15 อีสเตอร์เอ้ก จาก Spider-Man: Into The Spider-Verse

Movie News17 มกราคม 2562

** บทความสำหรับผู้ที่ชมภาพยนตร์แล้วเท่านั้น **

 

         ตามธรรมเนียมของหนังซูเปอร์ฮีโร่ ก็มักจะต้องมีอีสเตอร์เอ้กซุกซ่อนไว้ ให้คนดูได้สนุกกับการสอดส่องหา และเป็นการเชือมโยงเรื่องราวของตัวเองกับหนังเรื่องอื่นในจักรวาลเดียวกัน และเชื่อมโยงกับต้นฉบับที่เป็นหนังสือการ์ตูน ไม่เพียงแต่หนังคนแสดงในจักรวาลมาร์เวลเท่านั้น Spider-Man: Into The Spider-Verse อนิเมชั่นเรื่องล่าสุดจากจักรวาลมาร์เวล ก็มีอีสเตอร์เอ้กซุกซ่อนไว้อยู่มากเช่นกัน และนี่คือ 15 อีสเตอร์เอ้กที่เราสังเกตเห็น

 

1. ตราประทับจากหน่วยงานควบคุมและดูแลหนังสือการ์ตูน Comics Code Authority (CCA)



           สิ่งหนึ่งที่แปลกใหม่เพิ่มมาในตอนต้นของหนัง SPIDER-MAN: INTO THE SPIDER-VERSE ก็คือตราประทับจาก หน่วยงานควบคุมดูแลการ์ตูนแห่งสหรัฐอเมริกา Comics Code Authority (CCA) ใส่เข้ามาเพื่อรำลึกความคลาสสิกของการ์ตูน สไปเดอร์-แมน ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1962 ในยุคที่การ์ตูนในสหรัฐอเมริกายังต้องมีหน่วยงานเข้ามาควบคุมดูแลเนื้อหาให้มีความเหมาะสมกับเด็กและเยาวชน ที่เริ่มมีการกำหนดใช้มาตั้งแต่ปี 1954 ถ้าเรื่องไหนผ่านการพิจารณาก็จะมีตราประทับ เช่นเดียวกับ การ์ตูนสไปเดอร์-แมนที่ถือกำเนิดมาในยุคนั้น ทุกเล่มจะต้องมีตราประทับจาก Comics Code Authority (CCA) อยู่บนหน้าปก ปัจจุบันตราประทับเลิกใช้ไปแล้วตั้งแต่ปี 2001

 

2. แมงมุมหลายเลข #42



          ข้อมูลอ้างอิงเรื่องนี้ลึกซึ้งมาก แต่แฟนๆ นิยายวิทยาศาสตร์น่าจะเข้าได้ลึกซึ้งกว่า หมายเลข #42 นี้เราเห็นได้จากหลังของแมงมุมที่หลุดมาจาก อัลชีแมกซ์ คอปอเรชั่น แล้วมากัดไมล์ โมราเลส เราเห็นหมายเลข #42 อีกครั้ง ในฉากที่ไมล์ โมราเลส ร่วงหล่นมาบนถนนในการฝึกซ้อมพลังแมงมุมครั้งแรก หมายเลข #42 นี้ เป็นหมายเลขหลักที่ถูกพูดถึงในนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดัง Hitchhiker's Guide to the Galaxy ที่ตีพิมพ์ในปี 1979 ประพันธ์โดย ดักลาส อดัม โดยในเนื้อหาของนิยายนั้นกล่าวว่า จำนวน 42 นั้นคือ "คำตอบถึงคำถามสุดท้ายของชีวิต , จักรวาล และ ทุกๆ สิ่ง" เป็นคำตอบที่ได้จากการคำนวณของอภิมหาคอมพิวเตอร์ที่ชื่อ Deep Thought ใช้เวลาในการคำนวณถึง 7.5 ล้านปี แต่เหตุที่ถูกนำมาใส่ในหนัง ก็เพราะ ไบรอัน ไมเคิล แบรนดิส นักเขียนผู้ให้กำเนิด ไมล์ โมราเลส นั้นชื่นชอบนิยายเรื่องนี้มาก แค่นั้นล่ะ

 

3. ชื่อในโทรศัพท์ของไมล์ โมราเลส



          มีตอนที่ไมล์ หยิบโทรศัพท์มาไล่รายชื่อเพื่อจะโทรออก จะมีชื่อ S.Ditko ปรากฏให้เห็น ชื่อนี้ใส่เข้ามาเพื่อเป็นการคารวะต่อ สตีฟ ดิตโก นักเขียนผู้ร่วมสร้างสรรค์ สไปเดอร์-แมน ร่วมกับ สแตน ลี , ซึ่งสตีฟ ดิตโก ก็เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ มิถุนายน 2561 ล่วงหน้าไปก่อน สแตน ลี ได้ 5 เดือน

 

4. อัลชีแมกซ์ คอปอเรชั่น



           บริษัท อัลชีแมกซ์ คอปอเรชั่น เป็นองค์กรร้ายที่มีบทบาทอยู่ในจักรวาลมาร์เวล เป้าหมายขององค์กรคือการทดลองเชื่อมโยงระหว่างมิติเข้าด้วยกัน และมีบทบาทสำคัญในการ์ตูน Spider-Man 2099 เป็นองค์กรที่ มิเกล โอฮารา พระเอกของเรื่องทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์อยู่ที่นี่ และได้รับพลังของแมงมุมทำให้เขากลายเป็น สไปเดอร์-แมน 2099 ซึ่งถ้าใครอยู่ดูฉากโพสต์เครดิตหลังหนังจบ ก็จะได้เห็น สไปเดอร์-แมน 2099 ออกมาปรากฏตัว

 

5. สดุดีให้กับ สไปเดอร์-แมน ไตรภาคของ แซม ไรมี



           ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ คนผมบลอนด์ ที่มาจากต่างมิติ ได้เล่าวีรกรรมตลอด 12 ปีในฐานะสไปเดอร์-แมนให้ฟัง ผ่านภาพแฟลชแบ็คแบบรวดเร็ว และทุกภาพล้วนเป็นภาพวีรกรรมเด่นๆ จากหนังไตรภาคของแซม ไรมี ทั้งสิ้น ที่เราสังเกตได้ชัดๆ ก็ภาพฉากหยุดรถไฟฟ้า ฉากห้อยหัวจูบ และ ท่าเต้นหน้าตึกของโทบี้ แม็กไกวร์ ผู้รับบทสไปเดอร์-แมนในยุคนั้น

 

6. มาร์เวลมีหลายจักรวาล



         สำนักพิมพ์มาร์เวล ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1939 เท่ากับว่าตอนนี้มีอายุได้ 80 ปี สร้างสรรค์ตัวละครมามากกว่า 8,000 ตัว และที่สำคัญเหล่านักเขียนได้สร้างจักรวาลต่างๆ ไว้มากมาย ถ้าอธิบายสั้น ๆ ตรงนี้ คือบรรดาหนังคนแสดงที่เราดูกันอยู่มีเหล่า อเวนเจอร์สอยู่นั้นมีชื่อจักรวาลว่า Earth 616 ถ้าใครได้ดู SPIDER-MAN: INTO THE SPIDER-VERSE จะรู้แล้วว่า ไมล์ โมราเลส นั้นอยู่คนละจักรวาลกับปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ซึ่งก็คือคนละจักรวาลกับบรรดาหนังมาร์เวลทุกเรื่องที่เราดูกันอยู่นั่นเอง สไปเดอร์-เกว็นนั้นมาจากจักรวาล Earth 65 , สไปเดอร์-นัวร์มาจากจักรวาล Earth 90214 , เพนิ ปาร์คเกอร์ มาจากจักรวาล Earth 14512 และ สไปเดอร์-แฮม มาจากจักรวาล Earth 8311 ส่วนสไปเดอร์-แมน 2099 นั้นมาจากจักรวาล Earth 928 สับสนกันหรือยังล่ะ

 

7. ทูมบ์สโตน



           ในหนังเราจะเห็นสมุนมือขวาของคิงพิน ที่หน้าตาเหมือนแฟรงเกนสไตน์ เจ้าวายร้ายตัวนี้มีชื่อว่า "ทูมบ์สโตน" เป็นวายร้ายที่อยู่ในจักรวาลมาร์เวล มายาวนานเหมือนกัน มีบทบาทกับซูเปอร์ฮีโร่หลายตัวเช่น ลุค เคจ , ไอออนฟิสต์ , แดร์เดวิล , เดดพูล ทูมบ์สโตน มีความสามารถอย่างยิ่งยวดในการต่อสู้ด้วยมือเปล่า แต่ก็มีพละกำลังมหาศาลยกวัตถุที่น้ำหนัก 6 ตันได้สบาย

 

8. ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ผมบลอนด์



        ในหนังเราจะเห็นว่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ จากต่างจักรวาลนั้นมีผมบลอนด์ อาจจะเป็นการอ้างอิงถึง เบ็น ไรลีย์ อีกหนึ่งสไปเดอร์-แมนใน Earth 616 เบ็น ไรลีย์ เป็นร่างโคลนของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ที่เกิดจากฝีมือของ แจ็คกัล , เบ็น ไรลีย์ จึงทำ หน้าที่เป็นสไปเดอร์-แมนอีกรายหนึ่งใช้ชื่อว่า "สคาร์เล็ต-สไปเดอร์" เบ็น ไรลียร์ ถือกำเนิดในการ์ตูน Amazing Spider-Man #149 (ตุลาคม 1975) เดิมทีเขามีผมสีน้ำตาล แต่ก็ย้อมผมตัวเองให้เป็นสีบลอนด์ และเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เขา ที่เวลาแฟนดั้งเดิมของเห็น สไปเดอร์-แมนผมบลอนด์ ก็ต้องนึกถึง เบ็น ไรลีย์

 

9. สแตน ลี



       เชื่อว่าหลายๆ คนไม่น่าพลาดฉากนี้ ในตอนที่ปีเตอร์ ปาค์เกอร์ ผู้อยู่ร่วมจักรวาลเดียวกับไมล์ โมราเลส ได้เสียชีวิตลง , ตัวละครที่ถ่ายทอดภาพลักษณ์ของสแตน ลี ทำหน้าทีเป็นคนขายในร้านของที่ระลึกสไปเดอร์-แมน และได้พูดกับไมล์ ว่า "ฉันคิดถึงเขาจริงๆ" ซึ่งคำนี้เองก็สะท้อนความรู้สึกของแฟนๆ ที่มีต่อสแตน ลี เองเช่นกัน

 

10. คิงพิน



           มีชื่อจริงว่า "วิลสัน ฟริสค์" เป็นวายร้ายที่แฟนๆ การ์ตูนมาร์เวลจะรู้จักกันดีในฐานะผู้ร้ายตัวสำคัญในการ์ตูน "แดร์เดวิล" แต่ความจริงแล้ว คิงพิน ถือกำเนิดในการ์ตูนสไปเดอร์-แมน ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูน Amazing Spider- Man No. 50 ปี 1963 เขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากับสไปเดอร์-แมน อยู่นานก่อนจะย้ายไปเป็นคู่ปรับกับแดร์เดวิล ในเวอร์ชั่นแรกของคิงพินเป็นแค่ชายร่างใหญ่ แต่เมื่อ บิล เซียนคีวิคซ์ มารับผิดชอบการ์ตูน แดร์เดวิล ในตอน "Daredevil: Love and War" เขาก็เริ่มสร้างสรรค์ภาพลักษณ์ใหม่ให้กับคิงพิน ด้วยการเขียนให้คิงพินเป็นชายร่างใหญ่แต่มีช่วงไหล่ที่กว้างมากกกก อย่างทีเห็นในหนังนี่เอง

 

11. เลดี้ ออคโตพุส



         เป็นอีกตัวละครเก่าแก่ในจักรวาลมาร์เวล แต่เลดี้ ออคโตพุส ในหนังกับในหนังสือการ์ตูน แทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน นอกจากภาพลักษณ์ที่คล้ายกันเท่านั้น ในหนังนั้นเธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ "ลิฟ" แต่ในหนังสือการ์ตูนนั้นเธอเริ่มปรากฎตัวในหนังสือการ์ตูน Amazing Spider-Man #405(กันยายน , 1995) มีชื่อว่า แคโรลีน เทรนเนอร์ เป็นลูกศิษย์คนโปรดของ ดร.ออตโต สเปนเซอร์ หรือ ดร.ออคโตพุส วายร้ายที่รู้จักกันดีของสไปเดอร์-แมน นั่นแหละ หลังจาก ดร.ออคโตพุส  ตายไป แคโรลีน ก็นำเอาชุดออคโตพุสที่มีงวงติดหลังไปพัฒนาต่อ และกลายเป็นเลดี้ ออคโตพุส

 

12. หลากหลายชุดสไปเดอร์-แมน



          ในฉากที่ป้าเมย์พาไมล์ โมราเลส และ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ต่างจักรวาล ไปเยี่ยมชนฐานทัพของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ หลานของป้าเมย์ในจักรวาลนี้ ในฐานทัพนั้น ไมล์ โมราเลส รู้สึกตื่นเต้นกับบรรดาชุดหลากหลายรูปแบบของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ที่อยู่ในตู้โชว์ ที่จริงแล้วทุกชุดนั้นมีแหล่งอ้างอิงจากเหตุการณ์ในหนังสือการ์ตูนแทบทั้งสิ้น  ชุดเกราะสไปเดอร์จากตอน Civil War , ชุดสอดแนมจากตอน the Secret War และอีกหลายชุดของ สคาร์เล็ต-สไปเดอร์ แถมยังมีชุดล่าสุดของสไปเดอร์-แมนจากเกม Playstation4 อีกด้วย

 

13. สไปเดอร์-บักกี้



       เป็นชื่อของพาหนะประจำตัวของสไปเดอร์-แมนในหนังสือการ์ตูนยุค 70s เป็นรถทรงคล้ายรถจี๊ป เป็นรถขนาดเล็กไม่มีหลังคาและประตู มามองย้อนไปในยุคนี้ ช่างเป็นรถที่ไม่เท่ ไม่เหมาะกับซูเปอร์ฮีโร่เอาเสียเลย ช่างต่างกับแบตโมไบล์ลิบลับ ดีแล้วที่สไปเดอร์-แมนยุคใหม่ไม่ใช่เจ้าคันนี้ เราเห็นเจ้าคันนี้แวบๆ จอดอยู่ในฐานทัพใต้ดินของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์เช่นกัน

 

14. สไปเดอร์-แมน 2099



            เป็นสไปเดอร์-แมนคนที่ 7 ที่โผล่มาในโพสต์เครดิตซีน 2099 เป็นอีกหนึ่งสไปเดอร์-แมนที่มีประวัติยาวนานเพราะถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุค1990s ตัวตนของเขามีชื่อว่า มิเกล โอฮาร่า เป็นสไปเดอร์-แมนในอีกจักรวาลของมาร์เวลที่ชื่อ Marvel  Universe of 2099 เป็นยุคอนาคตที่โลกปกครองโดย อัลชีแมกซ์ องค์กรระดับโลก มิเกล เป็นนักวิทยาศาสตร์ประจำองค์กรนี้เขาเป็นผู้คิดค้นเทคนิคในการกำหนดพันธุกรรมใหม่ให้มนุษยชาติได้แต่มิเกลรู้ว่าถ้าเทคนิกนี้ตกทอดไปถึงมือ นายใหญ่ขององค์กรผู้ไร้ศีลธรรมจะเป็นภัยต่ออนาคตของมนุษยชาติแน่นอน มิเกล เลยหนีออกจากองค์กรและเอาสูตรลับนี้ออกมาด้วย มิเกล ดำเนินการทดลองต่อด้วยตัวเองและจะใช้ตัวเองเป็นหนูทดลองกับสูตรที่เขาคิดค้นขึ้นเอง แต่เพื่อนร่วม งานขี้อิจฉาก็ตามมาเจอตัวมิเกลเสียก่อนแล้วแอบสลับดีเอ็นเอในการทดลองของมิเกล กับดีเอ็นเอของสไปเดอร์-แมนและนั่นคือจุดกำเนิดของ Spider-Man 2099 เขามีพลังและความสามารถใกล้เคียงกับสไปเดอร์-แมนดั้งเดิมแต่ก็มีหลายความสามารถที่พิเศษกว่าเช่น เขามีกรงเล็บที่มือและเท้า มีเขี้ยวที่ปล่อยพิษได้และสายตาที่มองเห็นในระยะไกล

 

15. การ์ตูนสไปเดอร์-แมน ยุค 60s



        ในฉากโพสต์เครดิต นอกจากการปรากฏตัวของ สไปเดอร์-แมน 2099 แล้วก็ยังมีการ์ตูนสไปเดอร์-แมน ที่เคยแพร่ภาพตอนเช้าวันเสาร์ในสหรัฐอเมริกา ตัดบางส่วนมาให้ชมกัน แถมยังมีเพลงธีมดั้งเดิมของสไปเดอร์แมนด้วย เป็นการคารวะให้กับ ความคลาสสิกของการ์ตูนสไปเดอร์-แมนยุคดั้งเดิม