หลังจาก Warner Bros. ได้ส่ง Godzilla (2014) ออกมาช่วยลบล้างความทรงจำอันเลวร้ายที่มีต่อ Godzilla (1998) แล้วก็ต่อเติมอาณาจักร MonsterVerse ด้วย Kong: Skull Island (2017) ก้าวต่อไปของพวกเขาก็คือ Godzilla: King of the Monsters ที่จะพา ก็อดซิลล่า ไปเผชิญหน้ากับ 3 ศัตรูตัวฉกาจของเขาทั้งผีเสื้อราตรียักษ์ "ม็อธร่า", นกดึกดำบรรพ์ "โรดัน" และมังกรสามหัว "คิงกิโดรา" นอกจากนี้ King of the Monsters จะแนะนำให้พวกคุณได้รู้จักกับครอบครัวรัสเซลล์ที่ประกอบไปด้วย นักวิทยาศาสตร์ "เอ็มม่า" (เวร่า ฟาร์มิก้า) และสามีที่ระหองระแหงกันของเธอ "มาร์ค" (ไคล์ แชนด์เลอร์) รวมไปถึงลูกสาวของพวกเขา "เมดิสัน" (มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์)

         King of the Monsters จะเข้ามาขยายอาณาจักร MonsterVerse ก่อนที่ท้ายที่สุดมันจะนำไปสู่สงครามครั้งใหญ่ Godzilla Vs Kong ในปี 2020 ผู้กำกับ "ไมเคิล ดัคเฮอร์ตี้" ให้สัมภาษณ์กับ Total Film ว่า "ผมเป็นแฟนตัวยงของคอนเซ็ปนั้นเลย เวลาที่คุณคิดถึงมัน Toho [สตูดิโอญี่ปุ่นผู้อยู่เบื้องหลังแฟรนไชน์ Godzilla ชุดต้นฉบับ] ได้เริ่มสร้างจักรวาลแห่งนี้ขึ้นมา ตั้งแต่เมื่อยุค 60 จนถึง 70 จริงๆ แล้วยุค 50 ด้วยซ้ำถ้าคุณยังต้องการจะย้อนกลับไปอีก"

          ซึ่ง ดัคเฮอร์ตี้ ต้องการจะสื่อว่าตัวละคร "โรดัน" นั้นเคยมีหนังฉายเดี่ยวออกมาเมื่อปี 1956 ซึ่งเป็นเวลา 2 ปีหลังจากที่ก็อดซิลล่าได้เปิดตัวออกมาเป็นครั้งแรก แล้วจากนั้นหนังฉายเดี่ยวของ "ม็อธร่า" ก็ถูกปล่อยออกมาในปี 1961 และหนังครอสโอเวอร์ก็เริ่มมีมาตั้งแต่ยุค 60 แล้วนั่นเอง ดัคเฮอร์ตี้ ทิ้งท้ายไว้ว่า "สิ่งที่ผมรักเกี่ยวกับการแนวทางการจัดการของ แกเร็ธ ก็คือมันเป็นอะไรที่พื้นฐานมากๆ แล้วมันก็จริงมากๆ ด้วย มันรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่คุณจะได้เห็นถ้าคุณลองมองออกมานอกหน้าต่าง แล้วจากนั้น จอร์แดน โว้ค-โรเบิร์ต ก็ผลักมันไปต่อ แล้วก็แต่งแต้มสีสันและความมีชีวิตชีวาเข้าไปในโครงสร้างของเขา ผมอยากที่จะสานต่อวิวัฒนาการนั้น"

เตรียมพบกับการต่อสู้สุดยิ่งใหญ่ของเหล่าอสูรกายยักษ์ได้ใน "Godzilla: King of the Monsters" 30 พฤษภาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์