แฟนๆ หนังหลายคนอาจจะทึ่งกับการลดอายุของซามูเอล แอล.แจ็กสัน ใน Captain Marvel กันมาแล้ว จากตัวจริงของ ซามูเอล ที่วันนี้เขาอายุ 71 ปีแล้ว แต่เทคนิค CGI ก็สามารถพาเขาย้อนกลับไปเป็น นิค ฟิวรี่ ในวัย 46 ได้อย่างแนบเนียน แล้วเราจะได้พบเทคนิค CGI ย้อนวัยอีกครั้งในหนัง Gemini Man ที่จะพาเราไปพบภาพลักษณ์ของ วิล สมิธ นักแสดงวัย 51 ปี ที่จะมาปรากฏตัวบนจอในวัย 23 ปี แล้วจะเป็นเทคนิค CGI ย้อนวัยที่ยกระดับมาตรฐานขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

       ใน Gemini Man วิล สมิธ รับบทเป็น เฮนรี่ โบรแกน มือสังหารระดับพระกาฬ ที่โดนไล่ล่าโดย "จูเนียร์" ร่างโคลนของตัวเขาเองในวัย 23 ปี เพื่อสร้างภาพของ จูเนียร์ ขึ้นมาเป็นอีกตัวละครหลักในหนัง อัง ลี จึงต้องใช้บริการของบริษัทวิชวลเอฟเฟกต์ระดับโลก Weta Digital มารับผิดชอบกระบวนการนี้ทั้งหมด แล้วผลลัพธ์ที่ออกมานั้นก็น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก ทำให้หนัง Gemini Man เป็นอีกก้าวกระโดดของหนังฮอลลีวูด ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค เพราะนอกจากจะสร้างตัวละครหลักขึ้นจากกระบวนการ CGI แล้ว หนังก็ยังถ่ายทำด้วยระบบ High Frame Rate ที่ถ่ายทำด้วยความละเอียดสูง 120 ภาพ/วินาที สูงกว่ามาตรฐานปัจจุบันหลายเท่า หนังที่เราดูกันอยู่ ถ่ายทำและฉายด้วยความละเอียด 24ภาพ/วินาที

ใช้ วิล สมิธ ตัวจริงในการแสดงเพื่อบันทึกเป็นข้อมูลการแสดงพื้นฐาน ในการสร้างตัวตน "จูเนียร์"

วิล สมิธ เล่าถึง "จูเนียร์" บทบาทในวัย 23 ปี ของเขา

"มันไม่ใช่กระบวนการ "ลดอายุ" (De-Ageing) นะ ตัวละคร จูเนียร์ ในหนังนั่นไม่ใช่ตัวผมแสดงนะ เป็นตัวละครที่ถูกสร้างโดยระบบดิจิทัล 100% เลย พวกเขาไม่ได้ถ่ายภาพที่ผมแสดงแล้วเอาไปลบริ้วรอยหรอกนะ จูเนียร์ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จากศูนย์เลย เหมือนตัวละครสัตว์ต่างๆ ในหนัง The Lion king นั่นล่ะ แต่ก็ใช่ที่เขาเอาการแสดงของผมมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการสร้างจูเนียร์ขึ้นมา แต่ผิวหนังทั้งหมดก็เป็น CGI ไม่ใช่ผิวหนังของผม"

เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ ผู้อำนวยการสร้างชื่อดังของฮอลลีวูด รู้สึกภาคภูมิใจกับกระบวนการทั้งหมดนี้ มาขอเสริมว่า

"จากนี้ประสบการณ์การดูหนังในโรงจะเปลี่ยนไปเลยล่ะ แล้วเราก็คือผู้นำในกระบวนการนี้"

วิล สมิธ ในวัย 20 ปี ใน The Fresh Prince of Bel Air ทีวีซีรีส์ที่สร้างชื่อให้กับเขา

        ในการสร้างตัวตนของจูเนียร์ขึ้นมานั้น Weta ต้องหาหนังของ วิล สมิธ ในวัยหนุ่มมาเป็นต้นแบบในการวิเคราะห์สร้างภาพ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะมีผลงานการแสดงในอดีตของเขาเต็มไปหมด วิล สมิธ เข้าวงการตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น โดยเฉพาะเรื่องที่แจ้งเกิดของเขาคือทีวีซีรีส์ the Fresh Prince of Bel-Air ที่แพร่ภาพอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1990 - 1996 ซึ่ง วิล สมิธ เองก็ต้องมานั่งดูผลงานการแสดงเก่าๆ ของเขาด้วย

"ผมต้องมานั่งดูเรื่องน่าอายมากมายที่ผมเคยทำไว้ในวงการแสดง แต่อีกมุมหนึ่งมันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ที่ได้เห็นภาพลักษณ์ของตัวเองในวัยหนุ่มอีกครั้ง"

เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ ผู้อำนวยการสร้าง

        ถึงแม้ว่าจะมีหนังในอดีตของวิล สมิธ นำมาใช้เป็นวัตถุดิบได้มากมาย แต่อีกทางหนึ่งก็เหมือนเป็นดาบสองคม เพราะการที่ วิล สมิธ เริ่มเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ปี 1997 นั่นก็ทำให้แฟนๆ ของวิล สมิธ ทั่วโลก ต่างจดจำหน้าตาในวัยหนุ่มของเขาได้ดี นั่นก็กลายเป็นมาตรฐานข้อบังคับที่ Weta จะต้องจำลองภาพ จูเนียร์ ให้ได้ตรงตาม วิล ในวัยหนุ่มได้เป๊ะที่สุด เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ มาเล่าถึงความยุ่งยากตรงนี้ให้ฟัง

"ผมกำลังทำเรื่องให้มันยากขึ้นไปอีก เพราะพวกคุณหลายคนต่างก็จำหน้าตาของ วิล สมิธ ตอนที่เขายังอายุ 20 กันได้ดีอยู่"

        นอกเหนือจากการใช้ CGI สร้างภาพ วิล สมิธ , อัง ลี ยังเพิ่มความยากเข้าไปอีก เมื่อเขาต้องการให้ จูเนียร์ แสดงบทบาทท่าทางได้เหมือนกับ วิล สมิธ ในวัยหนุ่ม นั่นแปลว่าทีมงานต้องไม่สนใจทักษะการแสดงของ วิล ที่พัฒนาขึ้นมาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้ซะ และด้วยความจำเป็นที่ต้องใช้วิทยาการล้ำหน้าทางด้าน CGI นี่ล่ะ ทำให้โพรเจกต์ Gemini Man ถึงต้องค้างเติ่งรอคอยวันที่พร้อมจะสร้างมาอย่างยาวนาน เพื่อรอให้เทคโนโลยี CGI พัฒนามาถึงพร้อมในจุดนี้ และมันใช้เงินทุนสูงมากในการสร้างตัวตนของจูเนียร์ขึ้นมาในหนัง

"ค่าตัวของจูเนียร์นั้นแพงกว่าค่าตัวของ วิล สมิธ ถึง 2 เท่าเลยนะ ต้องใช้ทีมงานกว่า 100 คนในการสร้างจูเนียร์ขึ้นมา จูเนียร์พูดแค่ฉากเดียว ก็ต้องใช้เวลาทำฉากนี้กันเป็นปีเลย"

อัง ลี เล่าถึงเบื้องหลังการสร้างจูเนียร์

       ถึงตรงนี้เราเห็นกันแล้วว่า นี่คือก้าวกระโดดของวงการภาพยนตร์ เมื่อเราได้เห็นนักแสดงตัวจริง ได้ร่วมฉากกับนักแสดงที่สร้างขึ้นมาโดยกระบวนการ CGI ทำให้เกิดคำถามน่าคิดขึ้นมาว่า แล้วอนาคตเรายังจะต้องการจ้างนักแสดงค่าตัวแพงๆ กันอยู่อีกหรือ คนที่ตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดก็คือ วิล สมิธ เองนั่นแหละ

"มันจะไม่ถึงกับทำให้อาชีพนักแสดงตกยุคกันไปหมดหรอก เพราะอย่างไรต้นแบบในการสร้างนักแสดง CGI ขึ้นมา ก็ยังต้องมาจากจิตวิญญาณของมนุษย์ตัวเป็นๆ อยู่ดี และนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด ตัวตนมนุษย์คือแก่นแท้ที่จะขับเคลื่อนตัวแสดงดิจิทัล"

อัง ลี เคยสร้างความตื่นตะลึงให้ผู้ชมมาแล้ว กับภาพเสือโคร่งที่สมจริงมากใน Life of Pi

        จากนี้ไปในอนาคตอันใกล้ เราจะได้เห็นบทบาทของนักแสดงดิจิทัลมากขึ้นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มากเพียงใด แต่ก็ต้องจดจำว่า Gemini Man คือจุดเริ่มต้นของการใช้นักแสดงดิจิทัลอย่างจริงจังเป็นเรื่องแรก วันนี้นักแสดงดิจิทัลได้ปรากฏตัวในหนังแอ็กชันทุนสูง เรื่องต่อไปอาจจะเป็นหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ หรือหนัง ไซ-ไฟ ก็เป็นได้

"มันเจ๋งใช่มั้ยล่ะ ผมว่าอนาคตเราได้เห็นกันแน่ๆ"

วิล สมิธ เสริมในช่วงท้าย

      ส่วนอัง ลี ก็ต้องยกให้เขาเป็นผู้กำกับที่นำหน้าในเรื่องเทคโนโลยีทางด้านภาพคนหนึ่งของฮอลลีวูด เพราะก่อนหน้านี้ เขาก็ทำให้เราทึ่งกันมาแล้ว กับภาพเสือโคร่งที่สมจริงที่สุดใน Life Of  Pi ซึ่งความมานะพยายามที่ได้ผลลัพธ์อันสุดยอดนั้น ก็ส่งให้ Life Of  Pi คว้ารางวัลออสการ์สาขาเทคนิคภาพพิเศษยอดเยี่ยม แต่กระนั้น อัง ลี ก็ยังยืนยันว่าเขาให้ความสำคัญกับงานศิลป์มาก่อนเทคนิค CGI อยู่เสมอ

"ถึงแม้ผู้คนจะพูดถึงแต่เทคโนโลยีในหนัง แต่สุดท้ายมันก็มาจากความมานะพยายามทางด้านศิลปะอยู่ดี"

ไปร่วมเป็นประจักษ์พยานกับก้าวสำคัญของเทคนิคใหม่ในโลกภาพยนตร์พร้อมกัน ใน Gemini Man ไปดู วิล สมิธ แสดงร่วมกับนักแสดง CGI ที่จำลองตัวตนของเขาในวัยหนุ่มว่าสมจริงเพียงใด 14 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

 

ตัวอย่างภาพยนตร์