ความสนุกของ Overlord คือการสร้างความผูกพันธ์กับตัวละคร

Movie News5 พฤศจิกายน 2561

         Overlord เล่าถึงกลุ่มทหารโดดร่มของอเมริกาที่ถูกโจมตีจนต้องทิ้งตัวลงมายังดินแดนของศัตรู และพวกเขาก็จะต้องทำภารกิจอันสำคัญในการรุกรานครั้งนี้ให้สำเร็จ แต่ไม่นานพวกเขาก็ได้รู้ว่ามันมีมากกว่าที่พวกเขารู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ในหมู่บ้านที่ถูกนาซียึดครองแห่งนี้ มันไม่ได้มีเพียงแค่กลุ่มทหารศัตรูที่พวกเขาต้องกลัว

ผลงานการสร้างของ แบ็ด โรบ็อท เรื่อง Overlord จากฝีมือกำกับของ จูเลียส แอฟเวอรี่ และ ทีมผู้อำนวยการสร้าง ได้แก่ เจเจ อับรามส์ และลินด์ซี่ย์ วีเบอร์ และผู้อำนวยการสร้างบริหาร ได้แก่ โจ เบิร์น, จอน โคเฮน และคอรี่ย์ เบนเน็ตต์ ลิววิส

 


            ความลับในการสร้างสมดุลระหว่างสงครามและซอมบี้นั้น อับรามส์บอกว่า อาจสรุปด้วยคำๆ เดียว นั่นก็คือ ตัวละคร "หนึ่งในหลายๆ อย่างที่เราพยายามทำกันที่แบ็ดโรบ็อทก็คือ การเล่าเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวละครให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ กับ Overlord ไอเดียก็คือการใช้ครึ่งแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อทำความรู้จักทหารอเมริกันหนุ่มๆ เหล่านี้ จากนั้น ก็ค่อยๆ พาคนดูก้าวเข้าสู่ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ ซึ่งคนดูจะห่วงใยและรักตัวละครเหล่านี้ครับ"

อับรามส์เชื่อว่าวิธีการนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เมื่อต้องรับมือกับคุณลักษณะของอสุรกายในเรื่อง "ไม่ใช่ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เราสร้างออกมาจะมีสัตว์ประหลาดอยู่นะครับ แต่ภาพยนตร์อย่าง Overlord ยอดเยี่ยมที่สุดก็ตอนที่คุณเชื่อในสถานการณ์นี้ คุณเชื่อในตัวละคร และคุณก็เชื่อในโลกของพวกเขา แบบนั้นทำให้น่ากลัวมากขึ้นครับ"

การจะทำให้การเปลี่ยนถ่ายจากเรื่องผจญภัยเกี่ยวกับทหาร ให้กลายเป็นงานสยองขวัญไซไฟได้อย่างสมบูรณ์นั้น จำต้องผ่านการเขียนโครงร่างบทหลายฉบับด้วยกัน โคเฮนเล่าว่า "บิลลี่เป็นมือเขียนบทที่ไม่ย่อท้อครับ และยังคงผลักดันเพื่อทำให้บทภาพยนตร์ออกมาดีขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายก็คือการทิ้งชิ้นขนมปังเอาไว้ไปตลอดเส้นทาง ดังนั้นการเปลี่ยนแนวเรื่องจึงไม่กระโดดออกนอกเส้นทาง แต่ขณะเดียวกัน คุณก็ไม่อยากบอกให้รู้เร็วเกินไปว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นในเรื่องนี้ครับ"


 


ธรรมชาติที่มีความน่ากลัวอยู่แล้วของการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วยให้การเปลี่ยนถ่ายดูราบรื่น ตามที่อับรามส์บอก "ความสยดสยองของสงครามมีอยู่แล้วในเรื่องนี้ ดังนั้น เมื่อจู่ๆ คุณก็เปลี่ยนไปสู่เนื้อหาแบบแฟนตาซี มันจึงไม่ได้ให้ความรู้สึกต่างออกไปมากนัก"
 



         โคเฮนยกความดีความชอบให้กับอับรามส์และ ลินด์ซี่ย์ วีเบอร์ ผู้อำนวยการสร้างจากแบ็ด โรบ็อท ที่ช่วยยกระดับเรื่องราวนี้ขึ้นไปอีก "เจเจกับลินด์ซี่ย์มีความสำคัญกับการพัฒนาเบื้องต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้มากครับ" โคเฮนกล่าว "พวกเขามีสัญชาตญาณที่ดีเกี่ยวกับตัวละคร เนื้อเรื่อง และโครงสร้าง และเจเจก็ผลักดันหลายสิ่งที่ไม่เหมือนกับงานที่เคยมีมาก่อนครับ ในทุกขั้นตอนของงานสร้าง เขาทำให้ Overlord ดีขึ้น ซึ่งบีบให้ทุกคนต้องทำงานให้ดีขึ้นไปด้วยครับ"

Overlord เข้าฉาย 8 พ.ย. นี้ในโรงภาพยนตร์

 

ตัวอย่างภาพยนตร์