10 อันดับหนังทำเงินสูงสุดของ ทอม ครุยส์
นักแสดงชายสัญชาติอเมริกันวัย 55 ปี ที่อยู่ในวงการฮอลลีวู้ดมาตั้งแต่ยุค 80s และยังได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย 30 กว่าปีในวงการ ครุยส์ มีผลงานแสดงมาแล้วถึง 43 เรื่อง มีหนังรอฉายอีก 3 เรื่อง รายได้หนังรวมทุกเรื่องของเขา กวาดเงินค่าตั๋วคนดูทั่วโลกไปแล้ว 6,302 ล้านเหรียญ ถ้าเฉลี่ยออกมาต่อเรื่องคือ 166 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นข้อยืนยันอย่างดีว่าพลังในความเป็นดาราแม่เหล็กดึงคนดูยังทำงานได้ดี
ตัวเลขรายได้หนังของเขาคือตรารับประกันว่าหนังที่มีชื่อ ทอม ครุยส์ แปะบนโปสเตอร์จะทำกำไรให้สตูดิโอได้แน่นอน ปี 2017 ค่าตัวของ ครุยส์ ถึงเขยิบขึ้นไปถึง 43 ล้านเหรียญต่อเรื่อง เรามาดูกันซิว่าหนัง 10 เรื่องที่ทำรายได้สูงสุดของเขามีเรื่องอะไรบ้าง แล้วรอดูว่า American Made หนังเรื่องใหม่ของครุยส์ ที่กลับไปร่วมงานกับผู้กำกับ ดัก ลิแมน จาก Edge of Tomorrow จะได้เข้าลิสต์หนังทำเงินของทอม ครุยส์ หรือไม่
1. Mission: Impossible - Ghost Protocol (2011) รายได้ทั่วโลก 694.7 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 145 ล้านเหรียญ
ปฏิบัติการภาค 4 ของอีธาน ฮันต์ ที่เหมือนจับทางคนดูได้ถูกหลังจากลองผิดลองถูกมาแล้ว 3 ภาค ภาคนี้เลยยังคงจุดขายด้วยอุปกรณ์ไฮเทคมากมาย และฉากเสี่ยงตายที่ต้องมีทุกเรื่อง รอบนี้ทอม ครุยส์ก็โชว์ฉากปีนตึกกระจกเบิร์จ คาลิฟา ในดูไบ ตึกสูงที่สุดในโลก 828 เมตร 163 ชั้น และถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มาถูกทางกับการเพิ่มไซมอน เพ็กก์ เข้ามาเป็นสมาชิกหน้าใหม่ในทีม เพ็กก์ทำหน้าที่เป็นตัวชงมุกที่ช่วยเพิ่มสีสันให้หนังได้เป็นอย่างดี ภาคนี้ยังได้ และเจเรมี เรนเนอร์ ที่เพิ่งดังจาก The Hurt Locker มาเสริมทัพฝ่ายบู๊เป็นบันไดขั้นสำคัญที่ส่งให้เขาได้ไปร่วมทีม Avengers ก็ต้องชื่นชมวิสัยทัศน์ของทอม ครุยส์เอง ที่กล้าเลือกเอา แบรด เบิร์ด ผู้กำกับหนังอนิเมชั่น Ratatouille และ The Incredicles มารับหน้าที่ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยกำกับหนังคนแสดงมาก่อนเลย ผลก็เลยเป็นภาคที่คนดูมันส์ไปกับฉากเสี่ยงตายหลายๆ ครั้งและยังเป็นภาคที่เรียกเสียงหัวเราะได้มากเช่นกัน สมควรแล้วกับการเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของครุยส์ และเป็นหนังในแฟรนไชส์ Mission Impossible ที่ทำเงินสูงสุดเช่นกัน
https://www.youtube.com/watch?v=-cloa9MnnII
2. Mission: Impossible - Rogue Nation (2015) รายได้ทั่วโลก 682.7 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 150 ล้านเหรียญ
ยังคงเป็นหนังในตระกูล Mission Impossible ถึงแม้จะมาเป็นอันดับ 2 แต่ตัวเลขก็ทิ้งห่างจาก Ghost Protocal ไปแค่ 12 ล้านเหรียญเท่านั้น ก็ต้องถือว่าการเดินตามสูตรสำเร็จของครุยส์ ยังได้ผล กับการเน้นฉากเสี่ยงตายผสมอารมณ์ขัน รอบนี้ครุยส์ โชว์ฉากเกาะเครื่องบินที่กำลังบินขึ้น และเอาฉากนี้มาเป็นจุดขายทั้งตัวอย่างหนังและโปสเตอร์หนัง และอีกฉากขายก็คือฉากซิ่งมอเตอร์ไซค์ เป็นฉากแอ็คชั่นยาว ๆ สุดมันส์ของภาคนี้ รอบนี้ครุยส์ใช้บริการของคริสโตเฟอร์ แม็คควารี มือเขียนบทจาก Jack Reacher (2012) ที่ผลงานดันไปถูกชะตาครุยส์ เลยได้งานต่อเนื่องเพียบ ได้มาเขียนบท Edge of Tomorrow (2014) แล้วก็ต่อเนื่องมาถึงเรื่องนี้ Mission: Impossible - Rogue Nation ที่แม็คควารี ได้เหมาหน้าที่ กำกับและเขียนบท ก็ถือว่าแม็คควารี สอบผ่านนะครับเพราะเขาเป็นผู้กำกับคนแรกในแฟรนไชส์หนัง Mission: Impossible ที่ได้กำกับ 2 ภาคต่อเนื่อง Mission: Impossible 6 ภาคต่อไปที่จะได้ดูกันปีหน้านี้ก็ยังเป็นผลงานกำกับคริสโตเฟอร์ แม็คควารี
https://www.youtube.com/watch?v=p9KqkCyEjaE
3.War of the Worlds (2005) รายได้ทั่วโลก 591.7 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 132 ล้านเหรียญ
หนังไซไฟเรื่องเดียวที่โผล่มาแทรกกลางกลุ่ม Mission: Impossible ผลงานของผู้กำกับสตีเวน สปิลเบิร์ก ดัดแปลงมาจากนิยายคลาสสิคปี 1898 ของเอช. จี เวลส์ เรื่องนี้ครุยส์ ได้ประกบกับ ดาโกตา แฟนนิ่ง ดาราเด็กมากพรสวรรค์ในยุคนั้น ดาโกตา รับบทเป็นลูกสาวของครุยส์ ที่ต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์มนุษย์ต่างดาวสามขาบุกโลกหนังมาในสูตรสำเร็จแบบนี้ปิดประตูเจ๊งแน่นอน มีทั้งชื่อ สตีเวน สปิลเบิร์ก, ทอม ครุยส์ และยังมากับพลอตเรื่องมนุษย์ต่างดาวสามขาบุกโลก เสียงวิจารณ์เชิงลบส่วนใหญ่คือรำคาญเสียงกรี๊ดๆ ของหนูน้อยดาโกต้าที่แสบแก้วหูมากแค่นั้น นอกจากหนังจะประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ ยังได้เข้าชิงออสการ์สาขา เทคนิคพิเศษอีกด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=S2fxN2JZ81A
4.Mission: Impossible II (2000) รายได้ทั่วโลก 546 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 125 ล้านเหรียญ
ภาค 2 ของแฟรนไชส์ Mission: Impossible ออกมาในช่วงที่จอห์น วู กำลังดังจากหนัง Face/Off (1997) ครุยส์ ก็มือไว คว้าจอห์น วู มากำกับภาค 2 เสียเลย วู เห็นว่าครุยส์คงจะชอบสไตล์แอ็คชั่นของเขาก็เลยใส่ฉากสโลว์และนกพิราบบินตามสไตล์เขาออกมาเพียบ เลยกลายเป็นหนังแอ็คชั่นฮอลลีวู้ดที่มีกลิ่นอายหนังฮ่องกงดูแตกต่างจากภาคแรกลิบลับ แม้รายได้จะอยู่ในอันดับต้นๆ ของหนังทอม แต่ก็เป็นภาคที่แย่ที่สุดในสายตานักวิจารณ์ภาคนี้ครุยส์ โชว์ฉากเสี่ยงตายในฉากเปิด ด้วยการปีนเขามือเปล่าโชว์ และเป็นอีกภาคที่ครุยส์โชว์ฉากเสี่ยงตายกับมอเตอร์ไซค์ซิ่งผาดโผนในไคลแมกซ์ท้ายเรื่อง เป็นภาคที่แทบไม่มีภาพจดจำจากหนังเอาเลย หลังจากเรื่องนี้ วู ก็มีงานกำกับหนังฮอลลีวู้ดอีก 2 เรื่อง แล้วก็กลับไปทำงานในฮ่องกง
https://www.youtube.com/watch?v=G0ugUBBycFY
5.Mission: Impossible (1996) รายได้ทั่วโลก 457.7 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 80 ล้านเหรียญ
ภาคปฐมบทของ Mission: Impossible ที่เรียกความสนใจจากคนดูได้มาก เพราะดัดแปลงมาจากทีวีซีรีส์ที่ฮิตมาก เคยสร้างออกมาถึง 2 รอบ รอบแรกลากยาว 7 ซีซันจากยุค 60s ถึง 70s และกลับมาอีกครั้งในปี 1988 พอมาเป็นหนังทุนสูงมี ครุยส์ มารับบทอีธาน ฮันต์ พระเอกของเรื่อง แล้วยังมีไบรอัน เดอพัลมา ผู้กำกับระดับตำนานมารับหน้าที่ด้วยรวมกันจึงเป็นหนังที่เรียกความสนใจได้ทั้งแฟนเก่าและแฟนใหม่
หนังก็ยังคงเคารพซีรีส์ต้นฉบับด้วยการใช้เพลงธีมที่ป็นเอกลักษณ์คุ้นหูเทปคำสั่งที่ระเบิดตัวเองใน 5 วินาที
และเทคนิคปลอมแปลงใบหน้าของฮันต์มาใช้ในเวอร์ชั่นหนังด้วยก่อนจะหายไปในภาคหลังๆ ฉากอีธาน ฮันต์
โรยตัวมาขโมยข้อมูลจากคอมพิวเตอร์กลายเป็นฉากคลาสสิคที่คนดูจดจำ
https://www.youtube.com/watch?v=ar0xLps7WSY
6.The Last Samurai (2003) รายได้ทั่วโลก 456.8 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 145 ล้านเหรียญ
รายได้น้อยกว่า Mission: Impossible (1996) ไม่ถึงล้านเลยนะ The Last Samurai เป็นการร่วมงานครั้งแรกของครุยส์ กับ เอ็ดเวิร์ด ซวิค อีก 1 ผู้กำกับรางวัลออสการ์ ก่อนจะมาร่วมงานกันอีกครั้งใน Jack Reacher: Never Go Back (2016) ความน่าสนใจของ The Last Samurai อยู่ที่ภาพหนังที่ใช้ในการโปรโมต ด้วยภาพ ครุยส์ ในชุดซามูไรขี่ม้าถือดาบนำทัพออกรบ ถือว่าเป็นภาพลักษณ์ของครุยส์ที่แปลกตาไม่เคยเห็นกันมาก่อน ครุยส์ รับบทเป็นนาธาน อัลเกร็น ทหารอเมริกันในปี 1870 ที่ไปรบในญี่ปุ่นแล้วก็โดนจับเป็นเชลย เขาถูกซึมซับด้วยวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ และกลายเป็นครูฝึกการรบสมัยใหม่ให้กับเหล่าซามูไร
https://www.youtube.com/watch?v=7yP9MmzyTIg
7.The Mummy (2017) รายได้ทั่วโลก 407.8 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 125 ล้านเหรียญ
รื่องล่าสุดของครุยส์เลย เป็นหนังที่เจ๊งในอเมริกา แต่ทอม ครุยส์ ก็แสดงให้เห็นว่าชื่อของเขายังศักดิ์สิทธิ์ในตลาดโลก เพราะหนังได้รายได้นอกอเมริกา 327 ล้านเหรียญมาแก้วิกฤตหนังไปได้ The Mummy เป็นโปรเจ็คท์ใหญ่ของสตูดิโอยูนิเวอร์แซลที่ฝากความหวัง ไว้มาก เพราะมันจะเป็นหัวหอกของจักรวาลผีฝรั่งที่จะมี มนุษย์หมาป่า มนุษย์ล่องหนแดรกคูล่า และ แฟรงเคนสไตน์ ตามออกมาอีกขโยง เพราะทางยูนิเวอร์แซลไม่มีซูเปอร์ฮีโร่มาสร้างจักรวาลตัวเองเหมือนมาร์เวลและวอร์เนอร์ ก็กะเอาดีทางบรรดาผีนี่แหละ แต่ว่ารายได้ในอเมริกาออกมาแค่ 80 ล้านแบบนี้ ก็ทำเอาใจแป้วไปเหมือนกัน หลายเสียงพูดตรงกันว่าหนังดูมั่วซั่วเกินไป และราชินีมัมมี่ไม่น่ากลัวเหมือนเวอร์ชั่นก่อนหน้าเลย แต่สรุปหนังก็ได้ไปต่อ เราก็รอดูเหล่าฝีฝรั่งมาเผชิญหน้ากันในเรื่องต่อ ๆ ไป หนังมีชื่อ อเล็กซ์ เคิร์ตซ์แมน ในหน้าที่ผู้กำกับ แต่พอหนังเจ๊งในอเมริกา ทุกนิ้วก็ชี้ไปที่ทอม ครุยส์ ว่าจุ้นจ้านเกินหน้าที่ผู้กำกับ หนังดีก็รับหน้าไป หนังเจ๊งก็ต้องรับไปด้วยแล้วกันนะ
https://www.youtube.com/watch?v=UJ_zLBr1NxE
8.Mission: Impossible III (2006) รายได้ทั่วโลก 397.9 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 150 ล้านเหรียญ
เป็นภาคที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุด และเป็นภาคที่ทำกำไรได้น้อยที่สุดเช่นกัน ภาคนี้เป็นผลงานกำกับหนังโรงเรื่องแรกของอภิมหาผู้กำกับ เจ.เจ. อบรามส์ หลังจากโด่งดังมาจากซีรีส์ Lost และ Alias ที่ว่าด้วยสายลับหญิง ครุยส์ ได้ดู Alias แล้วชื่นชอบมาก บอกว่า เจ.เจ. นี่แหละเข้าถึงหัวใจของหนังสายลับและเหมาะสุดแล้วจะมารับหน้าที่กำกับอีธาน ฮันต์ ในภาค 3 เสียงตอบรับทางลบไม่ได้ชี้ไปที่ตัว เจ.เจ. เท่าใดนักแต่เพราะไม่ค่อยถูกใจกับบทของภาคนี้ที่ใส่มาหมดทั้งเรื่องราวจารกรรม ความตึงเครียด และความรักของอีธาน ฮันต์
แต่ไปได้ไม่สุดสักทางภาคนี้มีฉากระเบิดสะพานเป็นฉากใหญ่ของเรื่องแต่ก็ไม่มีฉากเสี่ยงตายของครุยส์เอามาเป็นจุดขายเหมือนภาคอื่น ๆ หลังจากเรื่องนี้ เจ.เจ. ก็เจอทางที่เหมาะกับเขาด้วยการไปเอาดีทางหนังไซไฟทั้ง Star Trek และ Star Wars
https://www.youtube.com/watch?v=XCYSvjYJsG8
9.Edge of Tomorrow (2014) รายได้ทั่วโลก 370.5 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 178 ล้านเหรียญ
เป็นหนังที่ถูกจริตคนดูชาวไทยมาก หนังดัดแปลงมาจากนิยายภาพของญี่ปุ่น All You Need Is Kill เพียบพร้อมด้วยพลอตที่น่าสนใจ และการพลิกแพลงคาแรกเตอร์ของทั้งครุยส์ และเอมิลี่ บลันต์ ในภาพลักษณ์ที่แปลกตาจากที่เคยเห็น ครุยส์ มารับบทเป็นทหารอ่อนหัดที่ตื่นกลัวสงคราม เป็นพระเอกที่ไม่เก่งเอาเสียเลยผิดจากมาดแอ็คชั่นฮีโร่ที่ผ่านๆ มา เอมิลี่ บลันต์ ก็พลิกจากสาวบอบบางในมาดนางเอกมาเป็นสาวห้าวแบกปืนกระบอกโตไล่ยิงมนุษย์ต่างดาวที่ออกแบบมาได้น่าเกลียดน่ากลัว หนังอัดแน่นด้วยฉากแอ็คชั่นตื่นตาและมุกตลกที่ยิงมาได้ผล
ทำให้หนังไม่เครียดเกินไปมีเสียงหัวเราะคลอไปได้ตลอดเรื่อง หนังมีโครงการจะสร้างภาค 2 หลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นเปิดกล้องนะ , ผู้กำกับ ดัก ลิแมน ก็เลยมาร่วมงานกับ ครุยส์ อีกครั้งใน American Made ที่กำลังจะเข้าฉายนี่ล่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=eWH2w-LUVc0
10.Minority Report (2002) รายได้ทั่วโลก 358.4 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 102 ล้านเหรียญ
การร่วมงานอีกครั้งกับสุดยอดผู้กำกับ สตีเวน สปิลเบิร์ก , ครุยส์ รับบทเป็นตำรวจอนาคตปี 2054 เทคโนโลยีในยุคนั้นมองเห็นอนาคตและตำรวจสามารถไประงับเหตุล่วงหน้าไม่ให้เกิดได้ ครุยส์เป็น แอนเดอร์ตัน หัวหน้าหน่วยที่วันดีคืนดีระบบดันวิเคราะห์ว่าแอนเดอร์ตันจะก่อคดีอาชญากรรมซะเองในอีก 36 ชั่วโมง ซึ่งเหยื่อนั้นเขาเองก็ไม่เคยรู้จักแอนเดอร์ตันจึงต้องหนีการจับกุมและหาคำตอบให้กับตัวเองเป็นหนังแอ็คชั่นที่มาพร้อมกับปริศนา และเต็มไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทคมากมายฉากจดจำจากเรื่องนี้คือแผงมอนิเตอร์ที่มองเห็นอนาคตควบคุมด้วยมือเปล่าในอากาศดูแล้วน่าสนุกมากและหุ่นยนต์แมงมุมสอดแนม ทั้งหมดรวมกันส่งผลให้หนังทำกำไรไปพอให้ติดอยู่ในอันดับสุดท้ายหนังทำเงินของทอม ครุยส์