ถ่ายทำจากสถานที่โบราณ โลเกชันจริง เสมือนเวทมนตร์จากภาพยนตร์

Movie News13 กันยายน 2561

        การถ่ายทำ Alpha เกิดขึ้นในแคนาดา ทั้งในและรอบๆ บริเวณแวนคูเวอร์ บริติช โคลัมเบียและในทุ่งหญ้าและบริเวณแบดแลนด์ทางตอนใต้ของอัลเบอร์ตา ด้วยท้องฟ้าที่กว้างไกลและอาทิตย์อัสดงที่งดงามจับตาจนแทบจะเหมือนภภาพฝัน นอกจากนี้ การถ่ายทำยังเกิดขึ้นในลอสแองเจลิสและแอปเปิล วัลลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย รวมถึงฝั่งตะวันออกไกลของไอซ์แลนด์ด้วย

ภาพยนตร์ของผู้กำกับ อัลเบิร์ต ฮิวจ์ โด่งดังจากภาพที่ชัดเจน และ Alpha ก็เป็นโอกาสในการขยายขอบเขตการถ่ายทำของเขาออกไปไกลกว่าแต่ก่อน ในการเตรียมพร้อม ฮิวจ์ได้สร้างช็อตลิสต์สี่ร้อยกว่าหน้า และสำหรับผู้ที่จะมาร่วมงานกับเขาในการถ่ายทอดภาพวิชวลที่วิเศษสุดนี้ เขาเลือกผู้กำกับภาพชาวออสเตรีย มาร์ติน แกชแลชท์ ผู้ซึ่งเขาได้เห็นผลงานที่คาเมราอิเมจ เทศกาลภาพยนตร์ที่อุทิศให้กับการกำกับภาพ แกชแลชท์ ผู้ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยุโรปในปี 2015 ตกลงที่จะทำงานโปรเจ็กต์นี้ก่อนที่เขาจะได้อ่านบทภาพยนตร์เรื่องนี้เสียอีก ด้วยความเคยชินกับฤดูหนาวในออสเตรีย เขาไม่เคยย่อท้อต่อสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้



           "คุณต้องทำให้ธรรมชาติ โดยเฉพาะสภาพอากาศ เป็นเพื่อนคุณเสมอ”แกชแลชท์กล่าวถึงการถ่ายทำในโลเกชัน "มันไม่มีสภาพอากาศเลวร้าย มีแค่วิธีการเลวร้ายในการรับมือกับมันเท่านั้นล่ะ ผมคิดว่าคุณต้องแม่นยำมากๆ ในการนึกถึงแสง นึกถึงช่วงเวลาในรอบวัน การหามุมที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายทำทั้งวัน และการใช้ความคิดที่เฉียบคมคิดว่าจะถ่ายฉากไหนและเมื่อไหร่ แต่ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการทำให้แน่ใจว่าคุณจะเจอกับภูมิประเทศและแสงที่เหมาะสม

และทำให้มันดูสวย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณไปที่นั่นตั้งแต่เนิ่นๆ พร้อมด้วยอุปกรณ์ทุกชิ้นของคุณเพื่อวัดค่ามัน การนึกถงหน้าคน ผู้คน แบ็คกราวน์...นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องทำ มันเป็นความท้าทายที่วิเศษสุดครับ"



            แกชแลชท์อธิบายถึงสิ่งที่เขาต้องทำใน Alpha ว่าเป็น "บทหนังที่มีความเป็นวิชวลมากๆ มันแทบไม่มีไดอะล็อคเลย มันมีบรรยากาศ ภูมิประเทศมากมาย และเราก็รู้ความคิดของอัลเบิร์ตว่ามันสำคัญต่อเขาแค่ไหนที่ต้องทำงานกับแสงเพื่อสร้างบรรยากาศที่พิเศษสุดขึ้นมา ผมมองว่ามันเป็นการทำงานวิชวลที่วิเศษสุดครับ"

สำหรับฮิวจ์ ธรรมชาติกลายเป็นตัวละครหลักตัวที่สามของภาพยนตร์เรื่องนี้ หมู่บ้านโซลูเทรียนถูกสร้างขึ้นบนแหลมที่อยู่เหนือแม่น้ำโบว์ ด้วยเนินหญ้าลาดชัดที่ตัดลงไปสู่แม่น้ำ ในหุบเขาลึกเบื้องล่าง มันเป็นฉากที่งดงาม น่าจดจำในตัวมันเองและมันก็ถูกแต่งแต้มให้สวยขึ้นด้วยวิชวล เอฟเฟ็กต์ของภาพจากภูเขาพาทาโกเนีย

โลเกชันหมู่บ้านยามค่ำคืนเป็นสถานที่มหัศจรรย์ ในตอนที่ไฟในค่ายลุกโชติช่วงและเปลวเพลิงเริงระบำขึ้นสูง ชาวบ้านนั่งลงบนก้อนหินที่ล้อมรอบหลุมไฟทรงกลม ที่นี่เองที่ชาแมนหญิงจะอวยพรให้กับเหล่านายพรานก่อนการเดินทางของพวกเขา “อัลเบิร์ตถามฉันว่า 'คุณอยากร่ายมนต์รึเปล่า'" วาเรลาเล่า "ฉันตอบว่า 'แน่นอน ฉันจะร่ายมนต์ ขอดูก่อนนะว่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง' อัลเบิร์ตให้ฉันฟังเพลงบางเพลงก่อนหน้าฉากนั้น แล้วฉันก็คิดเสียงฮึมฮัมจากลำคอขึ้นมาได้ ฉันไม่รู้เลยว่ามันมาจากไหน มันเกิดจากการอิมโพรไวส์ล้วนๆ และจังหวะนั้นก็ทำให้ฉันชื่นชมอัลเบิร์ตจริงๆ ค่ะ" ในตอนที่นักแสดงคนอื่นๆ พูดถึงช่วงเวลาที่ให้ความรู้สึกสมจริงสำหรับพวกเขา ก็เป็นฉากที่อยู่ในและรอบๆ หมู่บ้านนี้ด้วย



         นอกจากนั้น Alpha ยังถ่ายทำที่ไดโนซอร์ ปาร์ค มรดกโลกของยูเนสโก้ ที่ซึ่งมีการค้นพบโครงกระดูกที่สมบูรณ์ของไดโนเสาร์ 150 ตัวจากยุคครีเทเชียสตอนปลาย เมื่อเจ็ดสิบห้าล้านปีที่ผ่านมาด้วย สภาพทางธรณีวิทยาและสีสันของไดโนซอร์ ปาร์ค ที่มีแท่งหินต่างๆ มีลักษณะแปลกประหลาดมากจนพวกมันอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นวิชวล เอฟเฟ็กต์ด้วยซ้ำไป "เราได้เข้าถึงสถานที่แห่งนี้ ที่ดูราวกับว่าไม่ได้ถูกสัมผัสจากกาลเวลาเลย อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน" ผู้อำนวยการสร้างแอนดรูว์ โรนากล่าว "มันน่าตกตะลึงมาก ทุกที่ที่คุณไป คุณอาจจะกำลังเหยียบอยู่บนซากฟอสซิล ที่อยู่ตรงนั้นมาเป็นล้านๆ ปีก็ได้น่ะครับ"

อัลเบิร์ต ฮิวจ์ตระหนักถึงความท้าทายพิเศษในการจำลองยุคในประวัติศาสตร์ของ Alpha "ทุกวันนี้ การจำลองยุคน้ำแข็งขึ้นมาเป็นเรื่องยากมากๆ ครับ" ฮิวจ์กล่าว "มันเป็นส่วนผสมระหว่างไซบีเรีย ไอซ์แลนด์ ขั้วโลกเหนือและบางที อาจจะเป็นนิวซีแลนด์ก็ได้ มันไม่มีสถานที่หนึ่งสถานที่ใดในโลกที่ดูเหมือนยุคน้ำแข็ง บางครั้ง เราก็เลยต้องสสร้างมันขึ้นมาในโรงถ่ายในแวนคูเวอร์ บางครั้งก็ในโลเกชันจริงๆ ในอัลเบอร์ตา เราต้องประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างลุคของหนังเรื่องนี้ สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับอัลเบอร์ตาคือที่ราบกว้างใหญ่ ที่ดูเหมือนทุ่งทุนดร้าเปิดโล่ง ซึ่งเป็นลักษณะของยุโรปสมัยนั้น แต่มันจะเป็นลุคแบบไฮเปอร์เรียลในยุคน้ำแข็งน่ะครับ"



           นอกจากนั้น Alpha ยังถ่ายทำที่ไดโนซอร์ ปาร์ค มรดกโลกของยูเนสโก้ ที่ซึ่งมีการค้นพบโครงกระดูกที่สมบูรณ์ของไดโนเสาร์ 150 ตัวจากยุคครีเทเชียสตอนปลาย เมื่อเจ็ดสิบห้าล้านปีที่ผ่านมาด้วย สภาพทางธรณีวิทยาและสีสันของไดโนซอร์ ปาร์ค ที่มีแท่งหินต่างๆ มีลักษณะแปลกประหลาดมากจนพวกมันอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นวิชวล เอฟเฟ็กต์ด้วยซ้ำไป “เราได้เข้าถึงสถานที่แห่งนี้ ที่ดูราวกับว่าไม่ได้ถูกสัมผัสจากกาลเวลาเลย อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน” ผู้อำนวยการสร้างแอนดรูว์ โรนากล่าว "มันน่าตกตะลึงมาก ทุกที่ที่คุณไป คุณอาจจะกำลังเหยียบอยู่บนซากฟอสซิล ที่อยู่ตรงนั้นมาเป็นล้านๆ ปีก็ได้น่ะครับ"

อัลเบิร์ต ฮิวจ์ตระหนักถึงความท้าทายพิเศษในการจำลองยุคในประวัติศาสตร์ของ Alpha "ทุกวันนี้ การจำลองยุคน้ำแข็งขึ้นมาเป็นเรื่องยากมากๆ ครับ" ฮิวจ์กล่าว "มันเป็นส่วนผสมระหว่างไซบีเรีย ไอซ์แลนด์ ขั้วโลกเหนือและบางที อาจจะเป็นนิวซีแลนด์ก็ได้ มันไม่มีสถานที่หนึ่งสถานที่ใดในโลกที่ดูเหมือนยุคน้ำแข็ง บางครั้ง เราก็เลยต้องสสร้างมันขึ้นมาในโรงถ่ายในแวนคูเวอร์ บางครั้งก็ในโลเกชันจริงๆ ในอัลเบอร์ตา เราต้องประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างลุคของหนังเรื่องนี้ สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับอัลเบอร์ตาคือที่ราบกว้างใหญ่ ที่ดูเหมือนทุ่งทุนดร้าเปิดโล่ง ซึ่งเป็นลักษณะของยุโรปสมัยนั้น แต่มันจะเป็นลุคแบบไฮเปอร์เรียลในยุคน้ำแข็งน่ะครับ"



         ด้วยความช่วยเหลือจากซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์ เจฟฟรีย์ เอ. โอคุน Alpha จึงสามารถเพิ่มท้องฟ้า ทั้งที่ถ่ายทำเอาไว้และถูกสร้างเอาไว้ เข้าไปด้วยได้ "แต่ละแบบจะกลายเป็นเหมือนตัวละคร" โอคุนกล่าว "เพื่อช่วยกำหนดบรรยากาศทางอารมณ์ให้กับหนังเรื่องนี้ครับ"

ผู้อำนวยการสร้างแอนดรูว์ โรนาตั้งข้อสังเกตว่า Alpha เป็นตัวอย่างดีเยี่ยมของการที่เทคโนโลยีและโลกแห่งความเป็นจริงสามารถผสมผสานกันเพื่อสร้างประสบการณ์ภาพยนตร์ที่น่าตื่นเต้นได้ "เรามีวิชวล เอฟเฟ็กต์ ที่คุณจะไม่รู้เลยว่ามันอยู่นั่น และเราก็มีของจริงที่คุณอาจจะมองดูแล้วพูดว่า นั่นคือวิชวล เอฟเฟ็กต์น่ะครับ" โรนากล่าว “เราได้ถ่ายทำโลเกชันสวยๆ ในอัลเบอร์ตา แต่มันก็จะมีอีกเลเยอร์หนึ่งที่จะถูกเสริมเข้าไปในช่วงโพสต์โปรดักชัน เรามีกองถ่ายประจำไอซ์แลนด์ กองถ่ายประจำแอฟริกา หนังเรื่องนี้จะเป็นการรวมกันของสถานที่ต่างๆ เหล่านี้ เราคงไม่อาจสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมาได้ถ้าไม่มีเทคโนโลยี และเราก็คงไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ถ้าเราไม่ได้ออกไปอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมจริงๆ หรอกครับ"

ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ Alpha ก็เกิดความเข้าใจว่าสำหรับความอุตสาหะทั้งหมดที่นำไปสู่การเนรมิตชีวิตให้กับโลกยุคโบราณนี้ ความคิดที่ว่าผู้ชมจะมารวมตัวกันในโรงภาพยนตร์และเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวของเด็กหนุ่มกับหมาป่าของเขา ทำให้ประสบการณ์ทั้งหมดนี้คุ้มค่า

"Alpha ผจญนรกแดนทมิฬ 20,000 ปี" พร้อมออกผจญภัย 20 กันยายน นี้ในโรงภาพยนตร์

 

ตัวอย่างภาพยนตร์