5 แอ็คชั่นสตาร์ของเอเชียที่เป็นระดับตำนาน
วงการแอ็คชั่นของเอเชียได้แจ้งเกิดแอ็คชั่นสตาร์มาหลายคนด้วยความสามารถที่สร้างชื่อเสียงผงาดไปทั่วโลก บวกกับฝีไม้ลายมือทางการแสดงฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ กล้า ลุย พร้อมเสี่ยงตาย มีความสดใหม่และแม่นยำเป็นเอกลักษณ์ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาดังเป็นระดับตำนาน
1. บรูซ ลี
ไม่มีใครที่ไม่รู้จักมังกรหนุ่มผู้ผงาดอย่างเต็มภาคภูมิในวงการฮอลลีวู้ดเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา "บรูซ ลี" เป็นหนึ่งในชาวเอเชียไม่กี่คนในยุคนั้นที่สามารถผงาดขึ้นยืนเทียบชั้นกับดาราชั้นนำของฮอลลีวู้ด ชื่อของเขารวมทั้งท่วงท่าและลีลาการต่อสู้ที่สวยงามยังคงตราตรึงอยู่ในใจผู้ชม
เส้นทางชีวิตของบรูซในฮอลลีวู้ดดูเหมือนกำลังจะไปได้ดี เขาได้มีส่วนร่วมในการสร้างภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดถึง 5 เรื่องนับตั้งแต่ FIST OF FURY ภาพยนตร์ที่มาถ่ายทำและมีเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับเมืองไทย เรื่องนี้บรูซมีโอกาสได้โชว์ลีลาการเตะที่พลิ้วไหวเป็นครั้งแรก ตามมาด้วยเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างบรูซกับโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นใน THE CHINESE CONNECTION และปีต่อมาบรูซมีโอกาสได้รับบทเด่นในภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ดเป็นเรื่องแรกใน ENTER THE DRA- GON แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นก่อนที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย บรูซป่วยด้วยโรคเส้นเลือดโป่งในสมอง ก่อนจะเสียชีวิตลงด้วยผลจากปฏิกิริยาต่อแอสไพริน ขณะที่มีอายุได้เพียง 32 ปีเท่านั้น แม้บรูซจะจากไปแล้วแต่ผลงานของเขาในลำดับต่อมาอย่างเรื่อง RETURN OF THE DRAGON ที่ร่วมแสดงกับชัค นอริส ก็ยังคงออกฉาย เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องสุดท้าย GAME OF DEATH ที่บรูซได้มีโอกาสเข้าฉากไว้ไม่กี่ฉากก็ได้รับการสานต่อจนสามารถ ออกฉายได้ในที่สุด
2. เฉินหลง
ชีวิตบนเส้นทางการแสดงของเฉินหลง มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาประสบความล้มเหลวหลายครั้ง เล่นหนังเจ๊งหลายเรื่อง แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้ ยังแน่วแน่ในการแสดง จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ เฉินหลงเรียนจบเมื่ออายุ 17 ปี เขาได้ไปสมัครเข้าร่วมทีมสตันท์ในวงการหนังฮ่องกงในช่วงที่ บรูซ ลี ยังมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อ บรูซ ลี เสียชีวิต เฉินหลงต้องตกงานเพราะวงการหนังกังฟูฮ่องกง กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ
เฉินหลงกลับมาประสบความสำเร็จอย่างสูงอีกครั้ง ในหนังตำรวจร่วมสมัยอย่าง Police Story (วิ่งสู้ฟัด) (1985) โดยเรื่องนี้ทำให้เฉินหลงได้รับรางวัลม้าทองคำ (ตุ๊กตาทองฮ่องกง) ถึง 2 รางวัล คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ ออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม จากนั้นเฉินหลงก็แสดงหนังในฮ่องกงหลายเรื่องตลอดมาเรื่อยๆ เช่น Armour of God (ใหญ่สั่งมาเกิด) (1987) Police Story 2 (วิ่งสู้ฟัด2) (1988) Miracles (ฉีจี้) (1989)
จนโชคเพิ่งมาเข้าข้างเฉินหลงในช่วงยุค'90 หนังหลายเรื่องของเฉินหลงเป็นที่ยอมรับในทั่วเอเชียเกือบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Armour of God II: Operation Condor (ใหญ่สั่งมาเกิด 2 : อินทรีทะเลทราย) (1991) Police Story 3: Supercop (วิ่งสู้ฟัด3) (1992) City Hunter (ใหญ่ไม่ใหญ่ ข้าก็ใหญ่) (1993) Crime Story (วิ่งสู้ฟัด ภาคพิเศษ) (1993) และตำนานไอ้หนุ่มหมัดเมาอย่าง Drunken Master II (ไอ้หนุ่มหมัดเมา2) (1994) ซึ่งเรื่องนี้เฉินหลงได้ร่วมงานกับ หลิวเจียงเหลียง อีกทั้งยังทำรายได้ไปถึง 40 ล้านเหรียญฮ่องกง จากนั้นเฉินหลงก็มีหนังท็อปฟอร์มหลายเรื่องในเวลาต่อมา เช่น Thunderbolt (1995) (เร็วฟ้าผ่า) Police Story 4: First Strike (ใหญ่ฟัดโลก2) (1996) Mr. Nice Guy (ใหญ่ทับใหญ่) (1997) และ Who Am I? (ใหญ่เต็มฟัด) (1998)
3. เจ็ท ลี
เจ็ท ลี หรือ หลี่ เหลียนเจี๋ย คือดาราที่ดังระดับโลก และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ด้วย เริ่มมาโด่งดังในฮอลลีวู้ดในปี 1998 โดยร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Lethal Weapon 4 หลังจากแสดงนำในภาพยนตร์มามากกว่า 25 เรื่อง ในฮ่องกงและจีน เจ็ท ลีได้รับบทเป็นผู้ร้าย โดยต้องประชันบทกับเมล กิ๊บสัน และแดนนี่ โกลเวอร์ ในภาพยนตร์เรื่องฮิตของริชาร์ด ดอนเนอร์
4. จา พนม
จา - ทัชชกร ยีรัมย์ (ชื่อเดิม พนม ยีรัมย์, วรวิทย์ ยีรัมย์) หรือที่รู้จักในวงการชื่อ จา พนม เป็นอดีตนักกีฬาซึ่งเริ่มเข้าสู่วงการแสดง พ.ศ. 2535 โดยเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงภาพยนตร์สังกัดค่ายสหมงคลฟิล์มเมื่อ พ.ศ. 2546 ภาพยนตร์เรื่องสำคัญเรื่องแรกที่เขาแสดงนำคือ องค์บาก นับเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของเขาที่ประสบความสำเร็จในวงการภาพยนตร์แอ๊กชันระดับโลก ซึ่งต่อมาก็มีภาพยนตร์ ต้มยำกุ้ง ก็ได้ประสบความสำเร็จในระดับโลกสูงด้วยเช่นกัน และช่วงเวลาต่อมาก็ได้ยกเลิกสัญญาและเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งทางธุรกิจ จากนั้นเขาก็ได้ร่วมเป็นหนึ่งในนักแสดงของภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 ซึ่งเรียกว่าเป็นนักแสดงคนไทยที่โกอินเตอร์และเป็นที่ยอมรับอีกคนเลยทีเดียว
5. อิโก อูไวส์
อิโก เริ่มเป็นที่รู้จักของคอหนังแอ็คชั่นทั่วโลกจากภาพยนตร์เรื่อง The Raid ที่เข้าฉายในปี 2012 ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของหนังแอ็คชั่น เพราะสามารถสร้างชื่อเสียงและกวาดรายได้ไปทั่วโลกกว่า 500 ล้านบาท ถูกนำไปรีเมคเป็นเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ดโดยผู้สร้าง The Expendables จากความสำเร็จถล่มทลาย ทำให้ผู้สร้างเดินหน้าสร้างภาค 2 ต่อทันที ด้วยทุนสร้างที่มากกว่าเดิมถึง 5 เท่า การันตีความมันส์ขั้นสุด ทุกคนต่างยกให้ The Raid เป็นหนังที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการหนังแอ็คชั่นในเอเชีย นับตั้งแต่ที่ องค์บาก เคยทำไว้เมื่อทศวรรษที่แล้ว
ผลงานเด่นอื่นๆ ที่อิโกได้ร่วมแสดงและโชว์ฝีมือการต่อสู้อันดุเดือดไม่เป็นรองใคร ได้แก่ Man of Tai Chi กับบทคู่ต่อสู้คนสำคัญ, Star Wars: The Force Awakens ในบทนักฆ่าสมาชิกของแก๊งคันจิคลับ, Headshot กับบทชายผู้สูญเสียความทรงจำที่ต้องเอาตัวรอดจากนักฆ่า, Beyond Skyline กับการประกบดาราดัง แฟรงค์ กิลโล่ นำทัพมนุษย์ต่อสู้เอเลี่ยนจากต่างดาว และล่าสุดกับ "Mile 22" ภาพยนตร์แอคชั่นมันส์เต็มสูบฝ่าดงกระสุนในปฏิบัติการเดือดถวายหัวที่ทำให้เขาได้ร่วมงานกับ มาร์ค วาห์ลเบิร์ก แอคชั่นสตาร์เบอร์หนึ่งฝั่งอเมริกา ในการกำกับของ ปีเตอร์ เบิร์ก ผู้กำกับสายลุย