อรอุ๋งเผยถึงความยากใน App War ที่ต้องร้องไห้สไตล์ BNK48 ร้องไห้อย่างไรก็ได้แต่หน้าต้องสวยเป๊ะ!
เชื่อว่าสิ่งที่โอตะทั้งหลายอย่างจะชมมากที่สุดใน "App War" คงเป็นฝีมือการแสดงของสาว "อร พัศชนันท์ เจียจิรโชติ" หรือ น้องอรอุ๋ง จาก BNK48 ที่ในเรื่องนี้เธอรับบทเป็น "มายด์" นักศึกษาฝึกงานของทีม AMJOIN หน้าตาน่ารักสดใส บวกกับบุคลิกคล่องแคล่ว จึงทำให้ตัวละคนนี้มีเสน่ห์ แม้มายด์จะเป็นตัวละครเล็กๆ ในเรื่องนี้ แต่มีความสำคัญมากหรือที่เรียกว่า "น้อยแต่เยอะ" นั่นเอง
สาวอรอุ๋งได้เล่าความประทับใจกับได้สวมบทบาทเป็นเด็กฝึกงานวัยในเรื่องนี้ไว้ว่า "มันมีทั้งความสนุกและท้าทายกับคนยุคนี้ คือเป็นหนังที่ไม่ได้โรแมนติกซะทีเดียว หนูว่ามันครบรสมากกว่า คือมันไม่ได้โรแมนติก ระหว่างพระเอก-นางเอกอย่าง เดียว แต่ทุกตัวละครมันมีเส้นเรื่องของมัน แม้จะเป็นคาแรคเตอร์ ของฝั่ง AMJOIN หรือ INVITER เองก็ดี หรือตัวละครมายด์ก็ดี จะมีเรื่องของมันเองเราทำเพื่อจุดมุ่งหมายบางอย่าง เรามีเป้าหมายของตัวละครที่ชัดเจน มันสะท้อนคนยุคนี้ที่ไม่อยากเป็นพนักงานออฟฟิศหรือทำงานประจำ คือเขาแค่อยากทำอะไรเป็นตัวของตัวเองขึ้นมา เลยค่อนข้างฉีกแนวและตรงประเด็นกับยุคนี้ที่อยากทำอะไรด้วยตัวของตัวเองก็เลยมีสตาร์ทอัพ ขึ้นมา พอหนูมาเล่นถึงได้รู้จักสตาร์ทอัพ เราไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยจนมาเล่น หนูคิดว่าสตาร์ทอัพเป็นการอุปโรกขึ้น มาด้วยซ้ำก็งงว่ามันมีจริงด้วยเหรอ หนูคิดว่าเด็กบางคนก็ไม่รู้จักเหมือนหนูแหละ แต่พอหนังเรื่องนี้ออกมันจะทำให้เขารู้จักสตาร์ทอัพมากขึ้น"
นอกจากนี้อรอุ๋งยังได้เผยอีกว่าเธอเป็นคนความจำสั้น นั่นจึงเป็นปัญหาสำหรับการต้องมานั่งท่องบทที่มีความยาวมากและทำให้เธอต้องเจอกับความยากใจการถ่ายทำเรื่องนี้ "ยากเพราะบทยาวมาก 2 หน้า ยากเพราะไดอาล็อก แล้วหนูเป็นคนความจำสั้นแต่บางคนก็บอก หนูว่าจำเก่งแล้ว หนูจะหลุดแก้บ่อยแล้วคือหนูเป็นคนค่อนข้างขี้เกรงใจคนอื่น ซึ่งตอนนั้นมันดึกแล้ว มันเป็นฉากที่บอมบ์ กับมายด์ต้องเจอกันด้วย ถ่ายซ้อมประมาณ 3-4 รอบ ถ่ายไปถ่ายมาเก็บหลายมุมมันเลยค่อนข้างยากสำหรับหนูที่ต้องจำบทด้วยแสดงด้วย อย่างในบทมันอีกแบบพอหน้าเซ็ตก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ถ้ามีปรับคำพูดเราก็ต้องจำใหม่หมด คือ บางครั้งพอดูหน้าเซ็ตแล้วแบบนี้น่าจะเหมาะกว่า ครูแอ็คติ้ง ผู้กำกับก็ปรับเปลี่ยนบทบ้าง"
ความยากอีกอย่างหนึ่งที่อรอุ๋งเผยออกมาสำหรับเรื่องนี้ คือการที่เธอต้องร้องไห้แต่หน้ายังต้องสวย ซึ่งเธอนิยามมันว่าเป็นการร้องไห้แบบสไตล์ BNK48 นั่นเอง "ที่ยากอีกอย่างคือการทำอารมณ์ให้มันต่อเนื่อง สมมุติว่าเราร้องไห้มันก็ไม่ได้แปลว่าเราร้องไห้ครั้งเดียวแล้วเทคเดียวผ่าน หรือมุมกล้องเดียวผ่าน มันยังต้องมีการถ่ายเก็บอีกหลายมุม เช่นจะมีฉากหนึ่งในรถที่จะเก็บหนูคนเดียว ขับรถวนรอบสยามร้องไห้ คือทางพี่เสือ เขาอยากได้หลายมุม เป็นการร้องไห้แบบฟูมฟาย ร้องไห้เงียบๆสวยๆ ร้องไห้แบบ BNK48 เป็นการร้องไห้แบบหลายมุม สำหรับหนูว่ายากมากกับการคอนทินิวดราม่าต่อเนื่อง แต่ถือว่าเป็นความท้าทายที่หนูโชคดีได้รับโอกาสดีๆจากผู้ใหญ่ จากโลกของเสียงเพลง เกิร์ลกรุ๊ป ได้มาสู่โลกของภาพยนตร์ หนูมีความสุขมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้"
"สงครามแอป" ครั้งนี้เป็นการวัดใจว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่พวกเขาต้องการเอาชนะกัน เพราะอีโก้และเงิน หรือเพราะเสียงเรียกร้องของหัวใจตนเองกันแน่ หาคำตอบได้ใน "APP WAR แอปชนแอป" 1 สิงหาคม 2 ทุ่มเป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์
ตัวอย่างภาพยนตร์