6 หนังไม่ควรพลาดเดือนกรกฎาคม

Movie News20 มิถุนายน 2562

         ผ่านพ้นครึ่งปีแรกมาแล้ว เข้าสู่เดือน 7 ของปี 2019 ในเดือนนี้ยังอยู่ในช่วงท้ายๆ ของฤดูหนังซัมเมอร์ของฮอลลีวู้ด ซึ่งยังมีหนังฟอร์มใหญ่ปล่อยออกมาหลายเรื่อง แต่ก็ยังมีหนังฟอร์มเล็กที่เน้นขายไอเดียน่าสนใจอยู่หลายเรื่องเช่นกัน คัดมาแนะนำกันครับ กับ 6 เรื่องที่ไม่ควรพลาด เก็บตังค์ วางแผนกันไว้เสียแต่เนิ่นๆ ล่ะ

 

1. Spider-Man: Far from Home



เรต : PG-13
ผู้กำกับ : จอน วัตต์
นักแสดงนำ : ทอม ฮอลแลนด์ , เซนดายา , เจค กิลเลนฮาล , จอน แฟฟโรว์ , มาริสา โทเม , ซามูเอล แอล.แจ็คสัน
กำหนดฉาย : 3 กรกฎาคม 2562

เรื่องย่อ : ต่อเนื่องจากเหตุการณ์ใน Avengers : End Game ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ กลับมามีชีวิตหลังจากกลายสภาพเป็นฝุ่นไป 5 ปี เขาได้กลับมาใช้ชีวิตนักเรียนมัธยม ได้เจอกับเพื่อนๆ ที่เคยกลายสภาพเป็นฝุ่นไปแล้วเช่นกัน พอดีกับทาง โรงเรียนได้จัดทัศนศึกษาพานักเรียนไปเที่ยวยุโรป แต่ระหว่างท่องเที่ยว สไปเดอร์แมนก็ต้องเจอกับการโจมตีของเหล่าอสูรธาตุทั้ง 4 ดิน , น้ำ , ลม , ไฟ ที่หลุดมาจากต่างมิติในช่วงเดียวกับที่ ไอออนแมนดีดนิ้วพาชีวิตอีกครึ่งจักรวาลกลับมา แถมยังมี "มิสเตอริโอ" ซูเปอร์ฮีโร่จากต่างมิติ  ที่ตามมาจัดการกับอสูรธาตุทั้ง 4 อีกด้วย

เหตุที่ไม่ควรพลาด : นี่คือหนังที่มาปิดท้ายเฟส 3 ของจักรวาลมาร์เวล นอกจากเป็นปฏิบัติการครั้งสำคัญของสไปเดอร์-แมนแล้ว ยังเป็นการปิดบทสรุปบางเรื่องที่ยังทิ้งค้างมาจาก Avengers : End Game และเป็นศึกครั้งแรกของสไปเดอร์-แมน ที่เขาจะต้องรับมือด้วยความสามารถตัวเอง เพราะไม่มีไอออนแมนคอยเป็นพี่เลี้ยงอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังมี แฮปปี้ คนสนิทของโทนี่ สตาร์ค และ นิค ฟิวรี่ มาเป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดในปฏิบัติกาครั้งนี้ ในด้านกุ๊กกิ๊กเราจะยังได้เห็นความคืบหน้าในความสัมพันธ์ของเขากับ มิเชลล์ โจนส์ สาวที่เขาแอบรักมานาน

 

2. The Current War



เรต : G
ความยาวหนัง : 1 ชั่วโมง 45 นาที
ผู้กำกับ : แอลฟองโซ โกเมซ-เรยอน
นักแสดงนำ : เบเนดิค คัมเบอร์แบตช์ , ทอม ฮอลแลนด์ , ไมเคิล แชนนอน , นิโคลาส ฮอลต์
กำหนดฉาย : 11 กรกฎาคม

เรื่องย่อ : เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์โลก วันที่โธมัส เอดิสัน คิดค้นกระแสไฟฟ้าตรงขึ้นมาได้ เขาได้รับการสนับสนุนจาก เจ.พี. มอร์แกน นายทุนระดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกา ที่พร้อมจะประกาศการก้าวเข้าสู่วิวัฒนาการครั้งสำคัญของมนุษยชาติ แต่แล้วก็โดนขัดขวางจาก จอร์จ เวสติ้งเฮาส์ นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ในยุคนั้น กล่าวหาว่ากระแสไฟฟ้าตรงของเอดิสันยังมีอันตรายอยู่มาก กระแสไฟฟ้ากระแสสลับที่คิดค้นโดย นิโคลา เทสลา อีกหนึ่งอัจฉริยะคนสำคัญในยุคนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายจึงต้องเดิมพันด้วยการพิสูจน์ว่ากระแสไฟฟ้าของใครจะมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน

เหตุที่ไม่ควรพลาด : เคยมีหนังหลายๆ เรื่องที่พูดถึง โธมัส เอดิสัน และ นิโคลา เทสลา กันมาอย่างผิวเผิน ครั้งสุดท้ายก็ใน The Prestige (2006) แต่ the current war เป็นเรื่องแรกที่หยิบเรื่องราวการประชันฝีมือระหว่าง 2 อัจฉริยะมาเล่ากันแบบลงลึก
เรื่องนี้เป็นการรวมเหล่าของนักแสดงจากทั้งจักรวาลมาร์เวล และจักรวาลดีซี มาเผชิญกันในอีกภาพลักษณ์หนึ่ง เบเนดิค คัมเบอร์แบตช์ (doctor strange) ทอม ฮอลแลนด์ (spider-man) นิโคลาส ฮอลต์ (Beast/X-men) และ ไมเคิล แชนนอน (นายพลซอด / Batman v Superman: Dawn of Justice )

 

3. Anna



เรต : R
ความยาวหนัง : 1ชั่วโมง 59นาที
ผู้กำกับ : ลุค เบซอง
นักแสดงนำ : ซาช่า ลุส , เฮเล็น มิเรน , ลุค อีแวนส์ , ซิลเลียน เมอร์ฟีย์
กำหนดฉาย : 11 กรกฎาคม

เรื่องย่อ : แอนนา ซูเปอร์โมเดลระดับโลกชาวรัสเซีย ผู้มีเบื้องหลังอันน่าทึ่ง เพราะเธอคือมือสังหารระดับพระกาฬของทางรัฐบาล ที่ใช้โอกาสในการเดินทางไปเดินแบบในต่างประเทศและพ่วงภารกิจลับไปสังหารเป้าหมายตามคำสั่งขององค์กร

เหตุที่ไม่ควรพลาด : ชื่อที่น่าสนใจที่สุดในโปรเจกต์นี้คือ ลุค เบซอง ผู้สร้างสรรค์คาแรกเตอร์ืมือสังหารอมตะในโลกภาพยนตร์มาแล้วหลายรายและไม่เคยทำให้ผู้ชมผิดหวัง ตั้งแต่ ลีออง จาก The Professional , นิกิต้า จาก Nikita ที่ฮิต สุดถึงต้องมีการรีเมคทั้งหนังและทีวีซีรีส์ , ลูซี่ นักฆ่าพลังจิตจาก Lucy และ แคตตาลียา จาก Cilombiana และมาถึงแอนนา กับนักฆ่าที่มาในมาดสาวสวย ที่ดูตัวอย่างแล้วซัดกันมันส์หยด การันตีด้วยการที่หนังได้เรต R ที่มั่นใจได้ว่าโหดสะใจ

 

4. MA



เรต : R
ความยาวหนัง : 1 ชั่วโมง 39 นาที
ผู้กำกับ : เทต เทย์เลอร์
นักแสดงนำ : ออคตาเวีย สเปนเซอร์ , จูเลียต ลูวิส
กำหนดฉาย : 11 กรกฎาคม

เรื่องย่อ : แก๊งวัยรุ่นบังเอิญเจอกับ ซู แอน หญิงผิวสีท่าทางใจดีระหว่างที่ขอร้องให้เธอซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ , ซู แอน ตกลงซื้อแอลกอฮอล์ให้แก๊งวัยรุ่นแถมยังชวนให้พวกเขาและเธอไปฉลองกันที่บ้านเธอ และเอื้อเฟื้อห้องใต้ดินที่บ้านให้เป็นแหล่งปาร์ตี้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเรียกเธอว่า "มา" มีกฏในบ้านว่า ห้ามสบถคำหยาบ และห้ามขึ้นไปด้านบน แก๊งหนุ่มสาวสนุกกันที่ห้องใต้ดินของ"มา"มาก และมาจัดปาร์ตี้กันอยู่บ่อยครั้ง จากวันชื่นคืนสุข วี่แววหายนะก็เริ่มมาเยือน เมื่อ "มา" เริ่มเข้ามาคุกคามชีวิตของบรรดาแก๊งวัยรุ่น เริ่มปรากฏตัวที่โรงเรียนและไปทำความรู้จักกับพ่อแม่ของพวกเขาและเธอ "มา"เริ่มเปิดเผยตัวว่าไม่ใช่หญิงที่น่ารักอัธยาศัยดีอย่างที่พวกเธอเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว

เหตุที่ไม่ควรพลาด : หนังสยองขวัญไม่เคยเหือดหายไปจากโปรแกรมหนังบ้านเรา บางเรื่องก็ได้ลุ้นได้สะดุ้งกันสนุกสนาน บางเรื่องก็น่าผิดหวัง แต่สำหรับ "Ma"ไม่น่าจะผิดหวัง เพราะเพียบพร้อมไปด้วยองค์ประกอบที่น่าสนใจ หนังกำกับโดยผู้กำกับฝีมือดี เทต เทย์เลอร์ ที่เคยสร้างชื่อมาจากหนังฟีลกู๊ด The Help (2011) และเรื่องเดียวกันนี้ล่ะที่ส่งให้ออคทาเวีย สเปนเซอร์ คว้าออสการ์นักแสดงสมทบหญิงมาแล้ว ก่อนที่เธอจะได้เข้าชิงออสการ์อีกถึง 2 ครั้ง "Ma" จึงเป็นการร่วมงานกันครั้งที่ 2 ของ เทต เทย์เลอร์ และ ออคทาเวีย สเปนเซอร์ และเป็นการเปลี่ยนแนวจากหนังฟีลกู๊ดมาสู่หนังสยองขวัญ ก็น่าลองดูครับ ว่านักแสดงออสการ์ที่เคยผ่านแต่บทหญิงใจดีมาตลอด จะโชว์ความสามารถของนักแสดงออสการ์ให้ประจักษ์กันว่าเธอเล่นบทร้ายให้น่ากลัวก็ได้ด้วย

 

5. The Lion King

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                            


เรต : PG
ผู้กำกับ : จอน แฟฟโรว์
ให้เสียงพากย์ : บียอนเซ่ , เซ็ธ โรเจ็น , ชิเวเทล อีจิโอฟอร์ , โดนัลด์ โกลฟเวอร์
กำหนดฉาย : 17 กรกฎาคม

เรื่องย่อ : จากคำที่กล่าวต่อกันมาว่า สิงโต คือเจ้าแห่งพงไพร นำมาขยายให้เป็นภาพที่เห็นชัด กับตำนานการสืบทอดตำแหน่งเจ้าป่าจากรุ่นสู่รุ่น ซิมบ้า คือสิงโตน้อย ลูกของ "มุฟาซา" ผู้ดำรงตำแหน่งราชาแห่งฝูงสัตว์ และซิมบ้าคือทายาทผู้สืบทอดตำแหน่ง แต่ก็โชคร้ายเมื่อ "สการ์" น้องชายของมุฟาซา ต้องการแย่งชิงตำแหน่งเจ้าป่า เลยคิดแผนร้ายกำจัดมุฟาซา และป้ายความผิดให้ซิมบ้า ทำให้สิงโตน้อยต้องหนีออกจากฝูง ได้ผจญภัยในป่าลึกและพบเจอเพื่อนใหม่ๆ จนเติบใหญ่และพร้อมที่จะกลับมาทวงคืนตำแหน่งเจ้าป่าจากสการ์ อาผู้กลายเป็นราชาที่ปกครองเหล่าสัตว์ด้วยความโหดร้าย

เหตุที่ไม่ควรพลาด : The Lion King คืออนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จมากเรื่องหนึ่งของดิสนีย์ อยู่ในใจผู้ชมมาตั้งแต่ปี 1994 ซิมบ้า , พุมบ้า และทีโมน กลายเป็นตัวการ์ตูนที่คนทั่วโลกรักใคร่ และเพลงประกอบอีกมากมายหลายเพลงที่กลายเป็นเพลงอมตะ Hakuna Matata,Can You Feel the Love Tonight,he Lion Sleeps Tonight,Circle of Life ทำให้คว้าออสการ์ไป 2 ตัวจากเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ด้านรายได้หนังทำรายได้ไปถึง 968,483,777 เหรียญ เข้าสู่อันดับที่ 35 ของตารางหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาล และอันดับที่ 7 ของหนังอนิเมชั่นทำเงินสูงสุด

เว้นช่วงไป 25 ปี วอลต์ ดิสนีย์ หยิบ The Lion King กลับมาเล่าใหม่อีกครั้ง ผ่านเทคโนโลยีล่าสุดของโลกภาพยนตร์ ด้วยการใช้ซีจีไอเนรมิตเหล่าสัตว์ให้ออกมาเสมือนมีชีวิตจริงที่สุด ให้เด็ก ๆ รุ่นใหม่ได้รู้จักซิมบ้าและผองเพื่อน รวมถึงเหล่าเด็ก ๆ ในวันนั้นที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้ได้หวนคืนมาสัมผัสความสนุกสนานที่เคยได้รับชมในวัยเด็กอีกครั้งในรูปแบบที่สมจริงมากขึ้น ผ่านฝีมือของผู้กำกับจอน แฟฟโรว์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ IronMan 1-2 และเคยสร้างความประทับใจให้ผู้ชมมาแล้วกับการรีเมค the jungle book ที่เราได้เห็นกันแล้วว่าทีมงานดิสนีย์สร้างบรรดาสัตว์ป่าด้วยภาพซีจีได้สมจริงขนาดไหน

ด้วยความยิ่งใหญ่ของ The Lion King ที่เป็นตำนานบทสำคัญของดิสนีย์ และการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ครั้งนี้ คาดกันว่าหนังจะทำรายได้ผ่าน 200 ล้านเหรียญได้ในสุดสัปดาห์แรก

 

6. Parasite



ความยาวหนัง : 2 ชั่วโมง 15 นาที
ผู้กำกับ : บอง จุนโฮ
นักแสดงนำ : ซง คังโฮ , ชอย วูชิก , ลี ซุนคยูน
กำหนดฉาย : 18 กรกฎาคม

เรื่องย่อ : ในวันที่ครอบครัวคิมลำบากถึงขีดสุด คิแตก ผู้พ่อเป็นคนขับรถตกงาน แถมตัวแม่ ชุงซุก ก็ไม่ได้ทำงาน คิวู และ คิเจียง ลูกชายลูกสาวก็ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย , แต่แล้วคิวูก็บังเอิญได้งานเป็นติวเตอร์ให้กับลูกชายมหาเศรษฐีตระกูลปาร์ค คิวูได้ช่องทางชักจูงให้ครอบครัวปาร์คจ้างคิเจียงน้องสาวของเขามาเป็นติวเตอร์สอนงานศิลป์ให้กับลูกชายคนเล็กของบ้านปาร์ค คิวูและคิเจียงยังดำเนินแผนการต่อไปด้วยการหาทางขับไล่คนงานในบ้านปาร์คออก เพื่อให้พ่อและแม่ของเขาได้เข้ามาทำงานในบ้านปาร์คทั้งครอบครัว ซึ่งหนทางดูจะสดใส แต่แล้วเรื่องราวก็พลิกเป็นร้ายถึงขั้นวิกฤตที่ครอบครัวคิมเกินจะแก้ไขได้

เหตุที่ไม่ควรพลาด : ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ บอง จุนโฮ ผู้เคยมีผลงานสร้างชื่อ "Okja" ที่ไปเข้าชิงรางวัล Palme d'Orในเมืองคานส์เมื่อปี 2017 แต่แล้วก็พลาดไป แต่แล้วปีนี้ parasite ก็ส่งให้บอง จุนโฮ ประสบความสำเร็จ หนังคว้ารางวัล Palme d'Or และตัวเขาได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม หนังยังไปคว้ารางวัลยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังซิดนีย์มาเพิ่มอีก 1 ตัวด้วย แถมยังมีการันตีจากเหล่านักวิจารณ์ให้หนังได้คะแนนใน rottentomatoes สูงถึง 98% และ IMDB 8.6 แต่อย่าเข้าใจผิดว่านี่คือหนังสายรางวัลแล้วจะน่าเบื่อดูยาก parasite มาในแนวดราม่า - ทริลเลอร์ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวระทึกดุเดือด ที่ชวนลุ้นระทึก แต่ก็ยังสะท้อนถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมได้อย่างเด่นชัด