5 หนังสตูดิโอจิบลิ ที่คุณห้ามพลาด

Movie News19 กันยายน 2560

           หลังการประกาศข่าวที่ช็อควงการอนิเมชั่นในปี 2014 อย่างการวางมือการทำอนิเมชั่นของปู่ฮายาโอะ มิยาซากิ หัวเรือใหญ่และผู้บุกเบิกสตูดิโอจิบลิ และในเวลาถัดมาสตูดิโอจิบลิก็ประกาศว่าจะเลิกผลิตหนังชั่วคราว โดยมี When Marnie Was There เป็นเรื่องสุดท้ายนั้น ก็ทำแฟน ๆ น้ำตาตกด้วยความเสียดายไปตาม ๆ กัน แต่แล้วความหวังในการ์ตูนดี ๆ ลายเส้นมีเอกลักษณ์ที่สวยงามก็ยังไม่สิ้นครับ เมื่อ ฮิโรมาสะ โยเนบายาชิ (Hiromasa Yonebayashi) อดีตผู้กำกับฝีมือดีจากสตูดิโอจิบลิ เจ้าของผลงานสุดวิจิตรอย่าง Arriety และWhen Marnie Was there  และโยชิอากิ นิชิมุระ (Yoshiaki Nishimura) อดีตทีมงานของสูดิโอจิบลิ ทั้งสองคนจับมือกันก่อตั้ง Studio Ponoc ขึ้น เพื่อสานต่อแนวทางของสตูดิโอจิบลิ โดยได้ทีมงานแอนิเมเตอร์มือ1 จากสตูดิโอจิบลิมากันแบบแทบยกสตูเก่ามากันเลยทีเดียว โดยกำลังจะมีอนิเมชั่นเรื่องใหม่ Mary And The Witch's Flower ผลงานชิ้นแรกของค่าย Studio Ponoc โดยฮิโรมาสะ โยเนบายาชิ นั่งแท่นกำกับและเขียนบทด้วยตัวเอง



            Marry and the witch’s Flower แมรี่ผจญแดนแม่มด ดัดแปลงจากหนังสือแนวแฟนตาซี The Littlest Broomstick ซึ่งเขียนโดย แมรี่ สจ๊วต เล่าเรื่องราวผ่านเด็กสาวอย่างแมรี่ ที่ค้นพบเมล็ดพันธุ์เวทมนตร์จากโลกแม่มดที่ทำให้ตัวเองมีพลังวิเศษเป็นเวลา1คืน โดยเธอเดินทางไปยังโลกเวทมนตร์และได้เผชิญแผนการลับบางอย่างโดยบังเอิญ เมื่อเหล่าสัตว์เวทมนตร์ถูกกักขังโดยพลังความชั่วร้าย แมรี่ตัดสินใจที่จะใช้เวลา 1คืนของเธอหยุดยั้งมันไว้ให้ได้ โดยหนังได้รับเสียงชื่นชมว่ามีส่วนผสมของแฮรี่พอตเตอร์และจิตวิญญาณลายเส้นของ Spirited Away  ภาพยนตร์จะเข้าฉายในญี่ปุ่นช่วงซัมเมอร์2017 ล่าสุดแมรี่เปิดตัวในญี่ปุ่นและทำรายได้เปิดตัวชนะสถิติที่เรื่อง When Marnie Was There  เคยทำไว้ จนทำให้155 ประเทศทั่วโลกรวมซื้อสิทธิแอนิเมชั่นเรื่องนี้ไปฉาย โดยจะเข้าฉายในไทยพร้อมกัน 21 กันยายนนี้ และก่อนหน้าที่จะไปพบกับ Marry and the witch’s Flower วันนี้จะมาขอย้อนรอยทุกท่านไปพบกับอนิเมชั่น 5 เรื่องจากสตูดิโอจิบลิ ที่ห้ามพลาด


1. My Neighbor Totoro



        อนิเมชั่นคลาสสิกสุดที่เปรียบเสมือสัญลักษณ์ของสตูดิโลจิบลิไปแล้ว อนิเมชั่นลำดับที่ 3 โดยฮายาโอะ มิยาซากิ เรื่องราวของ  ซาสึกิ และ เม เด็กหญิงสองพี่น้องที่ได้พึ่งย้ายมาอยู่บ้านหลังเก่าในพื้นที่ชนบทห่างไกลพร้อมกับพ่อของพวกเธอ เพื่อมาดูแลแม่ที่รักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลไม่ไกลกันนัก โดยในการมาของพวกเธอครั้งนี้ ทำให้ได้พบเรื่องราวแปลกๆ หลายอย่างตามคำบอกเล่าของคุณยายใจดีข้างบ้าน ที่รับหน้าที่ดูแลบ้านของพวกเธอระหว่างที่ไม่อยู่ ด้วยความอยากรู้และความซุกซนในการที่จะสำรวจบ้านใหม่ของเม ทำให้เธอได้พบกับภูตปล่อยฝุ่น รวมไปถึงบรรดาเพื่อนตัวน้อยสีขาวโปร่งใส ซึ่งนำเธอเข้าสู่ป่าจนได้พบกับ "โตโตโร่" สิ่งมีชีวิตขี้เซา ตัวอ้วนกลม ขนปุกปุยสีเทา ที่มาทำให้เธอและพี่สาวได้พบกับเรื่องราวมหัศจรรย์สนุกๆ มากมายในโลกแห่งผืนป่าและธรรมชาติ

 

2. Princess Mononoke



              ภาพยนตร์การ์ตูนลำดับที่ 11 จากสตูดิโอจิบลิ เรื่องเกี่ยวกับ อาชิทากะ เจ้าชายแห่งชนเผ่าเอมิชิกลุ่มสุดท้ายซึ่งรอดจากกวาดล้างเมื่อ 500 ปีก่อน วันหนึ่งมีหมูป่ายักษ์บุกมาอาละวาดใกล้หมู่บ้าน ถึงอาชิทากะปราบสำเร็จ แต่เขาก็ต้องคำสาปความอาฆาตของเทพหมูป่าสิงอยู่ในแขนข้างหนึ่งและจะค่อยๆ ลุกลามมากขึ้นจนตายในที่สุด แม่เฒ่าประจำหมู่บ้านได้แต่แนะนำให้อาชิทากะเดินทางมุ่งหน้าแสวงหาคำตอบยังทิศตะวันตก และตามธรรมเนียมของชนเผ่า เมื่อออกจากหมู่บ้านแล้วเขาจะไม่สามารถกลับมายังที่นี่ได้อีกอาชิทากะออกเดินทางผ่านชุมชนซึ่งกำลังรบราฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

 

3. Howl's Moving Castle



          ดัดแปลงมาจากเค้าโครงเรื่องของหนังสือชื่อเดียวกันของ ไดอาน่า ไวนน์ โจนส์ ที่งดงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการที่ผสมผสานไปกับเรื่องราวความรักท่ามกลางไฟสงคราม โดยได้ถูกเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมด้วย
เรื่องราวในยุคที่บ้านเมืองกำลังตกอยู่ภายใต้ไฟสงครามจากกองทัพ “โซฟี” หญิงสาววัย 18 ปี ซึ่งรับหน้าที่ในการสานต่อกิจการร้านหมวกจากพ่อ ได้รับการช่วยเหลือจากพ่อมดนามว่า “ฮาวล์” ระหว่างทางที่เธอไปหาน้องสาวและถูกทหารลวนลาม จนเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เธอต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างฮาวล์และแม่มดแห่งทุ่งร้าง เมื่อคืนหนึ่งแม่มดร้างปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับสาปให้โซฟีกลายเป็นหญิงชราวัย 90 ปี ส่งผลให้โซฟีต้องหลบหนีออกจากบ้านของตัวเองและเดินทางเพื่อหาทางแก้คำสาป โดยระหว่างทางเธอได้ช่วยเหลือหุ่นไล่กาปริศนาตัวหนึ่ง ซึ่งได้ตอบแทนเธอโดยการนำเธอเข้าไปพักในปราสาทฮาวล์ ซึ่งภายในปราสาทเคลื่อนที่ได้นี้ เธอก็ได้พบกับ “มาร์เคิล” เด็กชายผู้ช่วยของฮาวล์และ “แคลซิเฟอร์” ปีศาจไฟผู้ทำสัญญาบางอย่างกับฮาวล์ และเป็นพลังในการขับเคลื่อนปราสาทแห่งนี้ให้มีชีวิต

 

4. Grave of the Fireflies



 


          ภาพยนตร์การ์ตูนอนิเมชันลำดับที่ 2 จากสตูดิโอจิบลิที่เรียกน้ำตามาจากทุกคนทั่วโลกแล้วตั้งแต่ปี 1988 ดัดแปลงมาจากหนังสืออัตชีวประวัติของ อะคิยูกิ โนซากะ ผู้สูญเสียน้องสาว ด้วยสาเหตุจากการขาดอาหารระหว่างสงคราม โดยเป็นการเปรียบเทียบถึงชีวิตของเด็กที่ประสบภัยสงครามเหมือนเช่นหิ่งห้อยที่รอวันดับแสงลง ผลงงานการกำกับโดย อิซะโอะ ทะคะฮะตะ นำเสนอความโหดร้ายและหดหู่ของสงคราม

           เรื่องราวชีวิตของสองพี่น้อ งเซตะ โยโกกาวา เด็กหนุ่มวัย 14 ปี ลูกชายคนโตของนายพลทหารเรือ และน้องสาว เซซึโกะ อายุ 4 ขวบ ในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งสองจำต้องเดินทางลี้ภัยสงครามออกนอกเมือง แต่เพราะเกิดการทิ้งระเบิดในเมืองระหว่างทาง จึงทำให้แม่ของทั้งสองและเสียชีวิต สองพี่น้องต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า และทั้งสองต้องร่อนเร่พเนจรไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางความโหดร้ายของสงคราม

 

5. Spirited Away



            ผลงานที่ถือว่าปังที่สุดของจิบลิ ทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 200 ล้านเหรียฐสหรัฐ เป็นที่ชื่นชอบของคนดูและนักวิจารณ์ทั่วโลก และคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมไปครอง ผลงานกำกับโดยปู่มิยาซากิ

            เรื่องราวของ "จิฮิโระ" เด็กหญิงวัย 10 ปี นิสัยขี้งอแงและดื้อรั้น กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางย้ายมาบ้านใหม่กับพ่อแม่ แต่กลับหลงเข้าไปในอีกมิติหนึ่งโดยบังเอิญ ทำให้พ่อแม่ของเธอถูกสาปเป็นหมู และเธอติดอยู่ในมิติที่เต็มไปด้วยภูตผีและตัวประหลาด เธอได้รับการช่วยเหลือจาก "ฮากุ" เด็กชายปริศนาที่ทำให้เธอได้เข้าไปหลบซ่อนภายในโรงอาบน้ำของ "ยูบาบา" แม่มดเจ้าของโรงอาบน้ำ จิฮิโระ ต้องทำงานเพื่อแลกกับการมีชีวิตรอด โดยต้องแลกเปลี่ยนกับชื่อของเธอ  และทำให้เธอได้พบกับเหล่าภูตผีตัวประหลาดต่างๆ มากมาย จิฮิโระ ต้องพยายามเอาชีวิตรอดในขณะเดียวกันก็หาหนทางตามหาและช่วยเหลือพ่อแม่ของเธอไปด้วย