"เพนนีไวซ์" หนึ่งในนามที่ใช้เรียกปีศาจในร่างตัวตลกจากหนัง "IT" เพนนีไวซ์ เป็นหนึ่งในอสุรกายจากจินตนาการของสตีเฟน คิง ที่น่ากลัวที่สุด เพนนีไวซ์ เคยหลอนผู้คนทั่วโลกมาแล้วเมื่อครั้งออกมาเป็นนิยายในปี 1986 แล้ว "IT"ก็ไม่ถูกปล่อยไว้ให้เป็นเพียงความสยองในจินตนาการ ในปี 1990 มันถูกดัดแปลงเป็นมินิซีรีส์ หลังออกฉายก็ได้รับการกล่าวขวัญถึงความน่ากลัวตลอดมา ทิ้งช่วงห่างมาถึง 27 ปี วันนี้ "เพนนีไวซ์" กลับมาหลอนผู้คนทั่วคนอีกครั้งในรูปโฉมที่น่าสยดสยองกว่าเดิมและโหดกว่าเดิม หนังได้รับกระแสตอบรับอย่างดีมากจากรอบสื่อทั้งที่ฮอลลีวู้ดและในบ้านเรา ทั้งความน่ากลัวของหนังและการสวมบทบาท "เพนนีไวซ์" ได้อย่างไร้ที่ติของ บิล สการ์สการ์ด หนังเข้าฉายแล้ววันนี้รอทุกคนไปพิสูจน์ความยอดเยี่ยม แต่ก่อนที่จะชมนั้น เรามาทำความรู้จักเพนนีไวซ์ให้มากขึ้น เพื่ออรรถรสในการชมได้สยองมากขึ้น

- จุดกำเนิดของเพนนีไวซ์ นั้นเป็นที่คลุมเครือ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ชัดคือเพนนีไวซ์มาจากนอกโลก และไม่ได้มาจากระบบสุริยะเดียวกับโลกด้วย บางทฤษฎีบอกว่ามันถือกำเนิดมาก่อนสุริยะจักรวาลนี้ด้วยซ้ำ, เพนนีไวซ์ตกลงมาบนโลกเราเมื่อประมาณ 1 ล้านปีก่อน ร่วงลงมาเหมือนกับอุกาบาตลูกหนึ่ง แต่จำศีลมาตลอด จนกระทั่งปี 1715 เพนนีไวซ์ ก็เริ่มออกมารังควาญชาวเมืองเดอร์รี่ และจะวนเวียนออกมาทุก ๆ 27 ปี , ชื่อ "เพนนีไวซ์" และร่างตัวตลกนี้ เป็นเพียงร่างหนึ่งของ "มัน" เท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าภาพลักษณ์ที่แท้จริงของ "มัน" เป็นอย่างไร ทำให้ "มัน" มีหลายฉายา "โรเบิร์ต บ็อบ เกรย์" "ไอ้ตัวเขมือบโลก"

- เพนนีไวซ์ ไปปรากฏตัวหรือถูกอ้างถึงในนิยายอีกหลายเรื่องของสตีเฟน คิง ใน The Tommyknockers นิยายที่ออกตามหลัง IT 1 ปี ตัวละครในเรื่องต้องเดินทางผ่านเมืองเดอร์รี่ท่ามกลางพายุ เขามองเห็นตัวตลกยืนตากฝนอยู่ข้างทาง เป็นหลักฐานยืนยันว่า เพนนีไวซ์ ไม่ได้ถูกแก๊ง Loser Club กำจัด , ใน Dreamcatcher ตัวละครชื่อ เกรย์ ก็มองเห็นตัวหนังสือพ่นสีบนกำแพงว่า "เพนนีไวซ์ยังอยู่" และยังถูกพูดถึงในอีกหลายเรื่องเช่น Gray Matter, 11/22/63, และ Insomnia

- แฟนๆ ของวิเคราะห์ต่างเชื่อกันว่า สตีเฟน คิง จะต้องได้แรงบันดาลใจในการสร้างตัว "เพนนีไวซ์" มาจากฆาตกรต่อเนื่อง "จอห์น เวย์น เกซี", จอห์น เป็นชายหนุ่มอารมณ์ดี มีน้ำใจ เขามีอาชีพรับเหมาก่อสร้างอยู่ในชิคาโก ทุกคนจะรู้จักจอห์นในภาพของ ตัวตลกโพโก้ เพราะทุกงานเทศกาลรื่นเริงในเมือง จอห์น จะแต่งชุดเป็นโพโก้ไปสร้างความรื่นเริงในงานเสมอ จอห์นแต่งงานและมีลูกเฉกเช่นชายทั่วไป แต่เบื้องหลังจอห์นกลับมีเพศสัมพันธ์กับเด็กผู้ชาย ปี 1972 เขาบังเอิญฆ่าเด็กชายด้วยความเข้าใจผิด เป็นการจุดชนวนให้จอห์นรู้สึกมีความสุขกับการฆ่า ทำให้เขาเริ่มการฆ่าเด็กชายต่อเนื่องอีก 30 กว่าราย ความมาแตกเมื่อพ่อแม่ของเหยื่อรายหนึ่งสืบสาวเรื่องราวว่าต้องเป็นจอห์นที่ฆ่าลูกชายเขา ทำให้ตำรวจค้นบ้านและเจอศพจำนวนมากถูกทิ้งในบ่อบำบัดน้ำเสียในห้องใต้ดิน จอห์นถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาในปี 1994
คดีของจอห์นสร้างภาพลักษณ์อันน่ากลัวให้กับตัวตลกตั้งแต่นั้นมา ผู้คนเริ่มแต่งตัวเป็นตัวตลกนักฆ่า แต่กรณีนี้ก็ถูกสตีเฟน คิง ปฏิเสธ เขาบอกว่าแรงบันดาลใจของเพนนีไวซ์ คือ "คลาราเบล" ตุ๊กตาของนักแสดงเลียนเสียง ผสมกับ โรนัล แมคโดนัลด์ ต่างหาก

- หนึ่งในมนุษย์ที่เลียนแบบ "เพนนีไวซ์" ได้โด่งดังที่สุดคือ "ตัวตลกแห่งนอร์ธแฮมป์ตัน" เมื่อปี 2013 มีคนพบเห็นตัวตลกเหมือนเพนนีไวซ์ยืนแอบตามมุมมืดกลางดึกบนถนนนอร์ธแฮมป์ตันในอังกฤษ บางครั้งตัวตลกนี้ก็ไปเคาะประตูบ้านแล้วอาสาจะทาสีวงกบประตูหน้าต่างให้แต่ไม่มีใครเห็นกระป๋องหรือแปรงทาสีของเขา ความน่ากลัวของเขาเริ่มแพร่กระจายไปบนโลกโซเชี่ยล กลายเป็นข่าวลือที่น่ากลัว มีการติดแฮชแท็ก #northhamptonclown กัน จนเจ้าตัวออกมาเปิดเฟซบุ๊กเพจเพื่อสยบบรรดาข่าวลือว่า "เขาไม่ได้มีมีดเสียหน่อย นั่นมันข่าวลือที่คนโง่ๆ ส่งต่อกันไป" แต่สุดท้ายเขาก็ยังไม่แฝงความน่ากลัวด้วยการตอบทุกคอมเมนต์บนเพจว่า "ความเกลียดชังมันมากเกินไปจนความรักไม่เพียงพอ" แต่ก็ไม่มีข่าวว่าตัวตลกนอร์ธแฮมป์ตันไปทำร้ายใคร ในปี 2014 ก็มีตัวตลกบนถนนเพิ่มขึ้นในเมือง เบเกอร์ฟิลด์ และ วาสโก ในแคลิฟอร์เนีย แต่รอบนี้ตัวตลกลากมีดยาวมาตามพื้นแล้วเดินตามผู้คนยามค่ำคืนด้วย แต่พอตำรวจมาจับก็เผยว่าเป็นโครงการหนึ่งในการทำงานศิลปะ

- It เป็นนิยายสยองขวัญที่ยาวที่สุดในโลก ที่ความหนา 1,138 หน้า เหตุเพราะ สตีเฟน คิง อยากจะบรรยายความน่ากลัวจากทุกตัวประหลาดของเขาลงมาในเรื่องเดียว คิง เคยบอกว่าถ้าเขาเป็นคนเขียนบทหนัง "It" เอง มันจะเป็นซีรีส์ที่ยาวถึง 32 ชั่วโมง ดังกับว่าจินตนาการเกี่ยวกับตัวประหลาดถูกปลดปล่อยออกมาหมดแล้ว เพนนีไวซ์ จึงเป็นอสุรกายตัวสุดท้ายที่คิงสร้างออกมา จะกล่าวว่าคิงมาถึงทางตันกับการสร้างสรรค์อสุรกายต่อไปแล้วก็ได้

- ของโปรดของเพนนีไวซ์คือ "เนื้อเด็กยามหวาดกลัว"
"พวกเธอรสชาติอร่อยขึ้นมากเลยรู้มั้ย เวลาที่พวกเธอกำลังหวาดกลัว" เพนนีไวซ์ กล่าวไว้กับเหล่า Loser Club นั่นคือสาเหตุที่ว่าทำไมเหยื่อของเพนนีไวซ์ จึงมักจะเป็นเด็กเล็ก เพราะเด็กเล็กขวัญอ่อน หลอกง่าย นั่นเอง

- เพนนีไวซ์ ยังมีพละอำนาจมากมายไม่จำกัด เพนนีไวซ์ สามารถแปลงร่างเป็นตัวอะไรก็ได้แล้วแต่ใจมันต้องการ ไม่เพียงแค่ภาพลักษณ์ตัวตลกที่เราคุ้นกันเท่านั้น , สร้างภาพลวงตาก็ได้ มันสามารถทำให้ภาพถ่ายกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวก็ยังได้ บางครั้งก็สามารถทำให้ร่างกายบางส่วนของมันเองโปร่งใส หรือล่องหนบางส่วนนั่นเอง , นอกจากนั้นมันยังอ่านจิตใจของเหยื่อทุกคนที่เข้ามาใกล้มัน และยังสะกดจิตหรือล้างสมองก็ยังได้ด้วย , เพนนีไวซ์ย้ายร่างตัวเองให้ไปปรากฏทีไหนก็ได้ และเมื่อใดที่เพนนีไวซ์สัมผัสเหล่าพืชพรรณ ต้นไม้ใบไม้ก็จะเหี่ยวเฉาทันที ที่เวอร์มากคือเพนนีไวซ์ควบคุมสภาพอากาศได้ เมื่อใดที่มันอยากจะประกาศศักดามันก็จะโชว์พาวด้วยการเรียกพายุ , ยังไม่พอ เพนนีไวซ์ ยังมีพลังจิตในการเคลื่อนย้ายสิ่งของโดยไม่ต้องสัมผัส และยังสร้างแสงเทียมได้อีกด้วย นี่ไม่ใช่ปีศาจธรรมดาล่ะ

- ในเวอร์ชั่นซีรีส์และหนัง เราจะเห็นเพนนีไวซ์ในร่างของตัวตลกและแมงมุม แต่ในนิยายนั้น เพนนีไวซ์แปลงร่างเป็นตัวอะไรอีกมากมายเช่น อีกายักษ์, เทอร์โรซอร์ (นกไดโนเสาร์), มนุษย์หมาป่า, แดรกคูล่า, มัมมี่, แฟรงเคนสไตน์ (ครบมั้ยเนี่ย), ฝูงปิรันญ่า, ปลาฉลาม, หมาโดเบอร์แมน, แม่มด, ซากซอมบี้

- เพนนีไวซ์ มีศัตรูคู่อาฆาตตลอดกาลคือ "เต่า" เป็นจินตนาการที่สุดฝันเฟื่องของสตีเฟน คิง จริง ๆ ,"เต่า" และ "เพนนีไวซ์" ถูกสร้างโดย "The Other" ผู้มีพลังอำนาจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และ "The Other"ก็ยังเป็นผู้สร้างสุริยะจักรวาลต่าง ๆ รวมถึงสุริยะจักรวาลของเราด้วย "เต่า"ยังถูกพูดถึงในนิยาย "The Dark Tower" ในนามของ "เมตูริน" ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์แห่งแสง "เต่า" และ "เพนนีไวซ์" ต่างมีจุดประสงค์ในการทำลายล้างเผ่าพันธุ์ของแต่ละฝ่าย ทั้งคู่จึงเป็นศัตรูกันไปตลอดกาล