รู้จักกับ Jangly Man ปีศาจที่ กีเยร์โม เดลโตโร ภูมิใจเสนอใน Scary Stories to tell in the dark

         หลังจากกำกับหนังสยองขวัญต่อเนื่องมาหลายเรื่อง Pan's Labyrinth , The Strain , Crimson Peak กีเยร์โม ก็ถึงคราวถอยมานั่งเบื้องหลังในตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างบ้าง แล้วส่งให้รุ่นน้อง อังเดร โอเวอร์ดาล มารับหน้าที่กำกับแทน โดยรอบนี้กีเย์โม เลือกหยิบนิยายสยองขวัญของ อัลวิน ชวาร์ต นักเขียนนิยายสยองขวัญสำหรับเด็กชื่อดัง

The Jangly Man หนึ่งในอสุรกายชวนสยองที่เราจะได้พบในหนัง

        ด้วยเหตุที่ว่าเนื้อหาในนิยายของ อัลวินจะเจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่เยาวชน เนื้อหาจะไม่โหดดุแบบสตีเฟน คิง ที่เจาะกลุ่มผู้ใหญ่ แต่ถ้าได้ดูตัวอย่างกันแล้วจะเห็นว่า Scary Stories to tell in the dark ไม่ได้เน้นเอาฮาหรือเอาใจผู้ชมรุ่นเล็กอย่าง Goosebumps เลยแม้แต่น้อย เพราะ กีเยร์โม ต้องการยกระดับความน่ากลัวจากนิยายต้นฉบับขึ้นมาอีกมาก แต่ยังคงบรรดาอสุรกายจากไอเดียของอัลวินไว้ ในเรื่องนี้เราจะได้เห็นอสรุกายหลากหลายและแปลกใหม่ซึ่งมีทั้ง ปีศาจกูลที่ออกตามหานิ้วเท้า , หญิงผิวซีด , แฮโรลด์ หุ่นไล่กานักฆ่า นั่นยังไม่หมดครับ เพราะในตัวอย่างล่าสุดก็ได้แนะนำปีศาจรายใหม่ที่ชื่อ "The jangly Man"

ปกนิยาย Scary Stories to Tell in the Dark

        The jangly man นี้เป็นปีศาจที่ทีมงานสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ ไม่ได้อยู่ในนิยายต้นฉบับของอัลวินแต่ดัดแปลงมาจากนิยายตอนที่ชื่อว่า "Me Tie Dough-ty Walker!" เรื่องของเด็กชายกับหมาคู่ใจที่เข้าไปสำรวจในบ้านร้าง ในหนังผีทุกเรื่องจะต้องมีเด็กประเภทนี้ครับ เมื่อเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ เด็กชายก็ได้ยินเสียงอันน่าเยือกเย็นร้องเป็นเพลงว่า "Me Tie Dough-ty Walker!" ขณะที่เขากำลังช็อกกลับเสียงที่ได้ยินอยู่นั้น ก็มีเรื่องที่น่ากลัวกว่าเกิดขึ้น เมื่อหมาของเขากลับร้องเพลงตอบกลับเสียงนั้นว่า "Lynchee kinchy colly molly dingo dingo." จินตนาการของ อัลวินประหลาดดีมั้ยล่ะครับ ยัง ยังไม่จบแค่นั้น ระหว่างที่เด็กชายยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก ข้างหน้าก็เสียงประหลาด ด้านข้างหมาตัวเองก็ร้องเพลงได้อีก เรื่องชวนขนหัวลุกก็เกิดขึ้นเบื้องหน้าเมื่อ มีหัวมนุษย์อาบเลือดหล่นร่วงลงมาทางปล่องไฟ เด็กชายตกใจแทบช็อก แต่หมาของเขากลับช็อกตาย ใช่ครับ หมาช็อกตายไปแล้ว เราจะได้ดูเรื่องประหลาดนี้กันใน Scary Stories to tell in the dark ซึ่งในตัวอย่างหนังเราก็ได้เห็นบางส่วนของตอน The Jangly Man ไปแล้ว แต่คนรักหมาไม่ต้องห่วงนะ เพราะหมาในเรื่องนี้ยืนอยู่หน้าเตาผิง พอได้ยินเสียงแล้วก็วิ่งหนีไป ไม่ช็อกตายเหมือนในหนังสือ และแล้ว The Jangly Man อสุรกายเก้งก้างก็ปรากฏตัวออกมา จากตัวอย่างยิ่งตอกย้ำได้ว่า Scary Stories to tell in the dark เป็นหนังสยองขวัญแบบจัดเต็มให้ขนหัวลุก ไม่ได้มีปีศาจน่ารักเอาฮาแบบ Goosebumps แน่นอน แม้ว่าจะมาจากบทประพันธ์ของ อัลวิน ชวาร์ต เพราะว่า กีเยร์โม ไม่ทำหนังสยองขวัญเบามือแน่นอน

ผลงานภาพประกอบฝีมือ สตีเฟน แกมเมลล์ เป็นงานภาพที่ชวนหลอนมาก

      The Jangly Man จะเป็นปีศาจที่ทีมงานภูมิใจเสนอมาก กีเยร์โม เผยว่าทีมงานได้ดึงเอาองค์ประกอบหลาย ๆ ส่วนจากภาพประกอบในหนังสือ Scary Stories to tell in the dark ที่เขียนโดย สตีเฟน แกมเมล มาประยุกต์ออกมาเป็นตัวตน The jangly Man "ส่วนที่ยากที่สุดในการออกแบบ The Jangly Man ก็คือเราพยายามจะไม่ให้ภาพลักษณ์ของมันออกมาเหมือนศพที่กำลังเน่าเปื่อย ที่คนดูเคยผ่านตากันมาเป็นล้านครั้งแล้ว เราต้องการให้มันออกมาดูมีความชั่วร้ายแฝงอยู่ในตัวด้วย" กีเยร์โม เล่าถึงเป้าหมายในการออกแบบ

กีเยร์โม เดล โตโร ผู้อำนวยการสร้าง

          ภาพของ The Jangly Man ที่เราเห็นในตัวอย่างคืออสุรกายที่พอบ่งบอกได้ว่าเคยเป็นมนุษย์มาก่อน มีอวัยวะเช่นเดียวกับมนุษย์ แต่เคยหลุดออกเป็นชิ้นๆ แล้วถูกเย็บกลับเข้าด้วยกันแบบผิดที่ผิดทาง ทำให้มีร่างกายที่บิดเบี้ยวไปมา การเคลื่อนไหวของมันจึงดูประหลาด ฉะนั้นผู้ที่จะมาสวมบทบาทเป็น The Jangly Man ต้องไม่ใช่นักแสดงธรรมดา แล้วทีมงานก็เฟ้นจนได้ ทรอย เจมส์ นักกายกรรมดัดตนผู้เหมาะสมที่สุดในการรับบทนี้ พอรู้ว่าได้นักกายกรรมดัดตนมารับบทนี้ ทีมงานก็เลยลิงโลดจัดเต็มแบบไม่ต้องกั๊ก โดยเฉพาะ ไมค์ ฮิลล์ ผู้รับหน้าที่ออกแบบอสุรกาย ก็เลยทำการย้ายหัวของ The Jangly Man ลงมาอยู่ข้างล่างเสียเลย เพราะเขารู้ว่า ทรอย เจมส์ สามารถหงายหลังแล้วเดินลงบันไดได้

ทรอย เจมส์ นักกายกรรมดัดตน ผู้สามารถหงายท้องเดิน 4 ขาได้

      ในการสร้างสรรค์อสุรกายแต่ละตัวในเรื่องนี้ กีเยร์โม บอกว่าเขาตั้งใจใช้ความสามารถของนักแสดงเป็นหลัก 90% ของภาพอสุรกายที่เห็นนั้นมาจากการแสดงล้วนๆ และใช้เทคนิค CGI เสริมเข้าไปเพียง 10% เท่านั้น อย่างเช่นตัว The Jangly Man นั้น ทรอย เจมส์ จะต้องสวมชุดยางลาเท็กซ์แบบเต็มตัว ส่วนหัวก็สวมหน้ากากคลุมทั้งหัว แล้วชุดที่ทรอยใส่ก็ยังต้องให้เขาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ทรอยจะหงายหลังแล้วเดินสี่ขาได้ เดินถอยหลังขึ้นบันไดได้อีกด้วย ทีมงานจึงต้องออกแบบให้ชุดส่วนหน้าอก กับส่วนหน้าท้องแยกออกจากกัน เพราะเขาจะต้องบิดตัวไปมาให้ดูน่ากลัว ซึ่งมันก็ได้ผลเพราะเวลาที่เขาบิดตัวภาพที่ออกมามันดูเหมือนซี่โครงของเขากำลังเคลื่อนไหวไปมา

เตรียมพบความสยองขวัญจากบรรดาอสุรกายแปลกประหลาดพร้อมกัน 8 สิงหาคม นี้ กีเยร์โม เดลโตโร จะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่า PG-13 ก็สยองได้เช่นกัน

 

เช็ครอบฉายคลิกเลย >>  https://bit.ly/2KAXZHL

 

 

ตัวอย่างภาพยนตร์