7 เกร็ดน่ารู้จากหนังสือ How the Grinch Stole Christmas!

Movie News9 พฤศจิกายน 2561

1. ธีโอดอร์ ซุสส์ จิเซล ผู้พิมพ์เผยแพร่หนังสือภายใต้ชื่อ ดร.ซุสส์ ได้สร้างตัวละคร กริ๊นซ์ ขึ้นมาครั้งแรกใน "The Hoobub and The Grinch" ซึ่งเป็นบทกลอนภาพขนาด 32 ประโยคที่เปิดตัวในหนังสือแม็กกาซีน Redbook ในเดือนพฤษภาคม ปี 1955 ในกลอนบทนั้น กริ้นต์คือตัวร้ายที่พยายามเกลี้ยกล่อมฮูบั๊บ ซึ่งกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ในแสงอาทิตย์อย่างมีความสุข เพื่อให้เอาดวงอาทิตย์มาแลกกับเส้นใยสีเขียว

 


2. แรงบันดาลใจของจิเซลในการสร้างตัวกริ๊นซ์ขึ้นมาใน How the Grinch Stole Christmas! เกิดมาจากที่ที่น่าแปลกใจมาก นั่นก็คือตัวเขาเอง "ผมกำลังแปรงฟันอยู่ในตอนเช้าของวันที่ 26 ของเดือนธันวาคม เมื่อตอนที่ผมสังเกตเห็นสีหน้าแบบกริ๊นซ์ในกระจก" เขาเล่าในแม็กกาซีน Redbook ในเวลาต่อมา "มันคือซุสส์! ดังนั้นผมก็เลยเขียนเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนสุดแสบของผมอย่าง กริ๊นซ์ เพื่อดูว่าผมจะสามารถค้นพบบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับคริสต์มาสที่ผมทำสูญหายไปได้หรือไม่"



3. How the Grinch Stole Christmas! บอกเล่าเรื่องราวของตัวเกลียดมนุษย์ขี้หงุดหงิดที่อาศัยอยู่ในถ้ำบนเขาครัมเพ็ทกับแม็กซ์ หมาของเขา เขาหลีกเลี่ยงการพบปะกับชาวฮูวิลล์ที่อยู่ด้านล่างหุบเขา แต่ในทุกปี ในการเฉลิมฉลองคริสต์มาสที่เป็นงานใหญ่ของพวกเขา ที่จะมีแต่เสียงดัง เสียงดัง เสียงดัง และเสียงดัง โดยเฉพาะการร้องเพลงของพวกเขา ทำให้ตัวเกลียดมนุษย์รู้สึกเสียสมาธิ เขาจึงตัดสินใจที่จะลงไปขโมยคริสต์มาส โดยปลอมตัวเป็นซานตาคลอสในคืนคริสต์มาสอีฟ เขากวาดเอาของเล่นทุกชิ้น ต้นคริสต์มาสในเมือง แต่เมื่อเขาบังคับรถลากเลื่อนไปเหนือเมืองฮูวิลล์ในเช้าของวันคริสต์มาส เขากลับไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ แต่เป็นเสียงร้องเพลงแทน เขาจึงรู้ตัวว่าคริสต์มาสมีความหมายมากไปกว่าของขวัญและการตกแต่ง มันทำให้หัวใจของเขา "เติบโตขึ้นสามขนาดในวันนั้น" และเขาก็เดินทางกลับเข้าไปในเมืองเพื่อคืนของขวัญและของตกแต่งทั้งหมด และร่วมฉลองไปกับชาวเมือง



4. จิเซลเขียนหนังสือเล่มนี้เสร็จอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่อาทิตย์ ตามหนังสือชีวประวัติในปี 1995 เรื่อง Dr. Seuss & Mr. Geisel ที่เขียนโดย จูดิธ มอร์แกน และนีล มอร์แกน โดยจิเซลได้กล่าวเอาไว้ว่ามันคือหนังสือที่เขาเขียนออกมาได้ง่ายที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา แต่เขากลับมีปัญหาว่าจะจบเรื่องยังไงในแบบที่ให้ความรู้สึกที่เป็นสากล "ผมลงเอยด้วยการทำให้กริ๊นซ์พ้นจากความวุ่นวาย" จิเซลเคยกล่าวเอาไว้ "ผมใส่สถานการณ์ที่ผมเหมือนเป็นนักเทศน์ระดับสอง ในที่สุด ด้วยความสิ้นหวัง ไม่รู้จะกล่าวอะไร ผมให้กริ๊นซ์และชาวฮูมาอยู่ด้วยกันที่โต๊ะ และเล่นกับการให้กริ๊นซ์หั่นเนื้อย่าง ผมผ่านการตัดสินใจเลือกในเชิงศาสนาเป็นพันๆ อย่าง จากนั้นหลังจากผ่านไปสามเดือน มันก็ออกมาเป็นแบบนั้นครับ"



5. หนังสือ How the Grinch Stole Christmas! ถูกตีพิมพ์โดยแรนดอมเฮ้าส์ในปี 1957 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่หนังสือ The Cat and the Hat ถูกพิมพ์เผยแพร่ แต่ Grinch คือหนังสือเล่มแรกของซุสส์ที่มีผู้ร้ายเป็นตัวเอก และกลายมาเป็นที่รักของทุกคนทันที "ถึงแม้คุณจะชอบดร.ซุสส์เพราะอารมณ์ขบขัน แต่คุณก็ต้องยอมรับว่ามันมีแง่มุมในเชิงศีลธรรมอยู่  ไม่มีใครที่ทำได้เบิกบานเท่านี้อีกแล้ว" The New York Times ได้เขียนวิจารณ์เอาไว้ "คนอ่านติดตามจังหวะที่เดือดพล่านและภาพที่แสนประหลาด จนกระทั่งเกิดความรู้สึกโล่งอกเมื่อกริ๊นซ์เกิดกลับใจ และปิดท้ายด้วยความรู้สึกที่ดี” Kirkus Review ประกาศให้ตัวละครกริ๊นซ์ “เป็นตัวละครในช่วงคริสต์มาสที่ดีที่สุดนับแต่สครูจ"



6. เกือบหนึ่งทศวรรษต่อมา หนังสือ How the Grinch Stole Christmas! ได้ถูกนำไปดัดแปลงไปเป็นรายการพิเศษทางทีวีที่กำกับโดย ชั๊ค โจนส์ และให้เสียงโดย บอริส คาร์ลอฟฟ์ ซึ่งให้เสียงเป็นทั้งกริ๊นซ์และผู้เล่าเรื่อง สำหรับรายการพิเศษนี้ จิเซลได้เขียนเนื้อร้องให้กับเพลงคริสต์มาส "Welcome Christmas" ที่ทุกคนชื่นชม และเพลงคลาสสิกอย่าง "You're A Mean One, Mr. Grinch"



7. รายการพิเศษที่ว่านี้ออกอากาศครั้งแรกทาง CBS ในวันที่ 18 ธันวาคม ปี 1966 และถูกนำมาออกอากาศซ้ำในเดือนธันวาคมของทุกปีตลอด 22 ปีต่อมา ทำให้ How the Grinch Stole Christmas! ติดตราอยู่ในจิตสำนึกของคนทั้งชาติ ในปี 2004 TV Guide ได้จัดอันดับให้มันติดอันดับ 10 รายการพิเศษสำหรับครอบครัวในช่วงเทศกาลยอดเยี่ยม และตลอดหลายปีที่ผ่านมา รายการนี้ก็ยังคงเป็นรายการที่คนในครอบครัวนั่งดูด้วยกันรุ่นแล้วรุ่นเล่า จนเป็นธรรมเนียมที่มีความสุขประจำเทศกาลเฉลิมฉลอง และยังเป็นสิ่งที่เตือนให้ระลึกถึงความหมายที่แท้จริงของคริสต์มาส นั่นก็คือ ความรัก การให้อภัย และความมีน้ำใจ

ล่าสุด ปี 2018 นี้ เจ้าตัวเขียวจอมป่วนได้กลับมาโลกแล่นบนจออีกครั้งในรูปแบบแอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ใน "The Grinch" โดยได้ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ มาให้เสียงพากย์ "กริ๊นช์" ภายใต้การดูแลของทีมผู้สร้าง The Secret Life of Pets และ Despicable Me กำหนดฉาย 8 พฤศจิกายน ในโรงภาพยนตร์เอส เอฟ

 

ตัวอย่างภาพยนตร์