10 อันดับหนังของ ดเวย์น จอห์นสัน
ฮอตอิตที่สุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็คนนี้ล่ะ จากอดีตนักมวยปล้ำในชื่อเดอะ ร็อค ที่หันหลังให้เวทีแล้วมาได้ดีในวงการแสดงอย่างจริงจัง ก็เลยทิ้งชื่อเดอะ ร็อค แล้วใช้ชื่อจริงในวงการแสดงว่า ดเวย์น จอห์นสัน วันนี้ในวัย 45 ปี ดเวย์นมีหนังออกมาให้เราดูกันปีนึง 2-3 เรื่อง ไม่นับทีวีซีรีส์และงานพากย์การ์ตูนอีกนะ ด้วยนิสัยในการทำงานที่บรรดาผู้สร้างต่างก็ชื่นชมถึงอัธยาศัยที่ดี บวกกับความสามารถที่เล่นได้ทุกแนวทั้งแอ็คชั่นจริงจัง และหลัง ๆ เริ่มมาเอาดีทางคอมมีดี้ก็เล่นได้ฮาจริง ทำให้เขาเป็นดาราฮอลลีวู้ดที่มีรายรับสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 รองจาก วิน ดีเซลแค่รายเดียว ดูแววแล้วดเวย์น จอห์นสันน่าจะได้รับความนิยมไปอีกนาน ถึงตรงนี้ดเวย์น มีงานแสดง+พากย์เสียงมาแล้วเกือบ 100 เรื่อง ยังไม่นับ Jumanji : Welcome To The Jungle ที่เพิ่งลงจอฉายรอบปกติในสัปดาห์นี้นะครับ เราลองลิสต์รายชื่อมาสัก 10 เรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขาซิ ว่ามีเรื่องไหนบ้าง และ Jumanji : Welcome To The Jungle สมควรจะได้อยู่ใน 10 รายชื่อนี้ด้วยไหม?
อันดับที่ 10 Snitch (2013) / โคตรคนขวางนรก
เรต PG-13
ความยาว 112 นาที
ผู้กำกับ ริค โรมัน วากห์
รายได้ 42 ล้านเหรียญ
เรื่องราวเกี่ยวกับ : รับบทเป็นจอห์น แมทธิว ที่ชีวิตตกที่นั่งลำบากเมื่อ คอลลินส์ ลูกชายของเขาไปพัวพันกับแก๊งค้ายาและกลายเป็นแพะรับบาปต้องโทษถึง 10 ปี ทางออกของจอห์นที่จะช่วยลูกชายได้คือเสนอตัวเป็นสายให้ตำรวจเข้าไปสอดแนมในแก๊งค้ายาเพื่อหาหลักฐานมัดตัวหัวหน้าแก๊งเพื่อแลกกับอิสรภาพของลูกชาย นับเป็นข้อเสนอที่เอาชีวิตเข้าแลกเพราะเมื่อจอห์นเข้าไปเป็นสมาชิกแก๊งแล้วจะไม่ได้รับการสนับสนุนใด ๆ จากทางการ จอห์นต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเอง
เสียงตอบรับ : เมื่อใส่ดเวย์น จอห์นสัน เข้าไปในบทนำ ก็ย่อมได้รับการคาดหวังจากคนดูว่าหนังจะมันส์ บู๊สะบั้นหั่นแหลก แต่กลับได้รับเสียงตอบรับในทางลบจากบรรดานักวิจารณ์ที่มองว่า หนังน่าเบื่อ อยู่ครึ่งทางระหว่าง หนังดราม่าที่ประเด็นให้ขบคิดและหนังแอ็คชั่นสิ้นคิด แต่ก็ไม่ใช่จะถูกเบ้หน้าใส่ไปเสียทั้งหมด ที่ชื่นชมก็มีนะ ทอม รุสโซ จากหนังสือบอสตัน โกลบ เขียนไว้ว่า "เป็นภาพรวมของดราม่าและแอ็คชั่นที่พอดี และการลงมือกับเหล่าอาชญากรที่รุนแรงหนักหนา"
อันดับที่ 9 HERCULES (2014)
เรต PG-13
ความยาว 98 นาที
ผู้กำกับ เบร็ต แรตเนอร์
รายได้ 244 ล้านเหรียญ
เรื่องราวเกียวกับ : อีกหนึ่งวีรบุรุษจากเทพนิยายกรีก เฮอร์คิวลิสบุตรของซีอุส เรื่องราวในยุค 1,400 ก่อนคริสตกาล เฮอร์คิวลิสกลายเป็นนักรบรับจ้างชื่อเสียงกระฉ่อนพร้อมสหายร่วมรบอีกหนึ่งกลุ่ม เขาได้รับการว่าจ้างจากราชาโคติสแห่งดินแดนเทรซ ให้เป็นผู้ฝึกกองทัพทหารของเทรซให้แข็งแกร่งและนำทัพไปทำสงครามกับเมืองคู่อริ แต่แล้วเฮอร์คิวลิสก็พบความจริงว่าเขาโดนหลอกใช้จากราชาโคติส
เสียงตอบรับ : บ่อยครั้งที่ฮอลลีวู้ดสร้างหนังเรื่องราวคล้ายกันออกมาชนกัน เช่นเดียวกับเฮอร์คิวลิสในปี 2014 ฝั่งหนึ่งคือ "The Legend of Hercules" ที่รับบทโดย เคลแลน ลุตซ์ จาก Twilight ที่ออกฉายก่อน และ "Hercules" ชื่อง่าย ๆ สั้น ๆ แต่ได้เปรียบด้วยชื่อของดเวย์น จอห์นสันในบทนำ และได้เบร็ต แรตเนอร์ ผู้กำกับที่สะสมชื่อเสียงมาจาก Rush Hour ทั้ง 3 ภาคมารับหน้าที่ ผลคือทั้ง 2 เรื่อง ไม่มีเรื่องใดกลายเป็นหนังฮิต แต่ Hercules โชคดีกว่าที่ได้รายได้จากนอกสหรัฐมาพอคืนทุน หนังโดนวิจารณ์ในเรื่องบทภาพยนตร์ที่ชวนสับสน งานภาพซีจีที่คุณภาพต่ำ ใช้ชื่อเสียงของเฮอร์คิวลิสมาตีหัวคนดูเข้าบ้าน แต่แล้วก็เจอฉากแอ็คชั่นไร้สาระอย่างเช่นจับม้ามาเหวี่ยงตีลังกา
อันดับที่ 8 Get Smart (2008)
เรต PG-13
ความยาว 110 นาที
ผู้กำกับ ปีเตอร์ ซีกัล
รายได้ 230 ล้านเหรียญ
เรื่องราวเกี่ยวกับ : รีเมคจากทีวีซีรีส์ออกมาเป็นหนังคอมมีดี้เกี่ยวกับวงการสายลับ ที่ล้อเลียนหนังสไตล์เจมส์บอนด์ ศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่องค์กรสายลับสหรัฐที่มีสายลับกระจายอยู่ทุกมุมโลก แม็กซ์เวลส์ สมาร์ท ฝ่ายวิเคราะห์นั่งโต๊ะประจำองค์กรจอมโว ผู้มีความใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากเป็นสายลับภาคสนามกับเขาบ้าง แล้วโอกาสก็มาถึงเมื่อสำนักงานใหญ่โดนผู้ก่อการร้ายถล่มทำให้สูญเสียสายลับไปจำนวนมาก โอกาสเลยมาถึงแมกซ์เวลส์ ได้เลื่อนขั้นเป็นสายลับภาคสนาม ได้ทำงานคู่กับสายลับ99 คนสวย ที่ต้องทำหน้าที่เหมือนเป็นพี่เลี้ยงให้กับแม็กเวลส์ไปด้วย ทั้งคู่ต้องร่วมมือกันทำลายองค์กรร้ายเคออส ที่มีความเปิ่นแต่ขี้คุยของแม็กซ์เวลส์เป็นมุกฮาๆ ของหนัง
เสียงตอบรับ : เรื่องนี้ดเวย์น จอห์นสัน รับบทสมทบเป็นสายลับหมายเลข 23 ผู้มีฝีมือระดับตำนานของวงการสายลับอเมริกันและเป็นไอดอลของแม็กซ์เวลส์ แม้ไม่ได้โผล่มาบ่อยนักแต่ทุกครั้งโผล่มาก็ต้องได้ฉากเท่ ๆ ไปครองเสมอ ถึงวันนี้ Get Smart ก็จะมีอายุ 10 ปีแล้ว นับได้ว่า Get Smart เป็นผลงานเรื่องแรก ๆ จองดเวย์น ที่ลองชิมลางมาเล่นแนวคอมมีดี้ดู แล้วผลตอบรับก็ดีเยี่ยม หนังทำเงินไปถึง 230 ล้านเหรียญ นักวิจารณ์หลายท่านออกมาชื่นชมว่า Get Samrt เป็นตัวอย่างที่ดีของการเลือกนักแสดงได้เข้ากับบทและตัวหนังดูง่าย เป็นหนังที่ดูสนุกที่สุดของปี 2008"
อันดับที่ 7 THE FATE OF THE FURIOUS (2017)
เรต PG-13
ความยาว 136 นาที
ผู้กำกับ : เอฟ. แกรี่ เกรย์
รายได้ 1,235 ล้านเหรียญ
เรื่องราวเกี่ยวกับ : ปฏิบัติการล่าสุดสด ๆ ร้อน ๆ ในปีนี้ เมื่อทีมนักซิ่งต้องเจอกับศัตรูตัวใหม่นามไซเฟอร์ เป็นอาชญากรหญิงตัวฉกาจที่ได้ดอมเข้าไปร่วมเป็นพรรคพวก ทีมที่เหลือกับฮ็อปจึงต้องร่วมมือกันสกัดแผนการร้ายของไซเฟอร์ ที่มี"อีเอ็มพี"ปืนยิ่งคลื่นแม่เหล็ก เป็นอาวุธร้ายแรงของแก๊ง และต้องการคำตอบถึงการแปรพักตร์ของดอม
เสียงตอบรับ : ภาคแรกหลังการจากไปของพอล วอล์คเกอร์ ทีมผู้สร้างก็เลยเลื่อนขั้นฮ็อปจากบทสมทบขึ้นมาเป็นบทนำคู่กับวิน ดีเซล และยังดึงดาราสมทบมาอีกมากทั้งเคิร์ต รัสเซล , เจสัน สตาแธม , สกอตต์ อีสต์วู้ด และ ชาลิซ เธียรอนในบทไซเฟอร์ต้วร้ายของเรื่อง บทฮ็อบส์ของดเวย์น ถูกวางให้ประกบคู่กับ เดคคาร์ด กลายเป็นคู่แค้นที่ต้องกลายมาเป็นคู่หูด้วยหน้าที่บังคับ เป็นคู่หูล่ำบึ้กที่ถูกใจคนดูจนมีข่าวว่าหนังจะสร้างภาคแยกให้กับคู่หูนี้ หนังใช้ทุนไป 250 ล้านเหรียญแต่ทำรายได้ถล่มทลายเกินคาด 1,235 ล้านเหรียญ และเป็นหนังหวังผลการตลาดที่ได้เสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ไปบ้างเช่นกัน มิค ลาซาล จาก ซานฟรานซิสโก โครนิเคิล บอกว่า "หนังมันไม่มีเหตุไม่มีผลเลย แต่มันก็มอบความบันเทิงอย่างหนักมาก"
อันดับที่ 6 THE RUNDOWN (2003)
เรต PG-13
ความยาว 104 นาที
ผู้กำกับ ปีเตอร์ เบิร์ก
รายได้ 80 ล้านเหรียญ
เรื่องราวเกี่ยวกับ : ดเวย์น จอห์นสัน รับบทเป็นเบ็คนักล่าค่าหัวที่วางมือแล้ว แต่ดันติดหนี้พนันจนโดนบังคับให้รับงานยากด้วยการไปตามล่าทราวิสที่ไปอยู่ในป่าดงดิบบราซิล เบ็คตามจนเจอตัวทราวิสแต่ก็พบสมาชิกใหม่อีก 2 รายที่ดูแววว่าน่าจะนำปัญหามาให้เขา หนึ่งคือ มาเรียน่า หญิงสาวผู้เก็บงำความลับของป่านี้ไว้ และแฮตเชอร์ เจ้าพ่อเหมืองผู้กำลังตามล่าขุมทรัพย์มหาศาลที่มั่นใจว่าซุกซ่อนอยู่ในป่านี้
เสียงตอบรับ : มาในสไตล์หนังผจญภัยยุค 80s ที่เป็นมุกเก่าแต่เอามาใช้ก็ได้ผล เป็นหนังที่คนดูคาดหวังอะไรไว้ก็ได้เห็นในจังหวะที่เหมาะเจาะ บวกกับพลังดาราของแต่ละคนก็ทำงานได้ดี เจมส์ เบอราดดิเนลลีจาก รีลวิว กล่าวว่า "The Rundown มีทุกอย่างที่หนังแนวนี้ควรจะมี เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นที่ชวนลุ้น เป็นการจับคู่ที่ต่างฝ่ายต่างไม่เต็มใจนัก แต่ก็กลายเป็นมุกที่ได้ผลดี"
อันดับที่ 5 FAST & FURIOUS 6 (2013)
เรต PG-13
ความยาว 130 นาที
ผู้กำกับ จัสติน ลิน
รายได้ 788 ล้านเหรียญ
เรื่องราวเกี่ยวกับ : เมื่อแก๊งซิ่งแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตตัวเอง ลุค ฮ็อบส์ ก็ตามตัวดอมจนเจอ พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอให้มาช่วยงานตำรวจตามเก็บอาชญากรมือพระกาฬตัวใหม่นาม โอเว็น ชอว์ เพื่อแลกกับการอภัยโทษ ดอม รับงานและตามเกลอเก่าที่กระจายอยู่ทั่วโลกให้มาร่วมทีมกันอีกครั้ง ในปฎิบัติการครั้งนี้ ทำให้ดอม ได้เจอกับเล็ตตี้ ที่วันนี้เธอกลายเป็นมือขวาของโอเว็น ชอว์ ไปแล้ว เหตุจากเธอความจำเสื่อม ดอม จึงต้องยับยั้งแผนการของ โอเว็น ชอว์ และพยายามให้คนรักเก่าฟื้นคืนความจำกลับมา
เสียงตอบรับ : การสานต่องานกำกับครั้งที่ 4 ของ จัสติน ลิน ก่อนจะขอลาพักและส่งไม้ต่อให้กับเจมส์ วาน แต่มีข่าวว่าจัสติน จะกลับมาทำภาค 9 และ 10 นะ , หลังดเวย์น มาร่วมทีม Fast ในภาค 5 และได้เสียงตอบรับดีเขาจึงต้องกลับมาอีกครั้งในภาค 6 นี้ ที่ระเบิดระเบ้อกว่าเดิม ลิซ่า เคเนดี้จาก เดนเวอร์ โพสต์ บอกว่า "บางฉากแอ็คชั่นมันบ้าไปแล้ว ไร้สาระสุด ๆ ฝ่าฝืนกฏฟิสิกส์สุด ๆ มีแต่เรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ แฟรนไชส์นี้ยิ่งเดินหน้าไปแต่ละภาคก็ยิ่งบ้าขึ้น บ้าขึ้น"
อันดับที่ 4 CENTRAL INTELLIGENCE (2016)
เรต PG-13
ความยาว 107 นาที
ผู้กำกับ รอว์สัน มาร์แชล เทอร์เบอร์
รายได้ 216 ล้านเหรียญ
เรื่องราวเกี่ยวกับ : การกลับมาพบกันของเพื่อนเก่าตั้งแต่สมัยไฮสคูลของ คาลวิน จอยเนอร์ และ บ๊อบ สโตน ที่ชีวิตของทั้งคู่ช่างดูกลับตาลปัตรกันเสียจริง คาลวิน เป็นเด็กที่มีแววรุ่งมากในสมัยเรียนว่าชีวิตเขาต้องประสบความสำเร็จอย่างสูงแต่ลงเอยเป็นสมุห์บัญชีในออฟฟิศ ในขณะที่บ๊อบ เป็นเด็กอ้วนในชั้นที่โดนเพื่อน ๆ ล้อ แต่วันนี้กลายเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอร่างบึ้ก บ๊อบ ติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากคาลวินให้ช่วยเขาตามคนร้ายที่ขโมยรหัสลับไปขายในตลาดมืด แต่ดูเหมือนว่าบ๊อบจะถูกซีไอเอตามล่าเสียเอง สร้างความสงสัยต่อคาลวินว่าแท้จริงแล้วบ๊อบปกปิดอะไรเขาไว้
เสียงตอบรับ : หนังคู่หูของฮอลลีวู้ดเรื่องที่เท่าไหร่ก็นับไม่ถ้วนแล้ว อย่าคาดหวังว่าเรื่องนี้จะมีอะไรแปลกใหม่ ซึ่งมันก็ไม่มี แต่ผลกลับออกมาเวิร์คมาก เพราะการจับคู่กันของ ดเวย์น จอห์นสัน และ เควิน ฮาร์ต ที่ขนาดตัวต่างกันมากแต่กลับกลายเป็นว่าเคมีของทั้งคู่เข้ากันได้ดี รับส่งมุกกันได้เยี่ยมซึ่งหลายมุกก็เกิดจากการด้นสดของคู่นี้ เป็นอีกเรื่องที่ดเวย์น จอห์นสัน พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไปได้ดีกับแนวแอ็คชั่น-คอมมีดี้ , สเตฟานี ซาชาเร็ค เขียนไว้ในนิตยสาร ไทม์ ว่า "ไม่มีใครสามารถแย่งความสนใจไปจากคู่นี้ได้เลย ทั้งคู่เข้าขากันดีมาก มีสลับจังหวะให้ผ่อนคลาย และบางช่วงก็ไฮเปอร์สุด ๆ หนังเต็มไปด้วยความน่าขันและมันเลอเลิศมาก"
อันดับที่ 3 FURIOUS 7 (2015)
เรต PG-13
ความยาว 137 นาที
ผู้กำกับ เจมส์ วาน
รายได้ 1,516 ล้านเหรียญ
เรื่องราวเกี่ยวกับ : เรื่องราวต่อจากภาค 6 เมื่อโอเว็น ชอว์ โดนกำจัดไป เด็คการ์ด ชอว์ บทของเจสัน สตาแธม ก็ออกมาแก้แค้นแทนน้องชาย เปิดฉากมาภาคนี้ โอเว็น ก็ชำระแค้นด้วยการยิงระเบิดถล่มบ้านดอม และต้องการตามล้างแค้นกลับ ก็พอดีกับมิสเตอร์โนบอดี้ตัวแทนรัฐบาลยื่นข้อเสนอมาให้ดอม ช่วยตามหา "ตาทิพย์" อุปกรณ์จารกรรมสุดมหัศจรรย์ที่สามารถสืบหาทุกอย่างได้จากโลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งคิดค้นขึ้นมาโดย แรมซีย์ แฮคเกอร์สาว เธอถูก"จากันดี"วายร้ายระดับโลกจับตัวไป ดอมและเดอะแก๊งจึงต้องช่วยกันชิงตัวแรมซีย์กลับมาจากจากันดี และจะได้ใช้ตาทิพย์ตามหาเด็คการ์ด ชอว์
เสียงตอบรับ : เป็นภาคที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเหตุเพราะการสูญเสียพอล วอล์คเกอร์ พระเอกที่อยู่กับแฟรนไชส์มาตั้งแต่ภาคแรก และต้องเสียชีวิตไปตั้งแต่กลางเรื่อง ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนเรื่องราวตอนจบใหม่เพื่อเป็นการบอกลาบทไบรอัน ของเขา ส่วนตัวหนังก็ยังอัดแน่นฉากแอ็คชั่นแบบบ้าคลั่งไม่สนหลักความจริงเช่นเดิม ดเวย์น จอห์นสัน กลับมาร่วมทีมเป็นครั้งที่ 3 เพื่อพิสูจน์ให้เห็นกันชัด ๆ ว่าส่วนหนึ่งของความสำเร็จของแฟรนไชส์ FAST ในภาคหลัง ๆ ส่วนหนึ่งก็มาจากชื่อเสียงของเขา
อันดับที่ 2 FAST FIVE (2011)
เรต PG-13
ความยาว 130 นาที
ผู้กำกับ จัสติน ลิน
รายได้ 626 ล้านเหรียญ
เรื่องราวเกี่ยวกับ : ดอม และ ไบรอัน ร่วมกันขโมยรถระหว่างถูกขนส่งด้วยรถไฟ ภายหลังพบว่ารถทั้งสามเป็นของกลางที่ถูกยึดจากหน่วยปราบปรามยาเสพติด ไม่นานเรย์เอสเจ้าพ่อยาเสพติดก็ยกขบวนมาทวงรถคืนจากดอม , ดอมและไบรอันจึงค้นรถพบว่ามีชิปบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจค้ายาและเงิน 100 ล้านดอลลาร์ของเรย์เอส จึงเป็นเหตุที่เรย์เอสต้องการรถคืน , ดเวย์น จอห์นสันเปิดตัวครั้งแรกในแฟรนไชส์นี้กับบทลุค ฮ็อบส์ ระหว่างที่ฮ็อบส์ไล่ตามจับดอมและไบรอันก็บังเอิญปะทะกับกลุ่มของเรย์เอส ทีมของฮ็อบส์โดนยิงตายหมด ฮ็อบส์รอดมาได้จากการช่วยเหลือจากดอม ฮ็อบส์จึงตัดสินใจร่วมทีมกับดอมและไบรอันตามถล่มเรย์เอสเพื่อล้างแค้นให้ลูกทีม
เสียงตอบรับ : เป็นภาคแรกที่ค้นพบแนวทางใหม่ของตัวเอง ที่เปลี่ยนทิศทางจากหนังแข่งรถเป็นหนังจารกรรมที่มีรถแข่งเท่ ๆ เป็นส่วนประกอบ และฉากแอ็คชั่นแบบเวอร์วังเอาใจคนดู ภาคนี้ ดเวย์น จอห์นสัน มาร่วมแจมแฟรนไชส์เป็นภาคแรก กับบทเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐที่แทบคาแรกเตอร์ประจำของเขา จากแฟรนไชส์หนังที่เคยโดนโขกสับจากนักวิจารณ์มาตลอดทุกภาค ก็เริ่มมีเสียงชื่นชมให้ได้เห็นบ้าง "มันเป็นหนังสนุก ที่อัดแน่นไปด้วยฉากแอ็คชั่น ความเร็ว ความโหด ที่มาจาเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ที่รอบนี้ไม่ได้ใส่ชุดรัดรูปหรือเทพเจ้าแต่เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มาในเสื้อยืดและกางเกงยีนส์แต่ขับรถได้เร็วมาก"
อันดับที่ 1 Moanna (2016)
เรต PG
ความยาว 107 นาที
ผู้กำกับ รอน คลีเมนต์ , จอห์น มัสเกอร์
รายได้ 643 ล้านเหรียญ
เรื่องราวเกี่ยวกับ : เรื่องราวในอดีตเมื่อ 3,000 ปีก่อน การผจญภัยของโมอาน่าทายาทของชาวเกาะโมทุนุย ที่ออกท่องทะเลไปกับมาวอิมนุษย์ครึ่งเทพร่างยักษ์ที่มีตะขอเป็นอาวุธ ทั้งคู่เดินทางตามหาเกาะในตำนานที่สาบสูญไปเพื่อลบล้างคำสาปที่มีมาแต่โบราณต่อหมู่บ้านของเธอ ระหว่างการเดินทางก็ต้องเผชิญกับเหล่าสัตว์ประหลาดและเหตุการณ์เหลือเชื่อต่าง ๆ นานา
เสียงตอบรับ : และอันดับ 1 ในรายชื่อหนังของดเวย์น จอห์นสัน กลับกลายเป็นหนังอนิเมชั่นที่ได้ดเวย์นมาพากย์เสียงมาวอิ มนุษย์ร่างยักษ์ที่ภาพลักษณ์ดูเหมาะกับเสียงพากย์ของดเวย์มาก ทำให้ Moana กลายเป็นหนึ่งในหนังฮิตของปี 2016 "การผสมผสานของงานภาพซีจีเรนเดอร์ที่ยอดเยี่ยมรวมเข้ากับเรื่องราวจากประเพณีโบราณของชาวเกาะ การออกแบบตัวการ์ตูนที่มีสีสัน และทีมพากย์ทีคัดเลือกมาได้ลงตัวอย่างมาก"เสียงชื่นชมจาก ไมเคิล ราชเชฟเฟน เขียนลงใน ฮอลลีวู้ด รีพอร์ตเตอร์