ฟังชัดๆ เหตุผลที่ Harris Dickinson ไม่ได้กลับไปศึกษาบทเจ้าชายจาก Maleficent ภาคแรก
HIGHLIGHTS
- Maleficent ภาคแรกทำรายได้ทั่วโลกกว่า 758 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 23,498 ล้านบาท ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นนโปรเจคที่ประสบความสำเร็จของ Disney ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะหนังได้ลบภาพของนิทานเจ้าหญิงนิทราฉบับดั้งเดิมที่คุ้นเคย
- โปรเจคภาคที่ 2 ของ Maleficent จึงถูกเข็นออกมาเพื่อสานต่อความสำเร็จในชื่อ Maleficent: Mistress of Evil โดยมีนักแสดงนำกลับมารับบทบาทเดิมเป็นส่วนใหญ่ยกเว้นบทเจ้าชายที่ได้ Harris Dickinson มารับบทคนรักของเจ้าหญิง Aurora แทนที่ Brenton Thwaites ที่รับทเจ้าชายในภาคแรก
- ส่วนสาเหตุที่มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงในบทเจ้าชายนั้น เป็นเพราะ Thwaites ต้องไปเล่นบท Robin ในซีรี่ย์เรื่อง Titans ที่จะฉายในรูปแบบสตรีมมิ่งของ DC จึงกลับมาเล่นให้ไม่ได้ ทำให้ Dickinson ได้เสียบบทนี้แทน
- นักแสดงหนุ่มยอมรับว่าเขาไม่ได้กลับไปดู Maleficent ภาคแรกเลยซึ่งนักแสดงหนุ่ทได้เผยถึงการเตรียมตัวเพื่อรับบทเจ้าชายว่า "ผมไม่ได้กลับไปดูครับเพราะมีหลายอย่างในสคริปต์ที่ต้องทำความเข้าใจ ผมพยายามศึกษาสิ่งใหม่ๆ ให้มากที่สุด และผมไม่อยากได้รับผลกระทบจากสิ่งรอบข้างไม่เข่นนั้นมันอาจจะยุ่งยากเล็กน้อยหน่ะครับ"
จากความสำเร็จของ Maleficent ในภาคแรกที่ทำรายได้ทั่วโลกกว่า 758 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 23,498 ล้านบาท ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นนโปรเจคที่ประสบความสำเร็จของ Disney ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะหนังได้ลบภาพของนิทานเจ้าหญิงนิทราฉบับดั้งเดิมที่คุ้นเคยจากการที่ Maleficent ซึ่งรับบทโดย Angelina Jolie คอยช่วยให้เจ้าหญิงออโรร่า รอดชีวิตจากคำสาปของตัวเอง
แน่นอนว่าโปรเจคภาคที่ 2 ของ Maleficent จึงถูกเข็นออกมาเพื่อสานต่อความสำเร็จในชื่อ Maleficent: Mistress of Evil โดยมีนักแสดงนำกลับมารับบทบาทเดิมเป็นส่วนใหญ่ยกเว้นบทเจ้าชายที่ได้ Harris Dickinson ดาราหนุ่มจากซีรีย์เรื่อง Trust มารับบทคนรักของเจ้าหญิง Aurora แทนที่ Brenton Thwaites ที่รับทเจ้าชายในภาคแรก
ส่วนสาเหตุที่มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงในบทเจ้าชายนั้น เป็นเพราะ Thwaites ต้องไปเล่นบท Robin ในซีรี่ย์เรื่อง Titans ที่จะฉายในรูปแบบสตรีมมิ่งของ DC จึงกลับมาเล่นให้ไม่ได้ ทำให้ Dickinson ได้เสียบบทนี้แทน
อย่างไรก็ตาม ตามธรรมเนียมของคนที่รับบทบาทที่เคยมีคนแสดงมาก่อนแล้วการกลับไปศึกษาการแสดงจากนักแสดงต้นฉบับเป็นหนึ่งสิ่งที่ควรทำ แต่ไม่ใช่กับ Harris Dickinson
เขายอมรับว่าเขาไม่ได้กลับไปดู Maleficent ภาคแรกเลยซึ่งนักแสดงหนุ่ทได้เผยถึงการเตรียมตัวเพื่อรับบทเจ้าชายว่า
"ผมไม่ได้กลับไปดูครับเพราะมีหลายอย่างในสคริปต์ที่ต้องทำความเข้าใจ ผมพยายามศึกษาสิ่งใหม่ๆ ให้มากที่สุด และผมไม่อยากได้รับผลกระทบจากสิ่งรอบข้างไม่เข่นนั้นมันอาจจะยุ่งยากเล็กน้อยหน่ะครับ"
สำหรับ Maleficent: Mistress of Evil จะเป็นเรื่องราวที่สานต่อจาก Maleficent เมื่อปี 2014 เจ้าหญิง "ออโรร่า" ตื่นจากคำสาปนิทรา เธอได้ถูกขอแต่งงานจากเจ้าชายแต่กลับโดนห้ามจากนางฟ้าแม่ทูนหัวอย่าง "มาเลฟิเซนต์" นอกจากนั้น ในภาคนี้เราจะยังได้เห็นการเผชิญหน้าระหว่าง "มาเลฟิเซนต์" กับ "ราชินีอิงกริธ" (Michelle Pfeiffer) ที่มีความขัดแย้งกันเบาๆ และดูเหมือนว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์สัตว์วิเศษในดินแดนที่มาเลฟิเซนต์ดูแล
เช็ครอบฉายคลิกเลย >> https://bit.ly/30THSvg
ตัวอย่างภาพยนตร์