สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR: United Nations High Commissioner for Refugees) และโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า จัดงานเปิด “เทศกาลภาพยนตร์ผู้ลี้ภัยครั้งที่ 4 (Refugee Film Festival Opening Night 4th)” คัดสรร 6 ภาพยนตร์คุณภาพเยี่ยมที่สะท้อนถึงชีวิตความเจ็บปวดจากการพลัดพรากจากครอบครัวและคนรัก และการเอาชนะอุปสรรค ซึ่งภาพยนตร์ที่นำมาจัดฉายในครั้งนี้การันตีด้วยการเข้าชิงรางวัลระดับโลก เช่น รางวัลออสการ์โดยงานนี้เปิดฉายให้ชมฟรี!! พร้อมบทบรรยายอังกฤษหรือภาษาไทย ทุกเรื่อง ทุกรอบ ในวันที่ 19-24  มิถุนายน  2557 ที่ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 

ภายในงานครั้งนี้เรายังได้รับเกียรติจาก คุณมิเรย์ จิราร์ ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติมาเปิดงานในครั้งนี้ร่วมด้วย คุณพรประไพ กาญจนรินทร์ อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ คุณ Patrice Cousineau ผู้แทนจากสถานทูตแคนาดา ประจำประเทศไทยและผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “Reel Time : Banished Kids” Eleazer L.Del Rosario ซึ่งแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานในครั้งนี้ต่างรู้สึกกันว่า “ผู้ลี้ภัยแท้จริงคือกลุ่มคนที่น่าสงสารมากมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการต่อสู้ดิ้นรน พวกเขายังต้องการความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย” 

ภาพยนตร์ที่น่าสนใจในเทศกาลฯปีนี้ อาทิ Monsieur Lazhar กำกับโดย Philippe Falardeau เข้ารางวัลชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมปี 2555 คุณครูโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในเมืองมอนทรีลได้ฆ่าตัวตาย ทำให้เด็กนักเรียนอยู่ในอาการสะเทือนใจเป็นอย่างมาก โรงเรียนต้องทำการดูแลเด็กกลุ่มนี้อย่างดีที่สุด และในขณะเดียวกันต้องหาครูคนใหม่เพื่อช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ ในที่สุด Bachir Lazhar ชายแอลจีเรียวัยกลางคนได้กลายเป็นคุณครูคนใหม่ของพวกเขา  ยิ่งไปกว่านั้นยังมีภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลสารคดีดีเด่นจากกระทรวงวัฒนธรรมประเทศญี่ปุ่นอย่าง Life in a Foreign Land : Burmese in Japan กำกับโดย DoiToshikuni ในปี 1991 หนุ่มชาวพม่าคนหนึ่งต้องหนีจากการประหัตประหาร และขอลี้ภัยที่ประเทศญี่ปุ่น  โดยมีชีวิตปกติสุขมานานกว่า 20 ปี  แต่เขายังคงติดตามการเป็นประชาธิปไตยของประเทศพม่า  

นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ที่สะท้อนถึงชีวิตผู้ลี้ภัยชาวอัฟกานิสถานเรื่อง Europe Trap Zakereh ผู้ลี้ภัยสงครามจากอัฟกานิสถานกับลูกชายของเธอ หลังจากที่ต้องพักพิงอยู่ในอิหร่านอย่างผิดกฎหมายเป็นเวลา 15 ปี เธอตัดสินใจเดินทางไปที่ประเทศกรีซแต่ได้พลัดหลงจากลูกชายของเธอที่สนามบินเอเธนส์ จากนั้นเธอได้เดินทางต่อไปที่สเปน แม้จะได้รับการสนับสนุนในฐานะผู้ลี้ภัย และความพยายามของเธอที่จะเป็นส่วนหนึ่งในสังคม เธอกลับต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว และเธอจะเห็นลูกชายของเธออีกครั้งหรือไม่ 

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีภาพยนตร์ที่นำเสนอชีวิตของผู้ลี้ภัยจากหลากหลายประเทศ อาทิ Reel Time : Banished Kids ภาพยนตร์สารคดีที่ติดตามชีวิตเด็กชาวฟิลิปปินส์ ที่บรรพบุรุษลี้ภัยไปอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย สารคดีนี้ได้ตีแผ่ชะตากรรมการถูกละเมิดสิทธิ์ของเด็กเหล่านี้, Exit  เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลละครโทรทัศน์ดีเด่นจากเทศกาลภาพยนต์แห่งเนเธอร์แลนด์  เรื่องราวของ Amadou ที่เติบโตขึ้นมาในชุมชนท้องถิ่นของเนเธอร์แลนด์ และกำลังจะจบการศึกษาแต่เขากลับถูกไล่ให้ออกจากประเทศของเขาเอง และ New Walls-Women Refugees in Eastern Europe สารคดีของหญิงผู้ลี้ภัยจาก 6 ประเทศต่างๆที่มาถึงยุโรปตะวันออกเพื่อแสวงหาความคุ้มครองในการสร้างชีวิตใหม่  

สำหรับเทศกาลภาพยนตร์ผู้ลี้ภัยครั้งที่ 4 (The 4th Refugee Film Festival) ในครั้งนี้เปิดฉายให้ได้ชมฟรี!! พร้อมบทบรรยายภาษาไทยทุกเรื่อง ทุกรอบ ในวันที่ 19-24  มิถุนายน  2557 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์  สำหรับผู้ที่สนใจเพียงลงทะเบียนจองบัตรที่ www.facebook/UNHCRThailand สอบถามรอบฉายภาพยนตร์ หรือรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมที่  SF Call Center 02-268-8888  และ www.sfcinemacity.com