เหตุผลลึกๆ ที่ชาญฉลาด ทำไม Disney ถึงซื้อ Fox
หลังจากกลับมาเจรจากันอีกรอบระหว่าง Disney ผู้นำความบันเทิงจากฮอลลีวูด และ 21st Century Fox บริษัทแม่ของฟ็อกซ์ ภายหลังการเจรจารอบแรกไม่ลงตัว และได้ข้อสรุปว่าทางฝั่ง Disney ได้บรรลุข้อตกลงที่จะซื้อบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่อย่าง 21st Century Fox แล้วด้วยมูลค่าหุ้นสูงถึง 52,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1.7 ล้านล้านบาท
ข้อตกลงดังกล่าวจะส่งผลให้ Disney มีสิทธิในภาพยนตร์ สตูดิโอผลิตรายการโทรทัศน์ เครือข่ายบันเทิงผ่านเคเบิล รวมไปถึงธุรกิจโทรทัศน์นานาชาติ ซึ่งในส่วนของภาพยนต์แน่นอนว่า Disney จะได้สิทธิภาพยนต์ อย่าง X-Men, Avatar,Fantastic Four, Deadpool, Hidden Figures, The Grand Budapest Hotel รวมถึง The Martian ทั้งหมดเอื้ออำนวยต่อการสร้างจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่เรียกว่า Marvel Cinematic Universe แต่เหตุผลลึกๆ ในการซื้อฟ็อกซ์ ยังมีเหตุผลอื่นเพิ่มเติมที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้
1. Disney ต้องการขยายอาณาจักรของตัวเอง เพื่อต่อกรกับคู่แข่งตัวฉกาจในธุรกิจบันเทิงที่กำลังมาแรงอย่าง Netflix และ Amazon ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าหลังจากการเจรจรานี้สำเร็จเราอาจจะได้เห็น Disney เปิดตัวบริการสตรีมมิ่งเป็นของตัวเองก็เป็นได้
2. ภาพยนตร์แฟรนไชส์ดังอย่าง Avatar เปลี่ยนมือมาอยู่ภายใต้การดูแลของ Disney ซึ่งหนังเรื่องนี้สามารถเพิ่มมูลค่าการตลาด หากคิดต่อยอดดีๆ สามารถพัฒนาเป็นธีมปาร์คภายในสวนสนุก Disneyland เรียกว่า Disney รอฟันกำไรเน้นๆ ในระยะยาวได้เลย
3. ปัจจุบันดิสนีย์ถือครองลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ชุด Star Wars เฉพาะไตรภาคใหม่ 7-9 เท่านั้น มิได้นับรวมเอพพิโซด 1-6 ซึ่งเป็นไตรภาคเดิมของ Star Wars ที่อยู่ภายใต้การดูแลและจัดจำหน่ายโดย Fox ซึ่งสัญญาฉบับเดิมระหว่าง Lucasfilm และ Fox จะสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม ปี 2020 แต่ ทว่า Star Wars Episode IV: A New Hope หรือเอพพิโซดที่ 4 ลิขสิทธิ์ทั้งหมดก็จะยังคงเป็นของ Fox ต่อไป เนื่องจากว่า ในช่วงที่สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ Fox เป็นผู้ออกเงินทุนสำหรับการสร้างภาพยนตร์ทั้งหมด ดังนั้นหาก Disney ต้องการถือลิขสิทธิ์เกี่ยวกับ Star Wars ทั้งหมด จะต้องซื้อ Fox ไปเป็นกรรมสิทธิ์
4. สื่อทีวีของ Fox อย่าง Twentieth Century Fox Television , FX Networks, Fox21 ที่เป็นเจ้าของสิทธิการ์ตูนดังอย่าง The Simpsons ก็จะตกเป็นของ Disney ขณะที่ในส่วนของเคเบิลทีวี Disney จะได้สิทธิใน Fox Sports International, Fox TV, SKY TV รวมถึง National Geographic อีกด้วย
นอกจากนี้ โรเบิร์ต อีเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Disney ที่จะดำรงตำแหน่งไปจนถึงปี 2564 เปิดเผยว่า การซื้อธุรกิจต่างๆของ 21st Century Fox ในครั้งนี้สะท้อนการเพิ่มขึ้นของความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อประสบการณ์บันเทิงที่น่าสนใจมากขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้นและสะดวกสบายมากขึ้นกว่าที่เคยเป็น