีดอน มาช่วยในการสร้างขั้นตอนสุดท้ายอีกแรงหนึ่ง