การประสบความสำเร็จของ John Wick ภาคแรกปี 2014 หนังแอ็คชั่นฟอร์มเล็ก แล้วสานต่อมาได้ถึงภาค 3 นี่นับว่าเป็นเกินความคาดหมาย จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงหนังแอ็คชั่นหนังฟอร์มเล็ก ที่กำกับโดย แชด สตาเฮลสกี อดีตสตันท์แมน ที่หันมาลองชิมงานกำกับ แล้วก็ชักชวนคีอานู รีฟส์ พระเอกที่แชด เคยเล่นบทสตันท์ให้เขามาใน The Matrix ทั้ง 3 ภาคจนสนิทสนมกัน เท่ากับเป็นการกลับมารับบทพระเอกแอ็คชั่นที่เว้นช่วงจาก The Matrix ไปถึง 20 ปี ซึ่งใน John Wick ภาคแรก คีอานู ก็อายุ 50 ปีเข้าไปแล้ว พอมาถึง John Wick: Chapter 3 - Parabellum ก็เข้าสู่วัย 54 ปี ซึ่งคีอานู รีฟส์ ก็พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่ากาลเวลาไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย

              และสิ่งที่น่าชื่นชมจากข้อมูลเบื้องหลัง John Wick ไตรภาคก็คือ คีอานู รีฟส์ เล่นฉากสตันท์เองหมดทั้ง 3 ภาค และเมื่อตอนภาค 2 ที่มีการปล่อยคลิปเบื้องหลังการฝึกใช้อาวุธของเขาออกมาในยูทูบ ที่ใครได้ดูก็ยิ่งชวนทึ่งกับท่าทางการใช้อาวุธอย่างคล่องแคล่วเชี่ยวชาญ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าพระเอกรุ่นใหญ่คนนี้มีความมุ่งมั่นตั้งใจกับบทจอห์น วิค อย่างมาก เขาไม่ใช่ดาราที่หยิบจับอาวุธเพื่อเข้าฉากเท่านั้น แต่เขาคือผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธตัวจริง และถ่ายทอดทักษะจากตัวเขาทั้งหมดผ่านออกมาทางบทบาทของจอห์น วิค

         อีกโจทย์ที่ยากในการเป็น จอห์น วิค ก็คือ สถานะการเป็นนักฆ่าที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ทั้งมือเปล่าและอาวุธทุกรูปแบบ คีอานู รีฟส์ จะต้องโชว์ฉากแอ็คชั่นทั้งยิงปืนและต่อสู้ด้วยมือเปล่า และบางฉากก็ต้องสลับกันไปมาทั้งปืนและหมัด เพื่อจะรับบทนี้ได้สภาพร่างกายเขาจะต้องอยู่ในสถานะที่ฟิตที่สุด ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องเข้าฝึกซ้อมกับ แพททริค เมอร์ฟีย์ ครูฝึกและผู้เชี่ยวชาญการออกกำลังกายเพื่อปรับความสมดุลโครงสร้างร่างกาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะในวันนี้คีอานู ก็ไม่ใช่นักแสดงหนุ่มที่ฟิตเปรี๊ยะอย่างเมื่อ 20 ปีก่อนแล้ว ซึ่งแพททริคก็ยอมรับว่างานนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย "การที่คีอานูจะมารับบทนี้ถือว่าเป็นงานหนักสำหรับร่างกายเขาในตอนนี้เลย"

แพททริค เมอร์ฟีย์ เทรนเนอร์ส่วนตัวของคีอานู รีฟส์

         งานหลักของแพททริคคือการปรับสภาวะกล้ามเนื้อของคีอานูให้มีความแข็งแรงทนทานโดยไม่กระทบกระเทือนสุขภาพร่างกายของเขา หลักการทำงานของแพททริค คือต้องให้ลูกค้าของเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยที่สุด แต่ต้องได้ผลตอบรับกลับมาที่สูงที่สุด ฉะนั้นโปรแกรมที่เหมาะกับคีอานู ที่สุดก็คือการออกกำลังกายที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งโปรแกรมที่แพททริคเลือกมาใช้กับคีอานูก็คือ รูปแบบตารางเวลาที่เข้มงวด แต่ใช้การออกกำลังกายที่มีผลกระทบต่อร่างกายต่ำ และให้พักในช่วงเวลาจำกัด "เขาจะต้องไม่ยกตุ้มน้ำหนักที่มีน้ำหนักมากเวอร์เกินตัว ใน 1 ชั่วโมงครึ่ง เขาจะต้องได้ออกกำลังกาย 5-6 รอบ สิ่งที่คีอานู เผชิญในแต่ละวันก็คือ เขาจะต้องออกกำลังกายในแต่ละท่าที่กำหนดเป็นพันครั้ง ได้พักแป๊บนึง แล้วก็ลุยต่อเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย เราต้องการให้ร่างกายเขาได้เคลื่อนไหวเพื่อส่งผลต่อกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและทนทาน แต่ตัวเขาต้องมีเชื่อในหลักกายบริหารนี้ด้วยนะ ท้ายที่สุดเขาจะผ่านพ้นโปรแกรมนี้ไปแบบเหนื่อยหอบ แต่เขาจะรู้สึกแฮปปี้เมื่อตอนที่เขารับรู้ว่าร่างกายเขาฟิตพร้อมมากขึ้นเมื่อตอนถ่ายทำฉากสมบุกสมบันเหล่านั้น"

แพททริค เมอร์ฟีย์ ในฟิตเน็สของเขา

ตารางการออกกำลังกายของ คีอานู รีฟส์ ในแต่ละวัน

เขาจะต้องออกกำลังกายในแต่ละท่าจำนวน 20 ครั้ง ทำแต่ละท่าต่อเนื่องไปจนครบ 6 ท่า เท่ากับ 1 ยก ให้พักได้แป๊บเดียวเมื่อจบแต่ละท่า เมื่อครบ 1 ยก ให้พักได้ 2 นาที แล้วทำไปจนครบทั้งหมด 6 ยก

1. Reverse Lunge Front DB Raise ยกน้ำหนักใน 2 มือ ก้าวถอยหลัง 1 ก้าว พร้อมกับยกน้ำหนักชูขึ้นสุดมือ ก้าวเท้าซ้าย-ขวา สลับกันไป

2. Bosu Lunge Shoulder Press สลับเท้าซ้าย -  ขวาเหยียบบอลโบซู (บอลครึ่งลูกสำหรับออกกำลังกาย) แขนทั้ง 2 ข้างยกน้ำหนักขึ้นสุดมือ

3. Reverse-Step Resistance Band Row แขนทั้ง 2 ข้างดึงยางยืดแล้วก้าวถอยหลัง 1 ก้าว

4. Squat with TRX Shoulder Iso-Hold ใช้วงยางยืดรัดที่ขาบริเวณหน้าแข้ง มือจับเสาแล้วย่อตัวลงให้สุด

5. Stability Ball Dynamic Plank เหยียดตัวทำท่าแพลงกิ้งบนลูกบอล

6. Banded Lateral Walk Pallof Press ใช้วงยางยืดรัดบริเวณข้อเท้า ในมือกำยางยืดไว้ แล้วเดินสไลด์ข้างไป-กลับ

 

ตัวอย่างภาพยนตร์