HIGHLIGHT

• อิซาเบลา โมเนอร์ เธอคือนักแสดงหญิงวัยรุ่นที่มีผลงานมาแล้วมากมายจากภาพยนตร์เรื่อง Instant Family, Transformers: The Last Knight และ Sicario: Day of the Soldado
   
• ผู้กำกับ เจมส์ โบบิน กล่าวว่าเธอคือตัวเลือกที่ชัดเจนสำหรับบท ดอร่า ตั้งแต่นาทีแรกที่เขาได้พบเธอ "อิซาเบลาวิเศษมาก ผมไม่เคยสงสัยเลย เธอมีความจริงจังที่ทำให้ฉากแอ็กชันของดอร่าน่าติดตาม แต่เธอก็มีหัวใจที่เหลือเชื่อด้วยเหมือนกัน อิซาเบลาเป็นเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ครับ"
   
• ผู้อำนวยการสร้าง คริสตัล เบอร์ กล่าวว่าโมเนอร์เป็น "หนึ่งในคนที่เก่งทุกอย่างที่เธอทำ เธอสามารถอิมโพรไวส์ได้ เธอแสดงได้ทั้งคอเมดีและดรามา เธอร้องเพลงได้ เต้นได้ เธอมีความเป็นนักกีฬามากๆ และเธอก็ทำให้ดอร่ามีความไร้เดียงสาแบบที่ดูแล้วสนุกมากค่ะ"
   
• นักแสดงสาว เล่าว่า โบบินเป็นผู้กำกับที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับโปรเจ็กต์นี้ ไม่แต่เพียงเพราะเขารู้จักตัวละครตัวนี้ดีจากลูกๆ ของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเขามีความสามารถพิเศษในการคิดเหมือนเด็กอีกด้วย

 

 

        ฮีโร่สาวผู้เป็นที่รักของคนทั่วโลกได้โลดแล่นมีชีวิตบนจอเงินใน Dora and the Lost City of Gold ภาพยนตร์เรื่องแรกของดอร่า นักสำรวจ ผู้บุกเบิกเชื้อสายลาตินคนดัง ผู้ซึ่งการผจญภัยของเธอสร้างความเพลิดเพลินให้กับพ่อแม่และเด็กๆ มากมายนับตั้งแต่ที่เธอเปิดตัวทางนิคเคลโลเดียนในปี 2000 ในภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันผจญภัยเรื่องแรกของเธอ ดอร่า (อิซาเบลา โมเนอร์) ที่ตอนนี้อายุ 16 ปี ได้ทำการผจญภัยที่อัดแน่นไปด้วยแอ็กชันผ่านป่าอเมซอนเพื่อช่วยเหลือพ่อแม่ของเธอจากเงื่อมมือของนักล่าสมบัติชั่วร้ายพร้อมไปกับการเผชิญหน้ากับความท้าทายที่น่ากลัวที่สุดของเธออย่างไฮสคูล!

ผู้กำกับ เจมส์ โบบิน กล่าวว่า อิซาเบลา โมเนอร์ นักแสดงหญิงวัยรุ่น เป็นตัวเลือกที่ชัดเจนสำหรับบท ดอร่า ตั้งแต่นาทีแรกที่เขาได้พบเธอ ผลงานของเธอในภาพยนตร์เรื่อง Instant Family, Transformers: The Last Knight และ Sicario: Day of the Soldado ได้ส่งให้เธอกลายเป็นดาราดาวรุ่งในฮอลลีวูดไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยทักษะทางกายและอารมณ์ที่จำเป็นต่อบทนี้ "ผมได้พิจารณาผู้คนมากมาย อย่างที่คุณคงจะจินตนาการได้" เขากล่าว "แต่อิซาเบลาวิเศษมาก ผมไม่เคยสงสัยเลย เธอมีความจริงจังที่ทำให้ฉากแอ็กชันของดอร่าน่าติดตาม แต่เธอก็มีหัวใจที่เหลือเชื่อด้วยเหมือนกัน อิซาเบลาเป็นเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ครับ"

 

         ผู้อำนวยการสร้าง คริสตัล เบอร์ กล่าวว่าโมเนอร์เป็น "หนึ่งในคนที่เก่งทุกอย่างที่เธอทำ เธอสามารถอิมโพรไวส์ได้ เธอแสดงได้ทั้งคอเมดีและดรามา เธอร้องเพลงได้ เต้นได้ เธอมีความเป็นนักกีฬามากๆ และเธอก็ทำให้ดอร่ามีความไร้เดียงสาแบบที่ดูแล้วสนุกมากค่ะ"

โมเนอร์เข้าร่วมโปรเจ็กต์นี้ด้วยแนวความคิดที่ว่าดอร่าที่โตเป็นวัยรุ่นแล้วเป็นคนยังไง แต่ก็กล่าวว่าบทภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแผนผังที่ชัดเจนมากๆ สำหรับตัวละครตัวนี้ "เธอไม่ใช่เด็ก แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ เธอตลกกว่า ยอดเยี่ยมกว่าและเจ๋งกว่า ฉันได้ทำลายกำแพงด้านที่สี่ แต่ด้วยวิธีเฉียบๆ เหมือนกับฉันกำลังพูดกับกล้องโกโปรน่ะค่ะ"

เด็กสาวที่แตกต่างจากทุกคนที่เธอได้พบในช่วงเวลาที่การเข้ากับคนอื่นเป็นสิ่งสำคัญ ได้เรียนรู้อย่างรวดเร็วว่า คำแนะนำที่ดีที่สุดที่พ่อแม่ให้ไว้คือคำแนะนำที่เรียบง่ายที่สุด นั่นคือจงเป็นตัวของตัวเอง ดอร่าไม่ปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมชั้นย่านชานเมืองของเธอแม้เธอจะรู้วิธีก็ตาม เธอใช้ความรอบรู้ในเรื่องของสัตว์ พืช ฤดูกาลและวัฒนธรรมและยังคงศึกษาโลกรอบตัวเธอ เธอถึงกับพูดถึงนักเรียนในไฮสคูลของเธอว่าเป็น "คนพื้นถิ่น" ด้วยซ้ำไป

       "เธอไม่รู้ว่าจะเสแสร้งเป็นอีกคนได้ยังไง" โมเนอร์อธิบาย "ในโลกใบนี้ ที่ดูเหมือนทุกคนใช้ชีวิตเพื่ออินสตาแกรม ดอร่ากลับรู้ว่าตัวเธอจริงๆ เป็นใคร ฉันคิดว่านั่นเป็นบทเรียนที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน และโดยเฉพาะสำหรับคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน ที่กำลังหาคำตอบว่าพวกเขาจะต้องนำเสนออะไรต่อโลกใบนี้บ้าง"

เธอกล่าวว่า โบบินเป็นผู้กำกับที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับโปรเจ็กต์นี้ ไม่แต่เพียงเพราะเขารู้จักตัวละครตัวนี้ดีจากลูกๆ ของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเขามีความสามารถพิเศษในการคิดเหมือนเด็กอีกด้วย "ฉันคิดว่านั่นเป็นเพราะเขามองเห็นคุณค่าของวัยเด็กอย่างแท้จริง" โมเนอร์กล่าว "เขารักความสุขบริสุทธิ์และความไร้เดียงสาของมันและมันก็แสดงให้เห็นในบทและหนังเรื่องนี้ด้วยค่ะ"

เตรียมออกผจญภัยไปกับ #ดอร่าสาวน้อยนักผจญภัย และผองเพื่อน ออกตะลุยค้นหาปริศนามหาสมบัติใน #DoraandtheLostCityofGold #ดอร่าและเมืองทองคำที่สาบสูญ 8 สิงหาคม ในโรงภาพยนตร์

 

เช็ครอบฉายคลิกเลย >> https://bit.ly/2YHEBSI

 

ตัวอย่างภาพยนตร์