รู้จักกับ จอช โบรลิน ดาราที่ฮอตที่สุดในซัมเมอร์ 2018

Movie News3 พฤษภาคม 2561

          ถ้ามองกันเผินๆ ดาราที่ฮอตที่สุดในปีนี้ น่าจะเป็นดเวย์น จอห์นสัน หรือในนาม เดอะ ร็อค ที่เราคุ้นเคยกัน เพราะหนังของดเวย์น ทำเงินถล่มทลายกันแทบทุกเรื่อง ดูแววว่างานชุกสุดๆ แต่ถ้ามองกันที่ช่วงซัมเมอร์ปีนี้ ช่วงที่หนังเบอร์ใหญ่ออกมาชนกันมากมาย ดเวย์น จอห์นสัน มีหนังเข้าฉาย 2 เรื่อง Rampage ที่เพิ่งลงโรงไป และ Skycraper อีก 1 หนังแอ็คชั่นลุ้นระทึก มีกำหนดเข้าฉาย 12 กรกฎาคม  แต่พี่จอช โบรลิน กลับมีหนังถึง 3 เรื่อง และแต่ละเรื่องก็ไม่ใช่บทสมทบนะครับ แต่เป็นบทนำชนิดมีชื่อแปะบนโปสเตอร์กันเลย เรื่องแรกกำลังกวาดเงินเป็นบ้าเป็นหลังขณะนี้กับ Avengers : Infinity War ซึ่งพี่จอช ก็รับบทเป็น ธานอส มหาวายร้ายระดับจักรวาล ที่คนเดียวรับมือซูเปอร์ฮีโร่ได้นับสิบโดยไม่สะทกสะท้าน และที่ตามมาติดๆ ก็คือ Deadpool 2 ซึ่งพี่จอช ก็รับบทนำอีกเช่นกันเป็น "เคเบิ้ล" คู่หูคู่ซี้ตลอดกาลของ เดดพูล ที่มาเปิดตัวเอาในภาค 2 นี้และ ปิดท้ายด้วย Sicario: Day of the Soldado ในวันที่ 28 มิ.ย. นี้ จากภาคแรก จอช รับบทสมทบ เพราะว่าเอมิลี่ บลันต์ เข้าชื่อในบทนำ แต่พอมาภาค 2 เอมิลี่ ไม่กลับมา บทนำก็เลยตกเป็นของ จอช โบรลิน ประกบคู่กับ เบนิซิโอ เดลโตโร ที่ก็เพิ่งรับบทเป็น "ทิวาน" ที่เพิ่งประชันบทกับ จอช โบรลิน ในภาพลักษณ์ "ธานอส" ไปเช่นกัน



มาย้อนดูชีวิตส่วนตัวของจอช โบรลิน กันสักนิด ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ถึงมาฮอตเอาในปีนี้

         จอช โบรลิน เกิดเมื่อ 12 ก.พ. 1968 ปัจจุบันอายุ 50 ปี เขาเกิดที่ซานตาโมนิกา , คาลิฟอเนียร์  มีความสูงถึง 179 ซม. พี่จอช หล่อมากมีเมียมาแล้วถึง 3 คน


กับอลิซ อะแดร์ ภรรยาคนแรก และลูกทั้ง 2

      ภรรยาคนแรก อลิซ อะแดร์ เป็นดาราสาว ทั้งคู่แต่งงานกันตอนวัยรุ่น ตอนนั้นจอชเพิ่ง 20 ปี แต่ก็หย่ากันไปในระยะเวลาเพียง 6 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน


กับ ไดแอน เลน ภรรยาคนที่  2


       ภรรยาคนที่ 2 คือ ไดแอน เลน ดาราสาวสวย เธอรับบทเป็น "มาร์ธา เคนต์" แม่ของซูเปอร์แมน คลาร์ค เคนต์ แล้วก็กลายเป็นชื่อที่โดนเอามาล้อกันอยู่พักใหญ่ กับไดแอน เลน อยู่กันได้ 9 ปีแล้วก็หย่ากันไป ไม่มีลูกด้วยกัน


แคทเธอรีน บอยด์ โบรลิน ภรรยาคนที่ 3


       ภรรยาคนที่ 3 แคทเธอรีน บอยด์ โบรลิน อดีตผู้ช่วยส่วนตัวของจอช อายุ 30 ปีเด็กกว่าจอชถึง 20 ปี ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อปี 2016  และด้วยความที่แคทเธอรีน เป็นสาวสวย หุ่นนางแบบ สูงถึง 180 ซม. จอชเลยดันเมียเข้าวงการแสดง ให้เธอมีบทเล็ก ๆ ใน Old Boy (2013) และ Everest (2015) หนังที่มีจอช โบรลินรับบทนำทั้ง 2 เรื่อง


"ลูเวลีน มอสส์" จาก No country for old men บทที่สร้างชื่อให้เขาเป็นที่รู้จัก


         จอช โบรลิน แม้จะไม่ได้มาแนวหล่อ แต่ก็เป็นดาราที่มีงานชุก เรียกว่ามีผลงานให้ดูกันอยู่ทุกปี มีผลงานออกฉายมาแล้วถึง 63 เรื่อง นับจากผลงานเรื่องแรก The Goonies (1985) หนังของสตีเวน สปิลเบิร์ก เขาอยู่ในวงการแสดงมาแล้วถึง 33 ปี หลังจากนั้นก็เล่นหนังซีรีส์มาโดยตลอด ได้กลับมาอยู่ในวงการหนังใหญ่อีกครั้งในช่วงกลาง 90s รับบทสมทบมาโดยตลอด และส่วนใหญ่เป็นหนังฟอร์มเล็ก กว่าโอกาสจะมาถึงเขาก็เมื่อปี 2007 เมื่อได้รับบทเป็น ลูเวลิน มอสส์ บทนำใน "No Country for Old Men" หนังประสบความสำเร็จอย่างมาก กวาดออสการ์ไปถึง 4 ตัว และในปีนั้นจอชมีหนังออกฉายถึง 5 เรื่อง  พอหน้าตาชื่อเสียงเริ่มเป็นที่จดจำแล้ว จอช ก็เริ่มได้บทนำมากขึ้น มีหนังออกฉายปีนึง 2-3 เรื่องมาโดยตลอด มีทั้งหนังฮิตบ้าง คว่ำบ้าง คละๆ กันไป


บท "แบรน" ผลงานการแสดงเรื่องแรกใน  The Goonies (1985) เมื่ออายุเพียง 17 ปี


         บทที่จอช ได้รับมักจะเป็น เจ้าหน้าที่ทางกฏหมายอยู่บ่อยๆ หรือบทชายเจ้าเสน่ห์ที่ต้องเกี่ยวพันกับสตรีเพศ เอกลัษณ์ของจอชคือ พูดเสียงต่ำ ๆ ห้าว ๆ หลังจาก Sicario: Day of the Soldado ครึ่งปีหลังจะไม่มีหนังพี่จอชแล้ว ได้เห็นหน้าพี่เขาปีหน้าเลย พี่จอชจะกลับมาอีกครั้งกับบทบาท "ธานอส" ใน Avengers ภาค 4 และในหนังคาวบอย "George and Tammy" และอีกเรื่องที่ประกาศสร้างแล้วคือ "X-Force" หนังรวมเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ของทางโซนี่ ซึ่งจอช โบรลิน จะกลับอีกครั้งในบท "เคเบิ้ล" ถ้าในอนาคต เคเบิ้ล จะต้องไปเจอกับ ธานอส นี่ จอช โบรลิน คงจะเป็นดาราคนเดียวเลยมั้งที่ต้องรับ 2 บทในเรื่องเดียวกัน

 

อ่านเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจของจอช โบรลินกันต่อครับ

- แม้หน้าตาจะออกแนวผู้ร้าย แต่เป็นคนจิตใจละเอียดอ่อนนะ ชอบเขียนบทกวี และเรื่องสั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแม่ของเขาที่เสียไปแล้ว เจน คาเมรอน อาจี


กับคุณพ่อ เจมส์ โบรลิน

- เป็นเชื้อสายดาราฮอลลีวู้ด พ่อของเขาคือ เจมส์ โบรลิน เป็นดาราที่มีงานชุกในยุค 60s - 70s แต่ทุกวันนี้ก็ยังเล่นหนังอยู่นะ เจมส์ ตั้งชื่อลูกชายว่า "จอช แรนดัล" ตามชื่อตัวละครในทีวีซีรีส์ “Wanted: Dead or Alive” ที่รับบทโดย สตีฟ แม็คควีน


จอช แรนดัล ที่คุณพ่อ เจมส์ โบรลิน นำมาตั้งชื่อลูกชาย


- ในบทสัมภาษณ์เมื่อปี 2014 จอชเล่าวีรกรรมในช่วงวัยรุ่นว่าเขาเคยขโมยรถไปขายเพื่อเอาเงินไปซื้อยา แต่ก็กลับตัวกลับใจผ่านพ้นมันมาได้ ในขณะที่เพื่อนเขาอีกหลายคนตกเป็นทาสของยาเสพติด

- จอช โบรลิน ถูกเรียกตัวไปแคสต์บท "ธานอส" เมื่อปี 2015 ขณะกำลังเล่นหนังเรื่อง "Everest" และที่ไม่น่าเชื่อคือ จอช เป็นดาราคนสุดท้ายที่ไปแคสต์แต่ได้บท ธานอส ไปครอง

- ปี 2004 ไดแอน เลน ภรรยาคนที่ 2 ของจอช โบรลิน โทรแจ้งความตำรวจว่าโดนจอชทำร้ายร่างกาย แต่พอตำรวจมาถึงเธอกลับไม่เอาความ แล้วบอกว่าเป็นความเข้าใจผิดกันเอง

- ปี 2008 จอช โบรลิน โดนตำรวจจับพร้อมกับทีมงานในกองถ่ายภาพยนตร์ "W" อีก 5 คน เหตุจากการทะเลาะวิวาทในบาร์ รัฐหลุยเซียนา สุดท้ายทั้งหมดโดนปล่อยตัว ไม่โดนตั้งข้อหา


บท บัค เฟอร์กูสัน ใน The Legacy of a Whitetail Deer Hunter


- ในหนัง The Legacy of a Whitetail Deer Hunter (2017) จอช โบรลิน เพิ่มน้ำหนักตัวเองถึง 18 กิโลกรัม เพื่อบทนำในเรื่องนี้



- ตอนที่รับบทเป็น "Jonah Hex" ฮีโร่ที่รอยแผลเป็นน่าเกลียดบนครึ่งหน้าขวา เพื่องานเมคอัพ จอช จำเป็นต้องโกนหนวดเคราออกครึ่งหนึ่ง ทำให้เขาต้องไปไหนมาไหนแบบมีหนวดเคราอยู่แค่ครึ่งหน้า

- และใน "Jonah Hex"นี่แหละ ที่เกิดผิดพลาดในฉากต่อสู้ระหว่างจอช กับ จอห์น มัลโควิช เป็นผลให้นิ้วหัวแม่มือของจอห์น มัลโควิช หัก

- หลังเข้ากล้อง No Country for Old Men (2007) ได้ 2 วัน จอช ก็เกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้ม ทำให้หัวไหล่เจ็บ ที่น่าบังเอิญก็คือบทในหนังของเขาก็โดนยิงที่หัวไหล่เช่นกัน ก็เลยกลายเป็นว่าการบาดเจ็บที่หัวไหล่ของเขาจึงไม่ใช่ปัญหาในการถ่ายทำ กลับดูสมจริงขึ้นด้วย



- ปี 2008 มีผลงานกำกับเองเรื่องแรก "X" หนังสั้นความยาวแค่ 15 นาที รับบทนำโดย อีเด็น โบรลิน ลูกสาวของเขาเองกับภรรยาคนแรก

- หลังแสดงหนังเรื่องที่ 2 Thrashin ในปี 1986 จอช โบรลิน เว้นห่างจากงานแสดงอยู่หลายปี เพราะ ไม่พอใจผลงานการแสดงของตัวเอง คิดว่าแสดงไว้แย่มาก



- จอช ต้องรับบทเป็น แดน ไวท์ เกย์คู่ขากับ ฌอน เพนน์ ใน Milk (2008) ซึ่งเขามีความวิตกกังวลสูงกับการรับบทเกย์ แต่แล้ว ฌอน เพนน์ ก็มาจูบปากเขา เพื่อลดความกังวล (จริง ๆ จะเพิ่มความกังวลขึ้นไหมเนี่ย) ผลสุดท้าย จอช ได้รับการชื่นชมสรรเสริญจากสังคมชาวเกย์ กับการถ่ายทอดบทบาท แดน ไวท์ ได้สมจริง



- เขาลดน้ำหนักลง 13 กิโลกรัมภายในเดือนเดียว เพื่อรับบทใน  Wall Street: Money Never Sleeps (2010) ซึ่งเดิมเป็นบทของ ฆาเวีย บาร์เด็ม แต่ก็ปฏิเสธไป

- จอช โบรลิน มีทรัพย์สินทั้งหมด 35 ล้านเหรียญ