จีนเน็ตต์ วอลล์ส ทำงานเป็นคอลัมนิสต์ในนิวยอร์กอยู่หลายปีก่อนที่เธอจะเผยชีวิตในอดีตให้คนอื่นรู้ จีนเน็ตต์ วอลล์สได้บทเรียนตอนที่เธอโตมามากกว่าคนทั่วไปหลายเท่านัก

           พ่อแม่ของเธอ เร็กซ์ และ โรส แมรี่ วอลล์ส เป็นคู่รักที่ชอบความอิสระ พวกเขาไม่เชื่อในระบบการศึกษาปกติและไม่ต้องการให้ลูกๆ เข้าเรียนในโรงเรียนแม้ว่าเด็กๆ อาจจะต้องทนร่อนเร่ไปกับพวกเขาก็ตาม วัยแบเบาะของ วอลล์ส ใช้ชีวิตอยู่บนถนนส่วนใหญ่ ตระเวนไปทั่วตั้งแต่ทะเลทรายในตะวันตกเฉียงใต้ไปจนถึงที่ตั้งแคมป์แถบภูเขาโดยไม่เคยเรียกที่ไหนว่าบ้านได้เลย ทั้งครอบครัวติดตามพ่อของขอบตนไป พ่อที่ทั้งฉลาดหลักแหลม เขาเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง สอนลูกๆ ให้รู้จักใช้จินตนาการ เขาสอนวิทยาศาสตร์ให้ลูกๆ ให้พวกเขาเห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่อยู่รอบตัว และที่สำคัญที่สุดคือเขากระตุ้นให้ทุกคนใช้ชีวิตเต็มที่อย่างไร้ความกลัว ทางด้านแม่ โรส แม่รี่ จิตรกรฮิปปี้ที่จำกัดความเป็นตัวเองไว้ว่า “พวกเสพย์ติดความตื่นเต้น” เธอเป็นคนน่าสนใจไม่แพ้สามีของเธอเพียงแค้เธอไม่อยากดูแลครอบครัวซักเท่าไหร่

               พ่อแม่ของจีนเน็ตต์เชื่อในการสร้างชีวิตของพวกเขาเองแม้ว่านั่นหมายถึงต้องการเป็นคนเร่ร่อนก็ตาม เมื่อเงินร่อยหรอและความหวานของทั้งสองเริ่มจืดจาง ทั้งครอบครัวย้ายไปอยู่ที่เมืองขึ้นชื่อด้านการขุดแร่ที่เวอร์จิเนีย พวกเขาเช่าบ้านโกโรโกโสหลังหนึ่งที่ เร็กซ์ เตรียมจะเปลี่ยนมันให้เป็น “ปราสาทแก้ว” บ้านสุดหรูที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ล้ำยุคที่ เร็กซ์ สัญญากับทุกคนว่าจะสร้างให้ เมื่อปัญหาครอบครัวทวีความรุนแรง จีนเน็ตต์ และพี่น้องต้องหัดดูแลตัวเอง ช่วยเหลือกันและกันเพื่อความอยู่รอด วางแผนเพื่อซักวันหนึ่งพวกเขาจะได้ออกจากบ้านหลังนี้

               แต่เมื่อถึงคิวของ จีนเน็ตต์ ที่ต้องไป ทิ้งความทรงจำเลวรายไว้ข้างหลังเพื่อเริ่มใหม่ในฐานะนักเขียนที่นิวยอร์ก เธอกลับตัดขาดจากครอบครัวตัวเองไม่ได้ ยิ่งเธอไขว่ขว้าชีวิตการงานและความรักของตัวเองเท่าไหร่เธอยิ่งตระหนักได้ว่าเธอได้อะไรมาจากครอบครัวของตัวเองมากขนาดไหนจากทุกสิ่งที่ร่วมฝันฝ่ากันมา
นั่นคือจุดที่ วอลล์ส เริ่มจรดน้ำหมึก เหตุการณ์ที่ จีนเน็ตต์ หวนคิดได้กลายมาเป็นประเด็นหลักของการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ความสำเร็จของนิยายนั้นชวนตื่นตะลึงมาก ได้ทั้งรางวัลและยังทำยอดขายถึง 2.7 ล้านเล่ม ได้รับการแปลถึง 22 ภาษาทั่วโลก The Glass Castle 7 กันยายน นี้ ในโรงภาพยนตร์