แม้ว่าตำนานสตาร์ วอร์ส จะเต็มไปด้วยเหล่าอัศวินเจได มนุษย์ต่างดาวมากมายหลายสายพันธุ์ หุ่นยนต์หลากหลายทั้งฝ่ายดี ฝ่ายร้าย เหล่าซิธจอมชั่วร้าย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในบรรดาคาแรกเตอร์มากมายที่โลดแล่นมากว่า 40 ปีนี้ หนึ่งในตัวละครที่คนดูรักมาก ก็เห็นจะเป็นเจ้า "ชิวเบคก้า" ลิงขนยาวเผ่าพันธุ์วู้คกี้ตัวนี้แหละ ที่แม้จะพูดอะไรฟังไม่ออก แต่เราก็รักที่จะเห็นชิวเบคก้าโผล่มาบนจอและทำหน้าที่เพื่อนผู้คอยสนับสนุนทุกการตัดสินใจของฮาน โซโล อยู่เสมอ วันนี้ชิวเบคก้า เปลี่ยนตัวผู้แสดงจากปีเตอร์ เมย์ฮิว ที่ทำหน้าที่มา 38 ปีแล้ว เขาก็ต้องลาจากหน้าที่ด้วยวัย 73 ปี และส่งไม้ต่อให้กับเจ้าหนุ่มจูนาส ซูอาโมโต ที่มารับหน้าที่อยู่ใต้ชุดชิวเบคก้ามาตั้งแต่ภาค The Last Jedi แล้ว ก็สานต่อหน้าที่ได้อย่างกลมกลืนมาก นักแสดงต่างก็ร่วงโรยไป ไม่ได้อายุยืนนับร้อยปีเหมือนตัวชิวเบคก้า แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนตัวแสดงไปกี่คน ชิวเบคก้าก็จะทำหน้าที่ขวัญใจของคนดูต่อไปอีกยาวนาน ถึงตรงนี้เรามาทำความรู้จักเจ้าวู้คกี้ตัวนี้กันให้มากขึ้นครับ

 

1. ชิวเบคก้า ได้แรงบันดาลใจมาจากหมาของ จอร์จ ลูคัส

          จอร์จ ลูคัส บิดาผู้ให้กำเนิดตำนานสตาร์ วอร์ส เขามีหมาคู่ใจชื่อ "อินเดียน่า" เป็นหมาพันธุ์ อลาสกัน มาลามิวท์ เป็นหมาตัวใหญ่ และขนยาว , เจ้าอินเดียน่า นี่ชอบนั่งรถไปไหนมาไหนกับจอร์จ และที่สำคัญชอบนั่งเบาะหน้าเสียด้วยสิ ทำหน้าที่เสมือนผู้ช่วยนักบิน พอคนมองจากที่ไกลๆ มาที่รถ ก็จะนึกว่ามีคนนั่งมาข้างๆ จอร์จ นิสัยของเจ้าอินเดียน่านี่แหละ ก็เลยกลายเป็นแรงบันดาลใจให้จอร์จ เอาไปพัฒนาเป็น ชิวเบคก้า นักบินผู้ช่วยและคู่หูของฮาน โซโล ไม่แค่นั้นนะ ลองนึกสิว่าชื่อ "อินเดียน่า" นี่กลายไปเป็นตัวละครระดับตำนานตัวไหนอีก ช่างเป็นหมาที่มีผลต่อวงการภาพยนตร์เสียจริง

 

2. ชื่อ "ชิวเบคก้า" มีรากฐานมาจากภาษารัสเซีย

          ชื่อ "chewbacca" เพี้ยนมาจากภาษารัสเซียคำา "Sobaka" แปลว่าหมา , ส่วนคำว่า "Wookiee" ชื่อเผ่าพันธุ์ของชิวเบคก้านั้นได้มาจากตอนหนึ่งในหนัง "THX1138" หนังเรื่องแรกที่จอร์จ ลูคัส กำกับ ในหนังนั้นมีนักแสดงชื่อ เธอรี่ แมคโกเวิร์น เป็นคนพากย์เสียง แล้วตอนหนึ่งเธอรี่ ก็พูดขึ้นมาว่า "ชั้นคิดว่าชั้นเพิ่งทับตัววูคกี้ไปนะ"

 

3. อายุมากกว่าที่เราคิด

        ในภาคแรกของสตาร์ วอร์ส Star Wars Episode IV: A New Hope ชิวเบคก้า บอกว่าเขาอายุ 200 ปี และใน Solo : A Star Wars Story บอกว่าเขาอายุ 190 ปีแล้ว แปลว่าเหตุการณ์ 2 เรื่องนี้ห่างกันอยู่ 10 ปี

 

4. ปีเตอร์ เมย์ฮิว ได้บทเพราะความสูงที่ไม่ธรรมดา

         ปีเตอร์ เมย์ฮิว ผู้รับบทชิวเบคก้า คนแรก เขาได้บทนี้ก็เพราะความสูงที่ผิดมนุษย์มนา เพราะเขาสูงถึง 2.21 เมตร ส่วนจูนาส ที่มารับช่วงต่อจากเขาสูง 2.11 เมตร

        ชุดแรกเริ่มของชิวเบคก้านั้น ถักทอรวมกันจากขนของหลากหลายสัตว์เช่น ตัวจามจุรี กระต่าย และ แพะแองกอร่า ชุดชิวเบคก้า ก็มีพัฒนาแก้ไขไปในแต่ละภาค แต่เป็นรายละเอียดเล็กน้อยที่ดูไม่ออก แต่ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็คือในภาค Star Wars: Episode III - Revenge of the Sith (2005) ที่มีการเพิ่มระบบทำความเย็นในชุด ซึ่งเป็นประโยชน์กับปีเตอร์ เมย์ฮิว ผู้แสดงมาก เพราะเขาสามารถสวมชุดได้นานขึ้น ไม่ต้องถอดออกบ่อยๆ

 

5.ขนบนชุดชิวเบคก้า มาจากสัตว์หลากหลายชนิด

6. เบื้องหลังการออกแบบชุดชิวเบคก้า

         งานออกแบบชุดชิวเบคก้า เป็นฝีมือของ สจวร์ต ฟรีบอร์น นักออกแบบคู่ใจของ สแตนลียร์ คูบริก , เพราะจอร์จ ลูคัส ไปเห็นงานออกแบบชุดลิงฝีมือของ สจวร์ต ในหนัง 2001: A Space Odyssey ก็เลยมอบหมายให้สจวร์ต มาช่วยออกแบบชุดให้ชิวเบคก้า โดยให้โจทย์ว่าต้องการให้มีส่วนผสมของ หมา แมว และ ลิง , สจวร์ตบอกว่าปัญหายากที่สุดในการทำชุดชิวเบคก้าคือความร้อนภายในชุด พอปีเตอร์ เมย์ฮิว สวมชุดแล้วความร้อนจากร่างกายของเขา จะทำให้หน้ากากจะหลุดร่อนออกจากใบหน้าของเขา , สจวร์ต ฟรีบอร์น ยังเป็นคนออกแบบตัวโยดา และ แจ๊บบา เดอะฮัต อีกด้วย

 

7. กว่าจะได้มาเป็นภาษาพูดของชิวเบคก้า

           การออกแบบเสียงพูดให้ชิวเบคก้านั้น จอร์จ ลูคัส มอบหมายให้ เบ็น เบิร์ต เป็นงานแรกในการออกแบบเสียงของเขาในวงการภาพยนตร์ ซึ่งในวันนี้ชื่อของ เบ็น เบิร์ต กลายเป็นตำนานของฮอลลีวู้ดไปแล้ว สำหรับเสียงของชิวเบคก้านั้น เบ็น เลือกใช้เสียงของ "ทาริก" หมีดำจากสวนสัตว์ในซานโจเซ่ แคลิฟอร์เนีย เป็นเสียงหลัก แล้วนำมาสังเคราะห์เสียงผสมกับเสียงของตัววอลรัส , สิงโต และ ตัวแบดเจอร์ รวมกันก็ออกมาเป็นเสียงภาษาของชิวเบคก้าที่เราคุ้นหูกัน มีชื่อเรียกภาษาของชิวเบคก้าว่า "ชายรีวู้ค"

 

8. ไม่ใช่ตัวละครโปรดของนักวิจารณ์ชื่อดัง

           โรเจอร์ อีเบิร์ต นักวิจารณ์ชื่อดังระดับตำนานของฮอลลีวู้ด ไม่ชอบ ชิวเบคก้า เอามากๆ เขาเคยเขียนวิจารณ์ตัวชิวเบคก้าจากภาค The Empire Strikes Back เวอร์ชั่นพิเศษไว้ว่า "ตัวชิวเบคก้านี่ถูกยัดเข้ามาตั้งแต่ภาคแรกแล้วในฐานะตัวประดับให้มีสีสัน แต่ไม่เคยผ่านกระบวนการคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ผลก็เลยออกมาเป็นลิงที่แสดงได้สีหน้าเดียว กับอีกหนึ่งเสียงร้องโหยหวน ยิ่งทำให้ผมสงสัยมาก ว่าไอ้น้ำเสียงโทนเดียวของมันเนี่ยสื่อสารได้สาระใจความหรือ ฮาน โซโล เข้าใจที่่มันพูดจริงๆ เหรอ ฮานเคยนั่งคุยกะมันยาวๆ บ้างมั้ย" ท่าทางไม่ชอบเอาจริงๆ นะเนี่ย

 

9. ชิวเบคก้าที่เห็นกันนี่ห่างไกลจากจินตนาการของจอร์จ ลูคัส มาก

       อ้างอิงจากบทของจอร์จ ลูคัส ที่เขียนไว้ในปี 1975 ในตอนนั้นใช้ชื่อเรื่องว่า “Adventures of the Starkiller, Episode I: The Star Wars” ในบทนั้นบรรยายภาพลักษณ์ของชิวเบคก้าไว้อย่างน่ากลัวว่า "ชิวเบคก้าสูงถึง 8 ฟุต และมีลักษณะดูเป็นสัตว์ป่าเถื่อน รูปร่างคล้ายตัวกาเลโก ขนาดยักษ์ แล้วก็มีฟันแหลมคมแบบลิงบาบูน มีตาสีเหลืองดวงโตซ่อนอยู่ใต้ขนยาวรุงรัง พวกมันสวมสายหนังบรรจุลูกปืนสองแถบคาดไขว้กัน แล้วสวมแจ็คเก็ตกันกระสุนทับ บนแจ็คเก็ตเพนต์ลายพรางลวดลายประหลาด และกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล

.............อ่านแล้วก็รู้สึกว่า ดีแล้วล่ะ ที่ชิวเบคก้าไม่เป็นไปตามจินตนาการของจอร์จ ลูคัส

 

10. ราล์ฟ แมคควอรี่ ศิลปินผู้ให้กำเนิด ชิวเบคก้า

           กว่าจะออกมาเป็นชิวเบคก้าเวอร์ชั่นที่เห็นกันนี่ ต้องผ่านมันสมองผู้อยู่เบื้องหลังมากมายและหนึ่งในนั้นคือศิลปินนาม ราล์ฟ แมคควารี่ นักออกแบบภาพลักษณ์ตัวละคร , จอร์จ เริ่มต้นด้วยการให้ภาพถ่ายของตัวลีเมอร์ กับราล์ฟเพื่อเป็นต้นแบบในการสร้างตัวชิวเบคก้า แต่แล้วราล์ฟ ก็เขียนชิวเบคก้าออกมาเป็นเพศหญิง แต่จอร์จ ก็แก้ไขให้ออกมาเป็นเพศชาย , ราล์ฟ ออกแบบชิวเบคก้า โดยอิงจากภาพประกอบของ จอห์น โชนเฮอร์ ศิลปินผู้วาดภาพประกอบให้นิยาย "And Seven Times Never Kill a Man." บทประพันธ์ของ จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน เจ้าของเรื่อง "เกม ออฟ โธรนส์" นั่นแหละ และหน้าไม้ที่เป็นอาวุธคู่ใจของชิวเบคก้า ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากงานของ จอห์น โชนเฮอร์

 

11. ได้รางวัล "ผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต"

           ในตอนจบของ Star Wars Episode IV: A New Hope เจ้าหญิงเลอามอบเหรียญกล้าหาญให้กับ ลุค สกายวอล์คเกอร์ และ ฮาน โซโล แต่ไม่มอบให้กับชิวเบคก้า ทั้งที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมวีรกรรม สร้างความค้างคาใจต่อเหล่าแฟนๆ ของชิวอี้ เป็นอย่างมาก อย่ากระนั้นเลย เอ็มทีวีเลยบอกว่างั้นขอมอบรางวัล "ผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต"(Lifetime Achievment Award) ให้กับชิวเบคก้าเองแล้วกัน ในงานมอบรางวัลภาพยนตร์โดยเอ็มทีวี ในปี 1997 และน่ารักไปกว่านั้น เพราะแครี่ ฟิชเชอร์ ผู้ล่วงลับ เจ้าของบทเจ้าหญิงเลอา มารับหน้าที่เป็นผู้มอบรางวัลให้เอง ปีเตอร์ เมย์ฮิว เองก็มาในร่างของชิวเบคก้าเต็มยศ และยังแถมท้ายด้วยการกล่าวคำขอบคุณเป็นภาษา ชายรีวู้ค ที่ไม่มีใครฟังรู้เรื่องอีกด้วย , ต่อปัญหาค้างคาใจว่าทำไมไม่มอบเหรียญให้กับชิวเบคก้า ก็มีคนไปถามจอร์จ ลูคัส ถึงเหตุผลนี้ ก็ได้คำตอบมาว่า "เหรียญกล้าหาญไม่มีผลทางด้านจิตใจต่อชาววู้คกี้ พวกเขาไม่เชื่อถือศรัทธาในดวงตราเกียรติยศเหล่านี้ พวกเขาจะมีการเฉลิมฉลองในแนวทางที่ต่างกันออกไปจากเรา"

 

12. ชิวเบคก้าก็มีครอบครัวนะ

           ในหนังตอนพิเศษ Star Wars Holiday Special ที่ออกแพร่ภาพทางช่อง CBS เมื่อปี 1978 เป็นหนังภาคแยกเรื่องแรกของจักรวาลสตาร์ วอร์ส ในเรื่องนี้ ชิวเบคก้า พา ฮาน โซโล กลับไปที่ดาว"คาชีค" บ้านเกิดของชิวเบคก้าเพื่อไปเยี่ยมเยียนครอบครัวของเขาเนื่องในโอกาสพิเศษ มีเทศกาลเฉลิมฉลอง "Life Day"ของชาววู้คกี้ คนดูจึงได้รู้จักเมียของชิวเบคก้าชื่อ "มัลลาโทบัค" มีลูกชื่อ "ลัมปาวารู" และมีพ่อชื่อ "แอตติชิกคุก" เนื่องจากเป็นตอนพิเศษที่ทำขึ้นมาสำหรับดูในครอบครัว ก็เลยมีฉากที่ลุค สกายวอล์คเกอร์ , เจ้าหญิงเลอา , ดาร์ธเวเดอร์ , C3PO และ R2D2 ออกมาร้องเพลงร่วมกัน แถมยังเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของโบบา เฟ็ตต์ อีกด้วย หนังได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างแย่ และเป็นหนังที่จอร์จ ลูคัส ไม่ชอบเอามากๆ สุดท้ายหลังจากแพร่ภาพแล้ว ก็ออกมาเป็นโฮมวีดีโอที่ผลิตจำนวนจำกัดเอามากๆ

 

13. ปีเตอร์ เมย์ฮิว ได้เป็นชิวเบคก้า เพราะเท้าอันมหึมาของเขา

          ไม่ใช่แค่เพราะความสูง 2.21 เมตร ที่ทำให้เขาเหมาะสมเป็นชิวเบคก้า แต่โอกาสมาถึงตัวเขาก็เพราะขนาดเท้าของปีเตอร์ เหตุจากมีการทำรายการทีวีทางช่องโทรทัศน์ท้องถิ่นของลอนดอน ที่ตระเวณสัมภาษณ์คนที่มีขนาดเท้าใหญ่กว่าคนปกติทั่วไป และหนึ่งในนั้นก็คือปีเตอร์ เมย์ฮิว ,ผู้อำนวยการสร้างหนังได้ดูรายการนี้ ก็เลยดึงปีเตอร์มารับบทเป็นยักษ์ไมโนทอร์ในหนัง Sinbad and the Eye of the Tiger แล้วบังเอิญว่าทีมงานแต่งหน้าคนหนึ่งในหนัง Sinbad ก็ได้มาทำงานเบื้องหลังใน Star Wars ด้วยเขาจึงชักชวนปีเตอร์ เมย์ฮิว ให้มาเข้ากล้องทดสอบบทเป็นชิวเบคก้า

 

14. ปีเตอร์ เมย์ฮิว ทำงานประจำไปด้วยระหว่างถ่ายทำสตาร์ วอร์ส

เขามีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพนักงานทั่วไปในโรงพยาบาลลอนดอน และด้วยคิวถ่ายกะทันหันบ่อยครั้ง ที่ทำให้ปีเตอร์ เมย์ฮิว ต้องลางานบ่อย ๆ ทำให้เขาต้องโดนให้ออกจากงาน แต่เมื่อหนังปิดกล้องแล้ว โรงพยาบาลก็รับเขากลับไปทำานเช่นเดิม

 

15. ดาร์ธเวเดอร์ หรือ ชิวเบคก้า

         เดวิด พราวส์ นักแสดงผู้มีความสูงถึง 195 ซม.ได้รับข้อเสนอจากทางผู้สร้างว่าอยากจะเป็น ดาร์ธ เวเดอร์ หรือ ชิวเบคก้า , เดวิด ตอบรับทันทีว่าขอเป็น ดาร์ธ เวเดอร์ ด้วยความเชื่อส่วนตัวว่า คนดูจะจดจำตัวร้ายได้ดีกว่าพระเอก แล้วเดวิดก็มาเผยทีหลังว่า เขาไม่รู้มาก่อนว่าบทดาร์ธ เวเดอร์ จะต้องใส่หน้ากากตลอดทั้งเรื่อง