5 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนไปดูภาพยนตร์ตลกร้ายเสียดสีสงคราม Jojo Rabbit
Jojo Rabbit ภาพยนตร์ตลกร้ายเสียดสีสงคราม ดีกรีรางวัลสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)เวทีออสการ์ 2020 โดยเรื่องราวช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศเยอรมนี นำโดยเด็กชายชื่อ โยฮันเนส โจโจ้ เบตซเลอร์ (รับบทโดย โรมัน กริฟฟิน เดวิส) ที่เขาใช้ชีวิตอยู่กับแม่ (รับบทโดย สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน) เข้าร่วมแคมป์เยาวชนฮิตเลอร์ และยังมีเพื่อนในจินตนาการเป็นฮิตเลอร์ แต่กลับค้นพบว่า แม่ได้ซุกซ่อนเด็กผู้หญิงชาวยิวไว้ในบ้าน ซึ่งแน่นอนว่า แม่ของเขาเป็นพวกต่อต้านนาซี!
1. ไทกา ไวติติ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้มีเชื้อสายยิว เขาเกิดที่นิวซีแลนด์ พ่อเป็นศิลปินชาวเมารี แม่เป็นครู ส่วนคุณตาเป็นชาวยิวเชื้อสายรัสเซีย และคุณยายเป็นชาวไอริช หลังจากที่พ่อแม่หย่าร้างตอนเขาอายุได้ 5 ขวบ ไทกาเติบโตมากับแม่ และมักจะใช้นามสกุลแม่ในงานภาพยนตร์และการเขียน เราจะรู้จักเขาในชื่อ ไทกา โคเฮ็น ปัจจุบันเป็นนักแสดง นักตลก และผู้กำกับ ผลงานที่ผ่านมา อย่างเช่น Boy (2010), Hunt for the Wilderpeople (2016), Thor: Ragnarok (2017) และ Jojo Rabbit (2019) ที่เขาเขียนบท กำกับ และร่วมแสดงเป็น ‘ฮิตเลอร์’ ในเรื่องนี้เองด้วย
2. สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน รับบท โรซี่ แม่ของ โจโจ้ และทำให้เธอได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ปีนี้ ทุกครั้งที่สการ์เล็ตต์ปรากฏตัวในหนัง มันทำให้เห็นมิติทางการแสดงของเธอที่น่าสนใจ มันส่งพลังงานจากความต้องการปกป้องลูกชายจากโลกที่โหดร้าย แสดงให้ลูกเห็นว่า ชีวิตมีแง่มุมมากมาย มากกว่าความเกลียดชังและความโดดเดี่ยว
3. โจโจ้ ตัวละครหลักของเรื่อง เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด ไทกาลงมาแคสติ้งนักแสดงสำหรับบทนี้ด้วยตัวเอง เป็นไปได้สูงที่ว่า ไทกาจะล้มเลิกโปรเจกต์นี้ ถ้าเขาไม่สามารถหาคนที่เหมาะสมกับบทโจโจ้ได้ จนในที่สุดเขาก็ได้พบกับ โรมัน กริฟฟิน เดวิส นักแสดงเด็กวัย 12 ปี ผู้มารับบท โจโจ้ และเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา
4. แซม ร็อกเวลล์ มาร่วมงานกับภาพยนตร์เรื่องนี้ในบท กัปตัน เคลนเซนดอร์ฟ หัวหน้าค่ายเยาวชนฮิตเลอร์ ทหารผ่านศึกที่เสียดวงตาข้างหนึ่งจากสงคราม แซมทำการบ้านกับบทนี้หนักมาก เขาศึกษาภาพยนตร์เกี่ยวกับนาซีมากมาย รวมทั้งการแสดงของ เรล์ฟ ไฟนส์ ในภาพยนตร์ Schindler's List โดยเขายังนำเอาคาแรกเตอร์ของ บิล เมอร์เรย์ มาผสมผสานในบทบาท ให้กลายเป็นตัวละครทหารนาซีผู้พ่ายแพ้
5. อย่างหนึ่งที่โดดเด่นมากๆ คืองานโปรดักชัน และงานคอสตูมดีไซน์ที่สนับสนุนให้หนังสว่างไสวขึ้นมากๆ ไทกาและทีมงานได้ศึกษาเกี่ยวกับเยอรมนีในช่วงเวลานั้น และพบว่า เป็นยุคที่แฟชั่นมีเสน่ห์ แม้จะอยู่ในช่วงสงคราม สิ่งนี้ทำให้ Jojo Rabbit แตกต่างจากหนังสงครามที่มีฉากหลังเป็นเยอรมนี ซึ่งมักมีสีเทาทึมๆ เราจะได้เห็นสีสันและรายละเอียดที่สวยงามของบ้าน การแต่งตัวทั้งของทหารนาซีไปจนถึงแม่ของโจโจ้ ที่แสดงให้เห็นสีสัน ลวดลาย และแฟชั่น ที่กลายเป็นยุคคลาสสิกไปแล้ว
ส่วนงานโปรดักชันดีไซน์เป็นฝีมือของ รา วินเซนต์ เขาตีความจากคาแรกเตอร์ โรซี่ แม่ของ โจโจ้ ที่เป็นคนทันสมัย มีรสนิยม แล้วจึงออกตามหาบ้านในสาธารณรัฐเช็ก ที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ต้องการ ท้ายที่สุดเขาตัดสินใจสร้างบ้านโจโจ้ขึ้นเองในสตูดิโอ อิงตามยุค 1930 ที่ตรงกับสไตล์อาร์ตเดโค และข้อมูลที่รวบรวมได้จากบ้านจำนวนมากมายระหว่างหาสถานที่
Jojo Rabbit ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างภาพยนตร์