กว่าจะมาเป็นฉากสุดท้ายและบทเพลงอำลาใน Pitch Perfect 3
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่ภาพยนตร์จะถูกถ่ายทำตามลำดับ แต่บังเอิญว่าฉากสุดท้ายที่ถ่ายทำที่แอตแลนตาก็เป็นฉากสุดท้ายของ Pitch Perfect 3 พอดิบพอดี ในช่วงเวลาสองสามสัปดาห์สุดท้ายของการถ่ายทำ ทีมผู้สร้าง นักแสดงและทีมงานต่างก็รู้สึกถึงความหนักอึ้งราวกับฟ้าถล่ม "การถ่ายทำฉากสุดท้ายเป็นตอนที่คุ้มค่าที่สุดของหนังทั้งเรื่องค่ะ" ทริช ซี ผู้กำกับ กล่าว "เราใช้เวลานานเลยกว่าจะสร้างเพลงนี้ได้เพราะเรารู้ว่ามันสำคัญแค่ไหน มันจะต้องทำหลายๆ อย่าง ทั้งเป็นเพลงอำลา และเริ่มต้นบทใหม่ในฐานะเพลงที่ก้าวเดินไปข้างหน้า มันจะต้องเป็นเพลงเกี่ยวกับมิตรภาพและเกี่ยวกับการก้าวสู่อนาคตของตัวคุณเองค่ะ"
การถ่ายทำฉากสุดท้ายเป็นเหมือนการชำระล้างจิตใจสำหรับทีมงานและนักแสดงทุกคน แอนนา เคนดริคกล่าวสรุปว่า "ฉันร้องไห้อย่างเปิดเผยต่อหน้าเพื่อนร่วมงานแทบทุกคนของฉันประมาณเจ็ดครั้งได้แล้วค่ะ"
"เรารู้จักกันมากว่าห้าปีแล้ว และซีเควนซ์สุดท้ายก็สะเทือนใจมากๆ เราพยายามจะซึมซับความรู้สึกของการเป็นเบลลาส์ค่ะ" รีเบล วิลสัน หนึ่งในนักแสดงนำตั้งข้อสังเกต "หนังเรื่องนี้มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อชีวิตของเราและชีวิตการทำงานของเรา ตอนที่เราปิดกล้อง เราก็เลยร้องไห้และกอดกันกลมเลยค่ะ"
ในการกล่าวคำอำลา ทีมงานเห็นพ้องต้องกันว่าเพลงสำเร็จการศึกษาจะต้องเป็นเพลง "Freedom! 90" ที่โด่งดังของจอร์จ ไมเคิล บรู๊คส์อธิบายถึงเหตุผลว่า "การพยายามคิดฉากสุดท้ายเป็นเรื่องซับซ้อนครับ มันจะต้องเป็นข้อคิดสำหรับผู้ชม และเป็นการประกาศด้วยว่าตัวละครจะไปในทิศทางไหน นอกจากนั้น เราต้องผสมผสานทั้งสองเรื่องนั้นเข้าด้วยกันด้วยบทส่งท้ายที่เป็นหนึ่งเดียวกันสำหรับสาวๆ เบลลาส์พวกนี้ครับ"
เพลงสุดท้ายเพื่ออำลาจึงเป็นเพลงที่ใช้ความอุตสาหะอย่างมาก ตอนที่พวกเธอร้องเพลง มันเริ่มต้นด้วยแค่เสียงหนึ่งเสียง ก่อนที่มันจะวนหลายรอบและเปลี่ยนกลายเป็นเสียงอลังการและงดงาม
นอกจากนี้ ทีมงานตัดสินใจเลือกโลเกชันที่พวกเขาต้องการใช้สำหรับฉากสุดท้าย ซึ่งก็คือป้อมปราการ "มันเป็นป้อมเก่าทรงกลมบนหน้าผา ที่ได้รับอิทธิพลจากโรมันค่ะ" ผู้กำกับ กล่าว "พวกเขาจัดไลฟ์โชว์กันที่นั่น และเราก็คิดว่ามันจะเป็นที่ที่เพอร์เฟ็กต์ เราก็เลยจำลองมันขึ้นที่นี่ เราได้แกะสลักทุกอย่างจากโฟมเพื่อสร้างเวทีนี้ขึ้นมา เราอยากให้แสงให้ความรู้สึกแบบร็อคแอนด์โรล และความคลาสสิกกับโลกเก่าในเวลาเดียวกัน เราอยู่ในฉากแบบยุโรปที่ไร้กาลเวลา งดงามและชวนฝัน เราก็เลยนำตัวนักออกแบบแสงร็อคแอนด์โรลพิเศษเข้ามาช่วยเราค่ะ"
เมื่อสาวๆ เบลลาส์ขึ้นเวทีแล้ว พวกเธอก็รู้สึกถึงทุกอย่างที่อยู่เบื้องหลังพวกเธอ ผู้กำกับเปิดใจว่า "มีคนมากมายที่แคร์หนังเรื่องนี้ ตัวละครเหล่านี้ และการเดินทางของพวกเธอ มันทรงพลังมากที่ได้สร้างฉากมหัศจรรย์นี้เพื่อนำทุกอย่างมาสู่ฉากไคลแมกซ์ที่ยิ่งใหญ่ อารมณ์ที่เกิดขึ้นทั้งมหาศาลและสมจริงมากๆ แม้กระทั่งในตอนซ้อม สาวๆ แทบจะไม่กลั้นน้ำตาระหว่างการถ่ายทำได้เลย พวกเธอเผยความรู้สึกทุกอย่างบนเวทีในค่ำคืนนั้น และทุกคนในห้องก็รู้สึกได้ค่ะ"
หากจะหาเหตุผลที่แฟรนไชส์นี้โดนใจผู้คนมากมายคงเป็นเพราะ "Pitch Perfect เวิร์คในหลายๆ ทาง แต่มันเวิร์คที่สุดในตอนที่มันเป็นการประสานกันที่สมบูรณ์แบบระหว่างความไร้สาระและความเจ๋ง สิ่งที่ตลกเสมอในโลกใบนี้คือการที่คนพวกนี้มองตัวเองอย่างจริงจังไหน แต่ผู้ชมก็ตระหนักได้ว่าพวกเธอมีพรสวรรค์แค่ไหน และพวกเธอเชื่อในตัวเองแค่ไหน ตัวละครเหล่านี้มารวมตัวกันเพื่อสร้างเสียงที่น่าประทับใจและน่าพึงพอใจ แม้ว่าหนทางที่พวกเธอไปถึงจุดนั้นได้มักจะเต็มไปด้วยความขำขันและไร้สาระก็ตาม"
ผู้กำกับยังชื่นชมที่ตัวละครเหล่านี้พบวิธีที่จะเดินอยู่บนเส้นกึ่งกลางระหว่างความพิลึกพิลั่นที่น่าขำขันและความสมจริง "เป็นเรื่องง่ายที่จะทำตัวพิลึกสุดขั้วไปเลย หรือไม่ก็ยึดติดกับสิ่งที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคย แต่สิ่งที่ยากก็คือการสร้างสมดุลระหว่างทั้งสองอย่าง Pitch Perfect มีความสมจริงแบบที่คุณสามารถใช้กับชีวิตคุณเองได้ ผู้หญิงพวกนี้เจอในสิ่งที่พวกเราทุกคนเจอ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นแกะดำ การอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่พยายามหาทางไปหลังเรียนจบนะคะ"
Pitch Perfect 3 ชมรมเสียงใส ถือไมค์ตามฝัน 3 กำกับการแสดงโดย ทริช ซี (จาก Step Up All In) นำแสดงโดย แอนนา เคนดริก, เรเบล วิลสัน, เฮลีย์ สไตน์เฟลด์, บริททานีย์ สโนว์, แอนนา แคมป์, อเล็กซิส แนปป์, ฮานา เม ลี, เอสเตอร์ ดีน, คริสซี ฟิท, เคลลี่ เจเคิล, เชลลี เรคเนอร์, จอห์น ฮิกกินส์, เอลิซาเบธ แบงค์ พร้อมด้วยนักแสดงที่มาเสริมในภาคนี้คือ จอห์น ลิธโกว์ และรูบี้ โรส 21 ธันวาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างซับไทย