Rambo: Last Blood มีสิทธิ์ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดเหนือทุกภาคที่ผ่านมา
ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ในวัย 73 ปี ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะปลดเกษียณจากวงการไปพักผ่อนอยู่บ้าน ตลอด 50 ปีในวงการแสดงของเขา ซิลเวสเตอร์ สร้างตัวละครระดับตำนานที่คนทั่วโลกรู้จักดีถึง 2 ตัว รายแรกคือ "ร็อคกี้" เรื่องราวของ ร็อคกี้ บัลบัว นักมวยแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตที่ซิลเวสเตอร์ รับบทเป็น ร็อคกี้ เอง ตัวหนังประสบความสำเร็จถึงขนาดสานภาคต่อไปถึงภาค 6 และอีกหนึ่งตัวละครก็คือ "แรมโบ" ที่ซิลเวสเตอร์รับบทเป็น จอห์น แรมโบ อดีตทหารผ่านศึกสงครามเวียดนามฝีมือฉกรรจ์ ด้วยฝีมือที่หาตัวจับยากและถนัดลุยเดี่ยวทำให้ชะตากรรมของแรมโบต้องพาเขากลับไปร่วมศึกในหลายสงครามทั่วโลก หนังสานภาคต่อมาได้ถึงภาค 4 ในปี 2008
ปี 2015 ได้มีการสานภาคต่อตำนาน ร็อคกี้ บัลบัว ในชื่อเรื่องว่า "Creed" เป็นเหมือนกับแฟรนไชส์ภาคแยกจาก Rocky ที่วันนี้ร็อคกี้ บัลบัว ในวัยชราต้องกลับมาทำหน้าที่โค้ชให้กับ อโดนิส จอห์นสัน ครีด ลูกชายของ อพอลโล ครีด เพื่อนรักของเขาที่เสียชีวิตไปนานแล้ว Creed ได้รับการตอบรับอย่างดี ทำให้มี Creed II ออกมาในปี 2018 และก็ยังทำรายได้ไปอย่างงดงาม ด้วยความสำเร็จของ Creed ทำให้ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ต้องหันมามอง "Rambo" อีกหนึ่งตัวละครระดับตำนานของเขา ว่าน่าจะหยิบมาปัดฝุ่นแล้วประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกับ Creed ทำให้ จอห์น แรมโบ ต้องออกมาปฏิบัติการอีกครั้งใน Rambo: Last Blood ที่นับว่าเป็นภาค 5 ของแฟรนไชส์ชุดนี้ และเว้นช่วงจากภาค Rambo (2008) ภาคที่ 4 ของหนังถึง 11 ปี
พิจารณาจากกระแสบตอบรับของผู้ชม และยอดการจองตั๋วล่วงหน้าแล้ว ผู้เชี่ยวชาญฮอลลีวู้ดประมาณการว่า Rambo: Last Blood น่าจะทำรายได้ในสุดสัปดาห์แรกได้สูงถึง 21 - 24 ล้านเหรียญกันเลยทีเดียว ด้วยตัวเลขนี้จะทำให้ Rambo: Last Blood เป็นภาคที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในแฟรนไชส์ ถึงตอนนี้ภาคที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดคือ Rambo: First Blood Part II สร้างสถิติไว้ที่ 20.1 ล้านเหรียญ เมื่อปี 1985 รองลงมาคือ Rambo ภาคที่ 4 ของหนังเมื่อปี 2008 ก็ทำไว้ที่ 18.2 ล้านเหรียญ ก่อนจะลาโรงไปด้วยตัวเลขสูงถึง 113 ล้านเหรียญ ก็นับว่าเป็นหนังที่ทำกำไรให้ผู้สร้างได้ในระดับที่น่าพอใจ จึงไม่แปลกที่หนังจะกลับมาสานภาคต่อพร้อมกับความคาดหวังที่สูงขึ้นกับรายได้เปิดตัว
แต่ที่กล่าวมานั่นคือการคาดคะเน ที่มีโอกาสพลิกผันได้สูง เพราะ Rambo: Last Blood ยังต้องเจอคู่แข่งที่ประมาทไม่ได้อย่าง Ad Astra หนังไซไฟอวกาศที่ขายชื่อ แบรด พิตต์ และเปิดตัวในวันเดียวกัน หนังประมาณการรายได้เปิดตัวไว้ที่ 17 - 19 ล้านเหรียญ กับทุนสร้างที่ 87 ล้านเหรียญ ก็มีสิทธิ์ทำกำไรจากรายได้ทั่วโลกได้ไม่ยาก ยังไม่หมด ในวันเดียวกันนั้นยังต้องเจอคู่แข่งอีกรายสำคัญคือ Downton Abbey หนังที่สร้างจากซีรีส์สุดฮิต มีฐานแฟน ๆ ตามมาจากซีรีส์พอควร และได้กระแสยอดจองตั๋วล่วงหน้าอย่างแรง คาดการณ์รายได้เปิดตัวไว้ที่ 15 - 16 ล้านเหรียญ แล้วที่ประมาทไม่ได้เลยก็คือ IT : Chapter Two แม้วันที่ Rambo: Last Blood เข้าฉาย จะเป็นสัปดาห์ที่ 3 ของ IT : Chapter Two แล้วก็ตาม แต่ในฐานะที่เป็นหนังโปรแกรมใหญ่ ก็ยังสามารถดึงส่วนแบ่งคนดูไปได้มากอยู่
แม้เจอคู่แข่งรอบด้านขนาดนี้ ไลออนเกต สตูดิโอเจ้าของหนังก็ยังไม่หวั่น ไม่เปลี่ยนวันฉาย เพราะมั่นใจในหนังตัวเองว่าจะเป็นแชมป์ในวันเปิดตัว และกระแสตอบรับที่ดีหลังจากปล่อยตัวอย่างเรียกน้ำย่อยแฟนเก่าไป ด้วยฉากแอ็กชันดุเดือด และตอกย้ำความรุนแรงด้วยการพะเรต R ก็น่าจะดึงแฟนๆ รุ่นเก๋าของ จอห์น แรมโบ ให้กลับมาดูปฏิบัติการครั้งสุดท้ายของฮีโรเดนตายคนนี้ได้อีกครั้ง ในตัวอย่างเราจะได้เห็นจอห์น แรมโบ เปิดศึกกับเจ้าพ่อแก๊งค้ายา หลังจากเขาปลีกไปใช้ชีวิตสันโดษอย่างที่เขาโปรดปรานอีกครั้ง แต่ความสงบดูจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับเขาได้นานนัก เจ้าพ่อก็เลยต้องส่งกองทัพมาเปิดศึกกับทหารแก่ๆ ที่อยู่เฝ้าบ้าน โดยหารู้ไม่ว่านี่คือจอห์น แรมโบ ที่เชี่ยวชาญนักกับการทำกับดักตั้งรับการบุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขา ผู้ชมก็จะได้เห็นการสังหารเหล่าสมาชิกแก๊งมาเฟียแบบเลือดกระฉูดให้สมกับการได้เรต R
ไลออนเกต คาดหวังกับ Rambo: Last Blood ไว้สูง ว่าจะเป็นหนังแอ็กชันฟอร์มดุเรื่องที่ 3 ของปีนี้ที่จะทำรายได้มหาศาลให้กับสตูดิโอ ต่อเนื่องจาก John Wick: Chapter 3 - Parabellum และ Angel Has Fallen ที่ยังกวาดรายได้อย่างสนุกสนานอยู่ในขณะนี้ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา ไลออนเกต เจ็บหนักกับหนังที่คว่ำติดต่อกันถึง 2 ปีซ้อนเริ่มจาก Power Rangers ในปี 2017 และ Robin Hood ในปี 2018 ถ้า Rambo: Last Blood ทำรายได้ไปฉิวอีกเรื่อง ปีนี้ก็จะเป็นปีทองของ ไลออนเกต
ผู้กำกับเอเดรียน กรุนเบิร์ก (ซ้าย)
Rambo: Last Blood กำกับโดย เอเดรียน กรุนเบิร์ก ผู้กำกับที่เคยมีผลงานหนังแอ็กชัน ที่มีเมล กิ๊บสัน รับบทนำเรื่อง Get The Gringo เมื่อปี 2012 เขาจะกำกับจากบทภาพยนตร์ที่เขียนโดย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลนเอง ร่วมกับ แมทธิว ซิรูลนิก มือเขียนบทจากแวดวงทีวีซีรีส์ พ้นจาก Rambo: Last Blood แล้ว ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน จะเดินหน้าต่อกับ The Expendables 4 ที่เขาจะกลับมารับบท บาร์นีย์ รอสส์ ยังไม่กำหนดวันฉาย แล้วยังมี Tough as They Come หนังที่ซิลเวสต์ จะรับบทนำและกำกับเอง ดัดแปลงมาจากนิยายชีวประวัติของ แทรวิส มิลล์ ทหารผ่านศึกอเมริกันที่ต้องเสียทั้งแขนและขาไปในวันเกิดครบรอบ 25 ปีของเขา ยังไม่หมดแค่นี้ ยังมี Scarpa หนังชีวประวัติของ เกรกอรี สคาร์ปา เจ้าพ่อตัวจริงในตำนานมาเฟียโคลอมเบีย ซิลเวสเตอร์ จะรับบทเป็น เกรกอรี สคาร์ปา เอง ฮอตจริงจริ๊ง 73 แล้วนะลุงไม่คิดพักผ่อนบ้างเหรอ
แต่ตอนนี้เตรียมคอยพบกับความมันส์ โหด เลือด ของจอห์น แรมโบ ใน Rambo: Last Blood พร้อมกันทุกโรง 19 กันยายน นี้ ไม่แน่ว่าถ้าภาคนี้ได้ตังค์ เราอาจจะได้เห็น Rambo ภาค 6 ในวัยที่ซิลเวสเตอร์ ใกล้ๆ แตะ 80 ปี ก็เป็นได้
ตัวอย่างภาพยนตร์