ซูเปอร์ฮีโร่เก่าแก่ัตัวหนึ่งจากโลกหนังสือการ์ตูน ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1939 นับอายุถึงตอนนี้ก็ 80 ปีแล้ว อายุน้อยกว่าซูเปอร์แมน 1 ปี เดิมที Shazam!มีชื่อว่า Captain Marvel เรียกได้ว่าเขาคือกัปตันมาร์เวลตัวจริงและดั้งเดิม แต่ว่าคุณปู่ สแตน ลี นี่แหละที่ชิงไปจดลิขสิทธิ์ชื่อ Captain Marvel ให้เป็นของสำนักพิมพ์มาร์เวลซะ Captain Marvel คนนี้ก็เลยต้องเปลี่ยนชื่อเป็น Shazam! แล้วก็ช่างบังเอิญเสียจริ๊งที่ Shazam!ก็ถูกดี.ซี.ดึงมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เข้าฉายห่างจาก Captain Marvel เพียงแค่เดือนเดียว
 

Shazam!นี่เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังและความสามารถระดับต้นๆ ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่เลย เพราะชื่อ S.h.a.z.a.m เป็นตัวย่อมาจากเทพเจ้าทั้ง 6 ในตำนาน ได้รับความฉลาดปราชญ์เปรื่องมาจากเทพโซโลมอน "S" จาก Solomon , ได้รับความแข็งแกร่งมาจากเทพเฮอร์คิวลิส  "H" จาก Hercules  ได้รับความแข็งแกร่งอึดทนทานมาจากเทพแอตลาส "A" จาก atlas ได้รับพลังมหาศาลมาจากเทพซีอุส "Z" จาก zeus ได้รับความกล้าหาญมาจากเทพอะคิลิส "A" จาก Achilles ได้รับความเร็วมาจากเทพเมอคิวรี่ "M" จาก mercuryและได้รับพลังมหาศาลมาจากเทพซีอุส แค่นี้ก็เห็นแล้วว่า Shazam!จะเก่งขนาดไหน แต่ยังไม่หมดแค่นี้ Shazam!ยังมีพลังและความสามารถอีกมาก ก่อนที่จะได้ชมตัวตนของเขาบนจอภาพยนตร์ในวันที่ 4 เมษายน นี้ มาทำความรู้จักกับ Shazam!ให้มากขึ้น

1. ยิงพลังเปลวไฟ

           ยังอยู่ในเหตุการณ์ "The Darkseid War" ที่ Shazam!ได้รับพลังวิเศษมาจากเทพชุดใหม่ และหนึ่งในนั้นคือ "H'ronmeer" มาแทนที่ใน "H"เขาเป็นพระเจ้าจากดาวอังคาร และเทพแห่งไฟ ซึ่งเขาได้มอบพลังในการควบคุมไฟ ให้กับ Shazam! ด้วยพลังนี้ทำให้สามารถยิงเปลวไฟได้จากฝ่ามือ และยังพ่นไฟได้อีกด้วย ทำให้ตอนนี้ Shazam!สามารถพ่นไฟ และ พ่นไอน้ำแข็งได้เช่นกัน

 

2. จัดการกับพลังวิเศษ

           ในปฏิบัติการร่วมกับจัสติซลีก ในตอน "The Darkseid War" เหล่าจัสติซลีกต้องเจอกับมหาวายร้าย "ดาร์คไซด์" ที่มีพลังอำนาจมหาศาลทำให้พลังวิเศษของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ต้องแปรเปลี่ยนไป , Shazam!ไม่สามารถเชื่อมต่อพลังกับพระเจ้า ทั้งหลายได้ ทำให้เขาต้องหาแหล่งพลังใหม่ และสุดท้ายเขาสามารถเชื่อมโยงกับ "Zonus"เทพเจ้าโบราณ ที่มาแทนตำแหน่ง Zeus ในตัว "Z" ผู้ซึ่งมอบพลังใหม่ให้กับเขา ทำให้ Shazam!สามารถปรับเปลี่ยนเลือกใช้พลังจากพระเจ้าองค์เก่า และพระเจ้าองค์ใหม่ได้ตามใจนึก

 

3. เสกเวทมนตร์คาถา

         เริ่มจะหลุดโลกไปไกลแล้ว เป็นพลังที่ Shazam!ได้รับมาจากพ่อมด ทำให้เขาเสกเวทมนตร์เองได้ เสกสิ่งของออกมาได้ แต่เป็นพลังที่เขายังไม่สามารถควบคุมได้ดีนัก มีอยู่ตอนหนึ่ง ขณะที่ Shazam!อยู่ที่สำนักงานใหญ่จัสติซ ลีก กับไซบอร์ก เขาต้องการโชว์ไซบอร์กว่าเขามีพลังวิเศษในการเสกเวทมนตร์คาถาได้ Shazam!ร่ายมนตร์เสร็จ แล้วโต๊ะปิงปองก็โผล่ฝรุ่บมาตรงหน้า ยังไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้ว Shazam!ต้องการเสกอะไรออกมา

 

4. ใช้พลังสายฟ้า

        ในปี 2011 ทางดี.ซี. สร้างสรรค์จักรวาล ดี.ซี.ใหม่ในชื่อ "New52" รีบู๊ตบรรดาซูเปอร์ฮีโร่ใหม่หมด ในส่วนของ Shazam!ก็มีการเขียนที่มาของ บิลลี่ แบตสัน ใหม่ให้เป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์ ในหนังก็ใช้เรื่องราวนี้ และมีการปรับเปลี่ยนพลังในการควบคุมสายฟ้าใหม่ จากเดิมที่ Shazam!สามารถเรียกสายฟ้ามาเขวี้ยงใส่คู่ต่อสู้ได้ เป็นการยิงพลังสายฟ้าออกมาจากร่างตัวเองได้ และยังยิงกระแสไฟออกมาควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ นานาได้ ซึ่งในหนัง Shazam!เราก็เห็นเขาใช้พลังนี้มายิงใส่ตู้เอทีเอ็ม แล้วเงินออกมาเต็มไปหมด

 

5. ทักษะการต่อสู้

        เป็นความสามารถที่ซูเปอร์ฮีโร่ควรมีเป็นพื้นฐาน ซึ่ง Shazam!ก็ได้รับความสามารถพิเศษที่ได้รับมาจากเทพอะคิลิส นอกเหนือจากความกล้าหาญที่จะเผชิญต่อทุกสภานการณ์ร้ายแล้ว ผลต่อเนื่องก็คือทักษะในการต่อสู้นี่ล่ะ ที่พาให้ Shazam!สามารถต่อสู้กับศัตรูได้ทุกรูปแบบทั้งอาวุธหรือมือเปล่า และมักมีชัยในท้ายที่สุด

 

6. เป่าไอเย็นแช่แข็ง

        เป็นอีกความสามารถพิเศษที่เหมือนกับซูเปอร์แมน ถ้าใครเคยดูหนังซูเปอร์แมนในเวอร์ชั่นแรกๆ จะเคยเห็นซูเปอร์แมน เป่าลมจากปากใส่คนหรือวัตถุแล้วเป้าหมายก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่ง Shazam!เอง ก็มีความสามารถแบบนี้เช่นกัน แต่พอรู้ว่าไปเหมือนกับซูเปอร์แมน ในช่วงหลังๆ เขาก็เลยไม่ใช้พลังนี้ให้เห็นอีก

 

7. เคลื่อนย้ายร่าง

        เป็นความสามารถพิเศษอย่างมาก ที่ไม่มีในซูเปอร์ฮีโร่หลายรายนัก และก็เป็นอีกความสามารถของ Shazam!ที่ดูเวอร์วังนัก ซึ่งเขาก็ไม่ได้ใช้พลังนี้พร่ำเพรื่อนัก แต่จะใช้ในกรณีที่เขาต้องการเดินทาง "ศิลานิรันดร"เพื่อพบกับพ่อมด Shazam!ผู้มอบพลังให้เขา และล่าสุดในปฏิบัติการร่วมกับทีม Justice League ในหนังสือการ์ตูนเมื่อ 2 ปีก่อน Shazam!กำลังช่วยรักษาพยาบาลไซบอร์กที่บาดเจ็บจากการต่อสู้ ในขณะนั้นสมาชิกจัสติซลีกคนอื่นกำลังต่อสู้กับเหล่าร้ายอย่างต่อเนื่อง ไซบอร์กบอกกับShazam!ว่าเขาค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว ให้ Shazam!ไปช่วยเพื่อนๆ ต่อสู้เถอะ ได้ยินดังนั้น Shazam!ก็วาร์ปร่างไปร่วมรบกับเพื่อนๆ

 

8. เหนือภาพลวงตา

        ความสามารถพิเศษจากโซโลมอนอีกแล้ว คือพลังที่สามารถอยู่เหนือ"ภาพลวงตา" ถ้าวายร้ายตัวใดพยายามจะสร้างภาพลวงตาเพื่อหลอกล่อ Shazam!ล่ะก็...ไม่มีผล เพราะเขาสามารถมองทะลุภาพลวงตานั้นได้เสมอ ด้วยความสามารถนี้ทำให้ Shazam!อ่านเกมแผนการร้ายของศัตรูออกได้หมด ล่วงรู้ล่วงหน้าว่าศัตรูมีแผนการอย่างไรต่อไป

 

9. พลังควบคุมจิต

         เป็นความสามารถพิเศษที่สืบเนื่องจากพลังในการสะกดจิต พลังควบคุมจิตนี้จะเป็นประโยชน์ในตอนที่เขากำลังจะถูกล้างสมอง ในตอน Kingdom Come นั้น Shazam!ต้องต่อสู้กับหนอนต่างดาวที่มีพลังในการล้างสมองผู้คน Shazam!เองก็ เสียท่าโดนจับไปล้างสมอง ซึ่งเขาต้องใช้พลังจิตต้านทานนี้ต่อสู้กับพลังล้างสมองของหนอนต่างดาว แต่พลังควบคุมจิตนั้นก็มีระยะเวลาจำกัด ถ้าโดนจู่โจมเป็นเวลานานๆ พลังในการควบคุมจิตก็ถดถอยและ Shazam!จะต้องเป็นฝ่ายพ่ายท่าแน่นอน แต่ว่าก่อนจะถึงตรงนั้น Shazam!ก็สามารถทำลายพันธนาการหลุดรอดออกมาได้เสียก่อน

 

10. สะกดจิต

       เป็นอีกพลังและความสามารถของ Shazam!ที่ดูเวอร์วังและไร้ซึ่งคำอธิบายว่ามาจากไหน แต่ Shazam! ก็ทำได้และเคยทำมาแล้วในตอนหนึ่ง เพื่อนซูเปอร์ฮีโร่ของเขาชื่อ ซูเปอร์ สแมชเชอร์ โดนวายร้ายจับไปล้างสมองและส่งกลับมาต่อสู้กับเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ Shazam!จึงจัดการสะกดจิตซูเปอร์สแมชเชอร์ แล้วเข้าไปจัดการกับสภาพจิตของซูเปอร์สเมชเชอร์เสียใหม่ ทำให้เขากลับมาสภาพปกติ ด้วยความสามารถที่ดูเวอร์วังเกินไปนี้ ทำให้ความสามารถในการสะกดจิตของ Shazam! จึงถูกเลือนหายไปในยุคหลัง

 

11. วาทศิลป์

           หัวข้อนี้มาแปลกนะ และเป็นความสามารถที่ดูแปลกแตกต่างจากทุกซูเปอร์ฮีโร่ที่เราเคยรู้จักเลยล่ะ เป็นความสามารถพิเศษที่พ่วงมาในหัวข้อ "สติปัญญา" ที่ได้รับมาจากเทพโซโลมอน "วาทศิลป์"ของ Shazam!ช่ายหาทางออกในวิกฤตการณ์ได้หลายๆ ครั้ง แรกเริ่ม Shazam!จะเลือกเจรจากับศัตรูก่อนที่จะลงเอยด้วยการต่อสู้ วาทศิลป์ของ Shazam!เป็นความสามารถพิเศษที่เขาสามารถเอาชนะใจคู่ปรับได้แค่เพียงเจรจา Shazam!จะมีลีลาในการเจรจาที่นุ่มนวล ทำให้คู่ต่อสู้ใจอ่อนและตกลงโอนอ่อนได้ง่ายในหลายๆ ครั้งและลงเอยได้อย่างสันติ

 

12. ตาทิพย์

        เป็นความสามารถพิเศษที่ไม่รู้ว่าได้รับมอบมาจากเทพองค์ใด "ตาทิพย์"ของ Shazam!เป็นพลังที่เป็นประโยชน์ต่อเขาในหลายๆ สภาวะ อย่างเช่น เขาสามารถล่วงรู้ล่วงหน้าว่าที่แห่งไหนจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น Shazam!จะพุ่งไปที่นั่นล่วงหน้าเพื่อยับยั้งเหตุร้ายนั้น และในอีกกรณีเมื่อตกอยู่ในสภาวะคับขัน ตาทิพย์ของเขาจะวิเคราะห์สถานการณ์ล่วงหน้าให้ ว่าถ้าเขาจัดการกับสภานการณ์แบบนี้จะลงเอยอย่างไร หรือถ้าเขาจัดการอีกแบบจะออกมาแบบใด ทำให้เขาสามารถคิดวิเคราะห์และจัดการในทางออกที่ปลอดภัยที่สุด

 

13. ไม่ต้องกิน ดื่ม หรือนอนหลับ

          ในขณะที่พลังความสามารถต่างๆ ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่นั้นมีคำอธิบายถึงหลักการ หรือที่มาที่พอเข้าใจได้ในแบบการ์ตูน แต่หลายๆ พลังและความสามารถของ Shazam!ก็ไร้ซึ่งคำอธิบาย อย่างเช่นเขามีความเป็นอมตะได้โดยที่ไม่ต้องการอาหาร น้ำดื่ม หรือพักผ่อนนอนหลับแต่อย่างใด ชวนให้สงสัยว่าแท้จริงแล้ว Shazam!เป็นเทพเจ้า หรือมนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ ต้นกำเนิดของพละกำลังเอามาจากไหนโดยที่ไม่ต้องดื่มกินอะไร ก็ไม่มีคำอธิบายนะครับ ละไว้ซึ่งความเข้าใจว่า Shazam!เป็นการ์ตูนพอ

 

14. บินเร็วกว่าแสง

         ในวันที่ Shazam!และ Superman ถือกำเนิดนั้นทั้งคู่ต่างยังบินไม่ได้ แต่แล้วก็เป็น Shazam!ที่ค้นพบว่าตัวเองสามารถบินได้ภายในเล่มที่ 3 ส่วนซูเปอร์แมนนั้น ต้องผ่านไปเป็นปีถึงจะรู้ว่าตัวเองบินได้ แต่ความเร็วในการบินของซูเปอร์แมนก็ดู รุดหน้ามาก ถึงขนาดว่าสามารถบินทะลุมิติเวลาได้ ส่วน Shazam! ก็ไม่ยอมแพ้สามารถเร่งพลังความเร็วในการบินตัวเองให้เร็วกว่าความไวแสง จนครั้งหนึ่งเขาบินเร็วมากจนไปพบ "ศิลานิรันดร"

 

15. พลังสายฟ้าฟาด

       ในยุคเริ่มต้นนั้น สายฟ้าฟาดจากสวรรค์จะโผล่มาตอนที่บิลลี่ แบตสัน แปลงร่างเป็น Shazam!เท่านั้น แต่พอมาถึงยุคที่ ดี.ซี.คอมิกส์ ซื้อสำนักพิมพ์ฟอว์เซ็ตต์แล้วเป็นเจ้าของ Shazam!ดี.ซี.ก็เลยจับ Shazam!มาต่อสู้กับซูเปอร์แมน ในการต่อสู้นั้น  Shazam!ได้ใช้ฟลังสายฟ้าฟาด เรียกสายฟ้ามายิงใส่ซูํเปอร์แมนซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะคาดว่าจะทำให้ซูเปอร์แมนอ่อนกำลังลงได้

 

16. เคลื่อนดวงดาว

           Shazam!ถือกำเนิดหลัง Superman 1 ปี พลังและความสามารถหลายๆ อย่างของเขาใกล้เคียงกับซูเปอร์แมน เป็นเหตุให้สำนักพิมพ์ ดี.ซี ฟ้องร้องสำนักพิมพ์ฟอว์เซ็ตต์เจ้าของ Shazam! และชนะทำให้ Shazam!ต้องหยุดตีพิมพ์ ในช่วงต้นๆ ของ Shazam!นั้น เขาสามารถเหาะเหินไปในอวกาศสามารถผลักดันดวงดาวได้ ยิ่งกว่านั้นยังดันดวงอาทิตย์ได้อีกด้วย ยิ่งเขียนเรื่องราวต่อไป ผู้เขียนก็ยิ่งเพิ่มพลังและความสามารถให้ Shazam!มากขึ้นไปเรื่อยๆ จนสุดบรรยาย ภายหลังทาง สำนักพิมพ์เริ่มจะสำนึกได้ว่าพวกเขาพา Shazam!ออกทะเลไปไกล เลยค่อยๆ ลดระดับความสามารถของShazam!กลับมา ในยุคหลังๆ Shazam!เลยมีพลังในการหยุดอุกาบาตได้เท่านั้นพอ ไม่ถึงขั้นแข็งแกร่งขนาดผลักดันดวงดาวได้อีกแล้ว

 

17. ไม่มีอายุ

             คล้ายๆ กับข้อแรกล่ะในเรื่องที่ว่า Shazam!เป็นอมตะ แต่นั่นหมายถึงเฉพาะร่าง Shazam!ไม่เกี่ยวกับตัวบิลลี่ แบตสัน เจ้าเด็กน้อยวัย 12 ปีผู้ได้รับพลังจากพ่อมด เพราะตัวบิลลี่ยังมีความเป็นมนุษย์ ตัวเขาเจริญเติบโตขึ้นตามวัย แต่เมื่อเขาแปลงร่างเป็น Shazam!จะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งผ่านไปกี่ปี ร่างซูเปอร์ฮีโร่ก็จะยังคงวัยหนุ่มแน่นเท่าเดิมตลอดไป นี่คือพลังส่วนหนึ่งที่ได้รับจากเทพแอตลาส

 

18. พูดและเข้าใจได้ทุกภาษา

          ช่างเป็นความสามารถที่เวอร์วังเสียจริง จากพลังความปราชญเปรื่องที่ได้รับจากเทพโซโลมอน ส่งผลให้Shazam!สามารถสื่อสารได้ทุกภาษาบนโลกนี้ ถ้าคิดว่าน่าทึ่ง อย่าเพิ่งครับ ไม่เพียงแค่ภาษามนุษย์เท่านั้น Shazam!สามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ทุกชนิดอีกด้วย ถ้าบนโลกยังเท่ไม่พอ Shazam!ยังสามารถพูดกับมนุษย์ต่างดาวได้ทุกเผ่าพันธุ์ ยัง ยัง ไม่พอแค่นั้น ภาษาที่สูญหายเลิกใช้ไปแล้ว Shazam!ก็ยังพูดและฟังเข้าใจอีกด้วย มีหลายๆ ครั้งที่ Shazam!ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในอดีตแล้วเขาต้องเจอกับมนุษย์ดึกดำบรรพ์ Shazam! ก็ยังคุยกับเขารู้เรื่องอีกนะ

 

19. หมัดอะตอมมิก

 

 

         Shazam!ถือกำเนิดมาในช่วงต้นยุค 1940s เป็นช่วงที่สหรัฐคิดค้นระเบิดอะตอมมิกขึ้นมาได้ หรือที่โลกรู้จักกันว่า "ระเบิดนิวเคลียร์" นั่นล่ะครับ เมื่อระเบิดอะตอมเป็นของใหม่ในยุคนั้น จึงถูกใช้เสริมบรรยายเข้าไปกับสินค้า เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มี พลังงานสูงว่า "อะตอม" เช่นเดียวกับพลังหมัดของ Shazam!ก็ถูกตั้งชื่อว่า หมัดอะตอมมิก เป็นหมัดที่พลังทำลายล้างสูงมาก ขนาดที่ว่าต่อยไปโดนจุดไหนก็จะเกิดแรงระเบิดตูมขึ้นท้องฟ้าเป็นทรงดอกเห็ด เหมือนบริเวณที่โดนระเบิดนิวเคลียร์ถล่มแบบนั้นเลย

จนถึงปี 1945 เมื่อสหรัฐทิ้งระเบิดที่นางาซากิ และ ฮิโรชิม่า ในสงครามโลกครั้งที่ 2 คำว่าระเบิดอะตอม ค่อนข้างสะเทือนใจกับผู้ทีได้ยิน พลัง"หมัดอะตอมมิก"ของ Shazam!ก็เริ่มเลือนหายไปจากหน้าหนังสือการ์ตูนเช่นกัน

 

20. อมตะ

                  ความเป็นอมตะ น่าจะเป็นคุณลักษะพิเศษสูงสุดในตัว Shazam!แล้ว พลังส่วนนี้จะคล้ายๆ กับวูลฟ์เวอรีนที่สามารถเยียวยารักษาตัวเองได้ ไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสเพียงใด ถ้าใครได้ดูตัวอย่างหนัง Shazam!แล้วจะเห็นว่าเมื่อบิลลี่ แบตสัน ตะโกนคำว่า "ชาแซม"ออกไป จะมีสายฟ้าฟาดมาที่ตัวเขา แล้วบิลลี่ก็จะกลายร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ Shazam! สายฟ้านี้นอกจากจะแปลงร่างบิลลี่แล้วยังทำหน้าที่เยียวยาอาการบาดเจ็บสาหัสให้ Shazam! อีกด้วย

พบกับซูเปอร์ฮีโร่ Shazam! และพลังวิเศษหลากหลายของเขาได้พร้อมกัน 4 เมษายน นี้ครับ

 

ตัวอย่างภาพยนตร์