ฟังชัดๆ วิธีคิดในการเลือกนักแสดงมารับบทกระสือสาวใน แสงกระสือ จากปากผู้กำกับ
ภาพยนตร์โรแมนติกทริลเลอร์ "แสงกระสือ" ให้คนดูร่วมลุ้นไปความรักต่างสายพันธุ์ระหว่างคนกับอมนุษย์ ผลงานการกำกับของ โดม สิทธิศิริ มงคลสิริ ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของ 2 พระเอกสุดฮอต โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ และเกรท สพล อัศวมั่นคง และนางเอกสาวหน้าใส มินนี่ ภัณฑิรา พิพิธยากร และนักแสดงมากฝีมือ เอ็มสุรศักดิ์ วงษ์ไทย ที่หวนกลับมารับงานภาพยนตร์อีกครั้งในรอบ 7 ปี
เรื่องราวของเด็กสาวแรกรุ่นในหมู่บ้านอันห่างไกลค้นพบว่า แท้จริงแล้วเธอไม่ใช่มนุษย์เหมือนคนอื่น แต่สืบเชื้อสายมาจากเผ่าพันธุ์เก่าแก่ในตำนาน ที่ถ่ายทอดกันผ่านทางน้ำลาย มีเพียงเด็กหนุ่มคนเดียวในหมู่บ้านที่รู้ความจริง และพยายามปกป้องเธอจากการไล่ล่าของชาวบ้านที่หวาดกลัวผีกระสือ ความใกล้ชิดของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นความรัก ขณะที่อสูรกายอีกสายพันธุ์หนึ่งก็ต้องการหัวใจของเธอเพื่อความเป็นอมตะ หนทางที่เธอจะอยู่รอดคือ หนีออกจากหมู่บ้านหรือการเผชิญหน้ากับศัตรูที่ตามล่า แล้วเขาจะปกป้องเธอได้หรือไม่
โดม ผู้กำกับ เผยว่า "ตอนที่ ทรานส์ฟอร์เมชั่นบอกว่าอยากให้ผมทำหนังเกี่ยวกับกระสือ ผมแทบจะกลับบ้านเลย ในฐานะคนดูหนัง พอนึกถึง "กระสือ" เรามักจะยึดติดกับผีสาวที่มีหัวกับไส้และกินอาจม แต่ทาง ทรานส์ฟอร์เมชั่นพูดขึ้นมาว่า แล้วทำไมเราไม่ทำออกมาให้มันดีล่ะ คำนี้ท้าทายผมมาก โจทย์ในหัวของผมก็คือจะทำยังไงให้ออกมาเป็นกระสือสวยงาม จึงขอเวลาค่าย 1 เดือน เพื่อทำเรื่องย่อ นำเสนอมุมที่น่าสงสารของกระสือ ผ่านชีวิตเด็กหญิงวัยแรกรุ่นคนหนึ่งที่อยากมีความรักเหมือนคนทั่วไป แต่ชีวิตเขากลับต้องมาเจอจุดเปลี่ยนของชีวิต เรารีดีไฟน์ให้กระสือออกมาเป็นมอนสเตอร์ให้จับต้องได้ ซึ่งพอเอากลับมาให้ ทรานส์ฟอร์เมชั่น ดู ก็ตรงกับความต้องการของค่ายพอดี ก็เลยออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ครับ"
การเลือกนักแสดงที่มาเล่น เลือกยังไง?
แต่ละบทในเรื่อง ถ้ารู้เลยว่าถ้าผมเลือกดาราดังมาแสดง คนจะไม่ค่อยเชื่อ อย่างบท "สาย" นางเอกของเรื่องต้องเป็นเด็กสาวที่อยู่ในวัยประจำเดือนมาครั้งแรก ต้องเป็นเด็กที่ดูใสจริงๆ พี่ย้ง ทรงยศ ส่งเด็กแบบดาวรุ่งมาให้ผมแคสท์ติ้ง แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่ จนมาเจอน้องมินนี่ หน้าตาของเขาเป็นคนที่ใส่ผ้าถุงแล้วดูมีเสน่ห์ จะมาหน้าเกาหลีแล้วใส่ผ้าถุง คงขัดแย้งมาก แล้วเขาสามารถเล่นดราม่าหนักๆ ได้และมีความกระหายที่จะทำตรงนี้ให้ได้ ซึ่งจุดนี้สำคัญมาก
อย่าง โอบ โอบนิธิ ที่เล่นเป็น "น้อย" และ เกรท สพล แสดงเป็น "เจิด" เค้าชอบบทที่เขาได้รับ และผมว่าเขาเหมาะมาก บท "น้อย" ที่โอบเล่นนั้น จะเป็นคนอ่อนนอก แข็งใน มีความดื้อ ตรงข้ามกับบท "เจิด" ที่ภายนอกดูร่างใหญ่เข้มแข็ง แต่จริงๆ แล้วข้างในอ่อนโยน ซึ่งแต่ละคนเล่นซะจนผมเชื่อว่าเขาเป็นน้อยและเจิดเลย
เสน่ห์ของ "แสงกระสือ" อยู่ตรงไหน?
ผมว่าเราไม่ได้ดูหนังรัก ที่เป็น Epic มานาน เรื่องสุดท้ายที่ผมจำได้คือ "นางนาก" ที่แสดงโดย ทราย เจริญปุระ ผมอยากให้ไปดูความประณีตและพลังของนักแสดงใหม่กลุ่มนี้ เขามีความตั้งใจมาก บรรยากาศและมู้ด แอนด์ โทน ของหนังเป็นแนวย้อนยุคเป็นบรรยากาศที่เราโหยหา ซึ่งการคุมมู้ด แอนด์ โทน ของหนังเป็นอะไรที่ยาก หนังของผมมันอาจมีรอยแผลบ้าง แต่ผมเชื่อว่าคนดูจะต้องประทับใจครับ
ทิ้งตำนานความเชื่อเก่าๆ แล้วเตรียมสัมผัสความแปลกใหม่ของตำนานกระสือใน "แสงกระสือ" วันนี้ ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างภาพยนตร์