กาปฏิทินไว้เลย! 5 หนังไทยที่เตรียมเข้าฉายก่อนสิ้นปี

Movie News26 พฤศจิกายน 2561

          ใกล้จะสิ้นปีกันแล้ว วงการหนังไทยก็ดูเหมือนจะกลับมาคึกคักพร้อมส่งหนังสุดปัง 5 เรื่อง 5 รสที่เตรียมเข้าฉายเพื่อสร้างความสุขและมอบรอยยิ้มให้กับคนไทยส่งท้ายปีเก่า ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้าง คอหนังไทยทั้งหลายเตรียมกาปฏิทินรอดูกันได้เลย!

 

1. รักแท้.. แพ้แรงดึงดูด (เข้าฉาย 29 พฤศจิกายน)



        เริ่มต้นกันที่หนังรักที่อัดแน่นด้วยนักแสดงชื่อดังฝีมือคุณภาพ ซึ่งหนังเล่าเรื่องราวของ 'ฟ้า' (จรินทร์พร จุนเกียรติ) ผู้หญิงที่ไร้ระเบียบแบบแผนในชีวิต ไม่เชื่อในความรักและพรหมลิขิตกำลังตามแก้เผ็ดกับเหล่าอดีตคนรักที่ทำให้เธอผิดหวัง แต่นั่นกลับทำให้เธอได้พบกับ 'เซน' (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) ชายหนุ่มสุดเพอเฟกต์ที่เหมือนกับชะตาถูกขีดให้ทั้งสองคนมาพบกัน เซนต้องมาคอยดูแลผู้หญิงแปลกหน้าที่เมาสุดๆ แต่ก็น่ารักสุดๆ และการได้อยู่กับฟ้าทำให้เซนได้รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาของทั้งคู่ ทั้งสองอยู่ในสถานที่เดียวกันและเฉียดผ่านกันมาตลอด แต่ในค่ำคืนที่แสนประทับใจนั้นทั้งสองคนจากกันด้วยคำท้าว่าถ้าเราต่างเป็นพรมลิขิตกันจริงทั้งคู่จะได้เจอกันโดยที่ไม่ทิ้งการติดต่อให้กันและกันเลย จนเมื่อถึงช่วงลาพักร้อน ฟ้าวางแผนกับเพื่อนๆ ว่าจะไปเที่ยวเซนได โดยมี 'เต้' (หลุยส์ สก๊อต) นักบินสุดหล่อเพื่อนสนิทที่แอบชอบและคอยดูแลฟ้ามาตลอด ในทริปนี้ที่เต้คิดว่าจะใช้เวลาพิชิตใจฟ้าให้ได้ ท่ามกลางแรงเชียร์ของเพื่อนๆ ที่อยากให้ฟ้าลงเอยกับเต้เสียที

แต่แค่เริ่มต้นทริปก็เกิดเหตุผิดพลาดจากการจองโรงแรมผิดทำให้กรุ๊ปทัวร์ของฟ้าต้องออกตามหาที่พักกันจ้าละหวั่น ก่อนจะได้คำแนะนำจากนักเรียนไทยด้วยกันให้ไปเรียวกังที่หนึ่ง ซึ่งฟ้าก็แทบช๊อกเมื่อพบว่าเรียวกังแห่งนั้นมี 'เซน' เป็นเจ้าของอยู่ เมื่อชะตา ลิขิตให้ 'เขา' และ 'เธอ' ได้มาเจอกันอีกครั้ง แล้วฟ้าจะตัดสินใจอย่างไร เมื่อเกิดสงครามชิงนางระหว่าง "คนที่ฟ้าลิขิตเพื่อเธอ" กับ "คนที่ทุ่มเทเพื่อเธอ" สุดท้ายแล้วผู้หญิง (ที่ดูเหมือน) สวยเลือกได้อย่างฟ้าจะเลือกใคร หรือจะขอครองความเป็นโสดต่อไป

 

2. หอแต๋วแตก แหกต่อไม่รอแล้วนะ (เข้าฉาย 5 ธันวาคม)



          "หอแต๋วแตก" คือตำนานหนังตลกผลงานการกำกับของสุดยอดผู้กำกับอย่าง "พชร์ อานนท์" ที่สร้างมาเป็นจักรวาลที่ยิ่งใหญ่และไม่ว่าจะสร้างมากี่ภาคก็สามารถสร้างเสียงหัวเราะและเป็นขวัญใจหนังตลกที่แฟนๆ คอยติดตามอยู่เสมอ ซึ่งในภาคนี้เหล่าเจ๊ๆ เจ้าของหอพักจะกลับมากันเกือบครบทีมอีกครั้งเพื่อรับรางวัลสุดพิเศษในการเป็นเจ้าของคฤหาสน์สไตล์อาหรับ และในอีกด้านหนึ่ง "ผีแพนเค้ก" ก็กำลังจะได้ไปเกิดใหม่แต่ก็ต้องแลกกับเงื่อนไขที่เธอต้องห้ามด่า ห้ามพูดคำหยาบใดๆ ทั้งสิ้น แล้วอย่างนี้แพนเค้กจะทำได้หรือไม่? ต้องติดตามใน "หอแต๋วแตก แหกต่อไม่รอแล้วนะ" ซึ่งนอกจากจะได้เห็นการกลับมาของเหล่านักแสดงหน้าเก่าแล้ว ในภาคนี้ยังมีนักแสดงหน้าใหม่สบทบกันอย่างคับคั่ง รับประกันความฮากระจาย หัวเราะลั่นโรงแน่นอน!

 

3. Ten Years Thailand (เข้าฉาย 13 ธันวาคม)



            ภาพยนตร์เรื่อง Ten Years Thailand เป็นโครงการภาพยนตร์ขนาดยาวที่ประกอบด้วยภาพยนตร์สั้น 4 เรื่องประกบกัน จํากัดความยาวเรื่องละไม่เกิน 20 นาที โดยมีโจทย์กำหนดแบบเปิดกว้าง ตั้งคำถามและความหมายของ 'อนาคต' ผ่านมุมมองของผู้กำกับแต่ละคน ทั้งผู้กำกับ ที่มีชื่อเสียงและมีผลงานเป็นที่รู้จัก นอกจากนั้นยังเปิดพื้นที่สำหรับสนับสนุน คนทำหนังรุ่นใหม่ โดยคัดเลือกผลงานจากผู้กำกับที่มีความโดดเด่น เพื่อผลักดันให้เกิดผลงานขนาดยาวในโอกาสต่อไป เรื่องแรกคือ "SUNSET by Aditya Assarat" เป็นภาพยนตร์ที่เล่าโมงยามน้อยนิด ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความรักระหว่างแก่นและแอ๋น หนุ่ม สาวจากต่างจังหวัดที่มาทำงานในกรุงเทพ, เรื่องที่สองคือ "CATOPIA by Wisit Sasanatieng" เป็นเรื่องของโลกยุคดิสโทเปีย เมื่อชายผู้หนึ่งพบว่าตัวเองเป็นมนุษย์คนเดียวที่หลงเหลืออยู่ และกำลังใช้ชีวิตประจำวันที่แสนปรกติ ท่ามกลางประชากรที่เป็นแมว, เรื่องที่สามคือ "PLANETARIUM by Chulayarnon Siriphol" เป็นภาพยนตร์แนวแฟนตาซีเหนือจริงที่จำลองการทำงานขององค์กรสื่อสารใน 10 ปีข้างหน้า และเรื่องสุดท้ายคือ "SONG OF THE CITY by Apichatpong Weerasethakul" เป็นภาพยนตร์แนวทดลองที่เล่าคู่ขนานระหว่างขั้นตอนคัดเลือกนักแสดงและการบันทึกการถ่ายทำเรื่องราวของเซลล์แมนที่พยายามขายเครื่องที่สามารถทำให้หลับฝันดีและมีความสุข

 

4. สิงสู่ (เข้าฉาย 13 ธันวาคม)



         สิงสู่เป็นผลงานเรื่องล่าสุดจากผู้กำกับมากฝีมืออย่าง "วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง" ที่เคยฝากผลงานหลอนขนหัวลุกไว้ใน "เป็นชู้กับผี" ซึ่งการกลับมาคราวนี้ผู้กำกับวิศิษฏ์ได้หยิบเอาเรื่องราวของการถูกผีสิงที่ยังไม่มีผู้กำกับไทยคนไหนเคยทำมาก่อนมาเล่าเรื่องราวของสำนักบนเขาที่โดดเดี่ยวห่างไกล ในวันที่บรรยากาศอึมครึมและฝนตกหนัก คนชุดดำ 6 คนมารวมตัวกันนำโดยนายแม่ หญิงชราผมขาวหน้าตาน่าเกรงขาม ทำพิธีกรรมปริศนาบางอย่าง โดยมีศพลึกลับเป็นเป้าหมาย แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าพิธีกรรมนั้นได้ไปปลุกวิญญาณแปลกหน้าที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้ามาในบ้าน และหลังจากนั้นความสยองขวัญสุดขีดก็เริ่มต้นขึ้น ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณร้ายที่ไม่สามรถคาดเดาได้เลยว่ามันจะสิงใคร เมื่อไหร่ ด้วยวิธีใด และมันไม่ได้จะเข้าสิงเพื่อทำให้กลัวเท่านั้น แต่สิ่งที่มันต้องการที่สุดแล้วคือ การฝังราก..ยึดวิญญาณ ของใครสักคนในที่นี้

 

5. ขุนบันลือ (เข้าฉาย 27 ธันวาคม)



           ส่งท้ายท้ายปีด้วยหนังตลกที่จะมามอบสร้างความสุขและเสียงหัวเราะกับเรื่องราวเกิดขึ้นในสมัย รศ. ๑๒๓ (พ.ศ. ๒๔๔๗) เมื่อขุนบันลือ (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ได้รับมอบหมายให้ไปทำธุระราชการที่ เมืองเชียงราย   แต่ขุนบันลือเองกลับกังวลใจ เพราะถูกมด (เอ็นดู วงษ์คำเหลา) ทาสหญิงที่ขุนบันลือแอบมีความสัมพันธ์ด้วยจับได้ว่าท่านขุนเคยมีซัมติงกับซัมวันที่เมืองเชียงรายมาก่อน รวมถึงความชุลมุนวุ่นรัก เมื่อเพื่อนรักของท่านขุน พาลูกสาวลูกชาย มาฝากให้ช่วยดูแลระหว่างที่ไปราชการที่ต่างประเทศและทั้งคู่กลับมีเรื่องชอบพอกับบรรดาทาสในเรือนท่านขุนซะอีก เรื่องราวความรักระหว่างชนชั้นจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ยันรุ่นลูก ท่านขุนจะหาทางออกยังไง มาติดตามกัน