"แจ็คกี้ ชาน" ปลดปล่อยจินตนาการ ออกแบบฉากแอคชั่นใน The LEGO Ninjago Movie
"The LEGO Ninjago Movie" แอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดที่ได้ทีมผู้สร้างจาก "The LEGO Movie" และ "The LEGO Batman Movie" ที่คราวนี้จะพาผู้ชมได้ทำความรู้จักกับเมืองนินจาโกที่แตกต่างกับแอนิเมชั่นสองเรื่องแรกอย่างสิ้นเชิง หนึ่งในนั้นคือเรื่องของฉากแอคชั่นทั้งหมดที่ได้ตัว แจ็คกี้ ชาน ซึ่งนอกจากจะมาพากย์เสียงเป็นตัวละคร ปรมาจารย์วู แล้ว แอคชั่นสตาร์ชื่อดังแห่งเอเชียรายนี้ยังทำหน้าที่ช่วยออกแบบการต่อสู้ให้แอนิเมชั่นเรื่องนี้อีกด้วย ซึ่งนับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญกับอีกบทบาทหน้าที่ของเขา
เพื่อสร้างฉากแอคชั่นให้ออกมาในรูปแบบและโทนที่ผู้สร้างหนังต้องการ แจ็คกี้ ชาน ได้นำทีมสตันท์อันโด่งดังของเขามาช่วยออกแบบการต่อสู้ให้ โดยยังคงเอกลักษณ์การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและน่าตื่นตาตื่นใจ คั่นด้วยอารมณ์ขันที่สอดแทรกเข้ามาอย่างลงตัว แต่ว่าการเตะ การพลิกตัว และการกระโดดในแบบแอนิเมชันนั้นแตกต่างกันอย่างไรกับในโลกความเป็นจริง
"คุณสามารถสร้างการเคลื่อนไหวรูปแบบไหนก็ได้ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ร้อยแปดอย่าง และด้วยการใช้แอนิเมชัน คุณสามารถทำให้มันดีขึ้นกว่าเดิมและสนุกกว่าเดิมอีก 10 เท่า" ปรมาจารย์ตัวจริงกล่าว นอกจากนี้ ด้วยการยอมรับว่าประวัติอาการบาดเจ็บของเขานั้นโด่งดังไม่แพ้บทแอคชั่นที่เขาเล่นมาตลอดชีวิต เขาได้กล่าวเสริมพร้อมกับหัวเราะไปด้วยว่า "วิธีนี้ทำให้ผมไม่ต้องเล่นคิวบู๊เอง แล้วก็ไม่มีใครต้องเจ็บตัวด้วย" ในปี 2000 อโรนอฟสกี้ ได้เปิดตัวฉายภาพยนตร์เรื่อง "Requiem for a Dream" ที่งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ โดย เอเลน เบอร์สติน ดารานำของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลออสการ์
การที่หุ่นเลโก้ไม่งอเข่าและข้อศอก กลายเป็นความท้าทายประการสำคัญที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจอีกเช่นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งดังที่แดน ลิน หนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง ชี้ว่า "มีแอคชั่นที่เป็นเอกลักษณ์อยู่มากมายในแอนิเมชั่นเรื่องนี้ ทั้งแอคชั่นแบบศิลปะการต่อสู้ หุ่นสู้กับหุ่น นินจาสู้กับหุ่น และนินจาสู้กับสัตว์ประหลาด"
ทั้งนี้ แจ็คกี้ ชาน เองก็แทบจะคิดว่างานนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ในตอนแรกเช่นกัน เมื่อเขาถูกเรียกตัวมาพูดคุยในประเด็นการออกแบบฉากต่อสู้ในแอนิเมชั่นเรื่องนี้กับทีมงาน ซึ่งผู้อำนวยการสร้างพูดถึงเหตุการณ์นั้นว่า
"เขาจ้องดูหุ่นเลโก้และจับแขนมันหมุนไปมาแล้วพูดว่า 'อืม ผมว่ามันไม่น่าจะเวิร์คนะ' จากนั้นเราก็ให้ดูคลิปที่เราทำกันอยู่แล้วผมก็พูดว่า 'อย่ากังวลเรื่องข้อจำกัดของตัวต่อเลยครับ เราจะหาทางทำจนได้ล่ะ ออกแบบการต่อสู้ให้เหมือนที่คุณทำในหนังเรื่องอื่นๆ เลยครับ"
เมื่อหาจุดลงตัวกันได้แล้วก็ถึงคราวเตรียมงานจริงๆ โดยเพื่อให้การต่อสู้มีกลิ่นอายแบบ "แจ็คกี้ ชาน" นักสร้างแอนิเมชันได้ศึกษาฉากการต่อสู้ระหว่างบรูซ ลี กับ บัสเตอร์ คีตัน โดยสังเกตแรงปะทะจากการเตะและการต่อยแต่ละครั้ง รวมถึงการนำที่ว่างและวัตถุต่างๆ ในสภาพแวดล้อมมาใช้ให้เป็นประโยชน์
แจ็คกี้ ชาน ยังมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการสร้างแอนิเมชันให้ตัวละครอาจารย์วู ไม่เพียงแค่วิธีการต่อสู้ของเขา แต่ยังรวมถึงการเคลื่อนไหวในแต่ละฉาก หรือเวลาที่เขาเลิกคิ้วขึ้นหรือพูดคุยกับเด็กๆ
ทีมงานยังยกระดับผลงานขึ้นไปอีกขั้นด้วยการให้ทีมสตันท์รวม 15 คนของแจ็คกี้ ชาน แสดงการต่อสู้ในหนังออกมา จากนั้นนักสร้างแอนิเมชันก็จะนำการต่อสู้นั้นไปแยกส่วน ตั้งแต่การวางท่าก่อนเริ่มการต่อสู้ไปจนถึงวิธีการใช้ไม้กระบองหรือดาบ เพื่อให้ได้ฉากต่อสู้ที่ออกมาแปลกใหม่ที่สุดในโลกของแอนิเมชั่น
The LEGO Ninjago Movie แอนิเมชั่นที่จะพาคุณไปพบการต่อสู้เพื่อเมืองนินจาโกที่ต้องอาศัยลอยด์ผู้เยาว์วัย หรือในชื่อว่านินจาเขียว พร้อมกับเพื่อน ๆ ของเขาที่ล้วนเป็นนักรบปริศนาและ LEGO Master Builders ที่นำโดยปรมาจารย์กังฟูวู ผู้มีความอัจฉริยะปราดเปรื่องพวกเขาต้องต่อสู้เอาชนะผู้นำที่ชั่วร้ายอย่าง การ์มาดอน ผู้ร้ายตลอดกาลที่กลายเป็นพ่อของลอยด์ การเผชิญหน้าระหว่างจักรกลต่อจักรกล พ่อกับลูก ในการเผชิญหน้าครั้งใหญ่นี้จะเป็นบททดสอบนินจารุ่นใหม่ที่มีความโหดเหี้ยมแต่ไร้ระเบียบวินัย ซึ่งพวกเขาจะได้เรียนรู้วิธีตรวจสอบอีโก้ของตัวเอง และรู้จักควบคุมอารมณ์เพื่อแสดงพลังที่แท้จริงของพวกเขาออกมา
วันนี้ ในโรงภาพยนตร์