HIGHLIGHT

• เมื่อครั้งที่ Zombieland เข้าฉายทำให้ "ซอมเมดี้" กลายเป็นแนวภาพยนตร์ที่ตอนนี้โด่งดังซึ่งผสมผสานระหว่างความตลกและความสยองขวัญ และเล่าเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างซอมบี้และผู้รอดชีวิตที่เก่งกาจอย่างน่าขบขัน นำมาซึ่งยุคซอมบี้ใหม่
   
• "ส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ทำให้มันเป็นที่รักของคนมากมายเพราะมันมีความอบอุ่นหัวใจและมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวละครและความสัมพันธ์ของพวกเขามากพอๆ กับที่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการระเบิดหัวซอมบี้ครับ" เฟลชเชอร์ ผู้กำกับกล่าว
   
• "สำหรับ Zombieland พวกซอมบี้ แอ็กชัน ความสนุกสนาน นิสัยใจคอ การระเบิด เทคนิคการจุดไฟต่างๆ มันเป็นแค่เครื่องชูรสสำหรับเรา สิ่งที่เราแคร์จริงๆ คือเรื่องเกี่ยวกับคนสี่คนนี้ เราอยากจะเห็นประกายวูบวาบตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันและนั่นคือสิ่งที่ขับเคลื่อนเรื่องราวจริงๆ"  รีส คนเขียนบทกล่าว
   
• สำหรับตัวผู้กำกับ เขาได้กำกับภาพยนตร์หลายเรื่องหลังจากนั้น รวมถึง Venom และ Gangster Squad สิ่งจำเป็นคือทีมนักแสดงดั้งเดิมของ Zombieland จะต้องยอมกลับมาแสดงด้วย
   
• "ความรู้สึกของพวกเขา คือด้วยความที่ภาคแรกเป็นที่รักเหลือเกิน เราก็เลยไม่สามารถสร้างภาคสองได้เว้นแต่เราจะสามารถสร้างหนังที่ถ้าไม่ดีกว่าก็ต้องดีเท่ากับภาคแรกน่ะครับ" - รูเบน เฟลชเชอร์

         ไม่มีใครสามารถทำนายได้ถึงกระแสความคลั่งไคล้ที่จะเกิดขึ้นเมื่อ Zombieland ภาคแรกเข้าฉาย "ซอมเมดี้" กลายเป็นแนวภาพยนตร์ที่ตอนนี้โด่งดังซึ่งผสมผสานระหว่างความตลกและความสยองขวัญ และเล่าเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างซอมบี้และผู้รอดชีวิตที่เก่งกาจอย่างน่าขบขัน นำมาซึ่งยุคซอมบี้ใหม่ ด้วยตัวผู้กำกับ "รูเบน เฟลชเชอร์" และบทภาพยนตร์เด็ดๆ จากมือเขียนบท "เรทท์ รีส" ร่วมด้วย "พอล เวอร์นิค" และทีมนักแสดงมากพรสวรรค์ที่มีชีวิตชีวา ที่ประกอบไปด้วย วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน, เจสซี ไอเซนเบิร์ก, เอ็มมา สโตนและอบิเกล เบรสลิน  Zombieland ได้ประสบความสำเร็จด้านคำวิจารณ์และรายได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยรายได้กว่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญทั่วโลก

"ส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ทำให้มันเป็นที่รักของคนมากมายเพราะมันมีความอบอุ่นหัวใจและมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวละครและความสัมพันธ์ของพวกเขามากพอๆ กับที่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการระเบิดหัวซอมบี้ครับ" เฟลชเชอร์กล่าว "และบทหนังเรื่องนี้ก็ตลกสุดๆ และไม่เหมือนใคร ผมต้องยกย่องเรทท์และพอลที่เขียนบทที่น่าทึ่ง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางทั้งหมดนี้ แต่มันมีชีวิตขึ้นมาได้ด้วยทีมนักแสดงครับ"

    "สำหรับ Zombieland พวกซอมบี้ แอ็กชัน ความสนุกสนาน นิสัยใจคอ การระเบิด เทคนิคการจุดไฟต่างๆ มันเป็นแค่เครื่องชูรสสำหรับเรา" รีสกล่าวเห็นพ้องด้วย "สิ่งที่เราแคร์จริงๆ คือเรื่องเกี่ยวกับคนสี่คนนี้ เราอยากจะเห็นประกายวูบวาบตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันและนั่นคือสิ่งที่ขับเคลื่อนเรื่องราวจริงๆ และความรักที่คนมีต่อ Zombieland คุณก็แค่อยากจะคลุกคลีอยู่กับคนพวกนี้น่ะครับ"

แน่นอนว่าภาพยนตร์คัลท์คลาสสิกที่เป็นที่รักแบบนี้จะต้องมีแฟรนไชส์เป็นของตัวเองอยู่แล้วล่ะ แล้วทำไมกว่าแฟนๆ จะได้ดูซีเควลเรื่องนี้ต้องรอกว่า 10 ปีล่ะ

"ความท้าทายอยู่ที่การได้บทที่คู่ควรกับการสร้างภาคสองครับ" เฟลชเชอร์กล่าว

       สำหรับตัวผู้กำกับ เขาได้กำกับภาพยนตร์หลายเรื่องหลังจากนั้น รวมถึง Venom และ Gangster Squad สิ่งจำเป็นคือทีมนักแสดงดั้งเดิมของ Zombieland จะต้องยอมกลับมาแสดงด้วย ซึ่ง Zombieland เป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของเขาและความพยายามจะสร้างปาฏิหาริย์แบบนั้นเป็นครั้งที่สองก็คงจะเหมือนกับ เอ่อ เหมือนการคืนชีพให้คนตาย “ความรู้สึกของพวกเขาคือด้วยความที่ภาคแรกเป็นที่รักเหลือเกิน เราก็เลยไม่สามารถสร้างภาคสองได้เว้นแต่เราจะสามารถสร้างหนังที่ถ้าไม่ดีกว่าก็ต้องดีเท่ากับภาคแรกน่ะครับ"

รีสกับเวอร์นิคถูกถาโถมไปด้วยโปรเจ็กต์ต่างๆ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา (รวมถึงแฟรนไชส์ยอดนิยมอย่าง Deadpool ด้วย) และทีมนักแสดงและทีมงานก็รอคอยอย่างอดทนให้พวกเขาร่ายเวทมนตร์อีกครั้งหนึ่ง "อาจจะมีบทหนังซัก 10 บทตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แต่มันไม่เคยให้ความรู้สึกว่าคู่ควรกับการสร้างซีเควลเลย" ไอเซนเบิร์กกล่าว "ในที่สุด เราก็ได้บทหนังที่ยอดเยี่ยม เหมือนกับว่ามันจะเป็นหนังสแตนด์อโลนที่วิเศษสุดได้แม้ว่ามันจะไม่ถูกนำมาเชื่อมโยงกับภาคแรกก็ตาม"

เมื่อแก๊งซ่าส์ได้มารวมตัวกันอีกคร้ัง โดยที่ครั้งนี้พวกเขาต้องซ่าส์และบ้าให้สุด เพราะวิธีการเดิมๆ อาจปราบซอมบี้ไม่สำเร็จ แต่ที่สุดโต่งไปกว่าการล่าล้างซอมบี้เหมือนจะเป็น ความป่วน กวนโอ๊ย ในกลุ่มแก๊ง พวกเขากันเองนี่แหละ!!!   Zombieland: Double Tap 31 ตุลาคม ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์